เจ้าหน้าที่ผู้ให้คำปรึกษาประจำโครงการ Freedom Home
: The Exodus Road
: Nonprofits / องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร
: 1291
: 28 September 2021
29 October 2021
The Exodus Road คือองค์กรไม่แสวงกำไร ทำงานด้านการป้องกัน และปราบปรามการค้ามนุษย์มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีพื้นที่ทำงานในภูมิภาคเอเชีย ทั้งอินเดีย อาเซียนรวมถึงประเทศไทย สำหรับประเทศไทยนั้นเราได้ดำเนินกิจกรรมด้านการป้องการ และปราบปรามการ ค้ามนุษย์มาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2553 และได้รับการจดทะเบียนเป็นมูลนิธิในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2556 ปัจจุบัน มูลนิธิฯได้ขึ้นทะเบียนเป็นองค์กรต่อต้านการค้ามนุษย์กับกระทรวงพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ ตามระเบียบคณะกรรมการกำกับและปราบปรามการค้ามนุษย์ว่า ด้วยการจดทะเบียนองค์กรเอกชนพ.ศ. 2552
เรากำลังมองหาเจ้าหน้าที่ผู้ให้คำปรึกษาที่มีทักษะและประสบการณ์ เพื่อมาร่วมดูแลผู้เข้าร่วมโครงการที่เคยตกเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์ สำหรับหน้าที่ในตำแหน่งนี้เจ้าหน้าที่ผู้ให้คำปรึกษานั้นจะทำหน้าที่ช่วยให้ผู้เข้าร่วมโครงการเข้าใจผลกระทบจากบาดแผลทางใจของพวกเขาที่ส่งผลต่อ จิตใจ, ร่างกาย, อารมณ์ ของพวกเขา และช่วยให้พวกเขาพัฒนากลไกสำหรับการเผชิญปัญหา และแผนความปลอดภัยเพื่อตัวของพวกเขา ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ผู้ให้คำปรึกษาก็จะต้องช่วยให้ผู้เข้าร่วมโครงการสามารถที่จะตัดสินใจเลือกเกี่ยวกับความปลอดภัยทางร่างกายและอารมณ์ของพวกเขาเหล่านั้น และแนะนำการฝึกอบรมและงานที่เหมาะสมให้กับพวกเขา เจ้าหน้าที่ผู้ให้คำปรึกษาประจำโครงการฟรีด้อมโฮมจะต้องทำความเข้าใจในผลกระทบทางใจของแต่ล่ะคน และทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับ แม่บ้าน และ เจ้าหน้าที่สังคมสงเคราะห์ และสามารถที่จะวิเคราะห์ความต้องการของผู้เข้าร่วมโครงการ และทักษะในการทำงานร่วมกับภายในองค์กรณ์, ภาคเอกชน, ภาครัฐ, และ NGO
วัตถุประสงค์ของงาน : เจ้าหน้าที่ผู้ให้คำปรึกษานั้นจะต้องใช้ความรู้ในหลายสาขาอาชีพเพื่อในการที่จะช่วยเหลือเหยื่อจากการค้ามนุษย์ และผู้ที่มีบาดแผลทางใจในวัยเด็ก. เจ้าหน้าที่ผู้ให้คำปรึกษานั้นทำการประเมินผู้เข้าร่วมโครงการที่รับตัวมาใหม่เบื้องต้นร่วมกับทางสถานพยาบาล และให้คำแนะนำในการดูแลและการรักษาในลำดับถัดไป. เจ้าหน้าที่ผู้ให้คำปรึกษานั้นจะทำหน้าที่ในการดูแลการรักษาสุขภาพจิตของผู้เข้าร่วมโครงการแต่ล่ะคนที่มีบาดแผลทางใจในทุกๆสัปดาห์ ควบคู่ไปกับการรักษากับทางสถานพยาบาลที่ได้กำหนดไว้ ตลอดจนถึงการจิตบำบัดแบบกลุ่มร่วมกับผู้ที่มีบาดแผลทางใจคนอื่นๆ, การช่วยเหลือผู้เข้าร่วมโครงการที่อยู่ในในยามวิกฤติ, และให้การสนับสนุนทางด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับจิตใจ; ควบคู่ไปกับการสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสำหรับการรักษาสำหรับผู้เข้าร่วมโครงการทุกคน. นอกจากงานในการให้คำปรึกษาแล้ว, เจ้าหน้าที่ผู้ให้คำปรึกษายังจะต้องช่วยสนับสนุนนักสังคมสงเคราะห์ในการสอนทักษะพื้นฐานต่างๆ, การฝึกอบรมทางธุรกิจ, และช่วยให้ผู้เข้าร่วมโครงการค้นพบเส้นทางอาชีพของตนเอง
พื้นที่ในการปฏิบัติงาน : จังหวัดชลบุรี ประเทศไทย
รายงานตรงกับ : เจ้าหน้าประสานงานโครงการ AFTER CARE
เจ้าหน้าที่ผู้ให้คำปรึกษาประจำโครงการ Freedom Home (บ้านอิสระ)
มูลนิธิเพื่ออิสรภาพ มีความมุ่งมั่นในการที่จะพัฒนา, ดำเนินการ, ทบทวน และดูแลโครงการนำร่องที่ให้การสนับสนุนหลังการช่วยเหลือให้กับเหล่าผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์มีอายุ 18 ปีขึ้นไปในประเทศไทย
เราตระหนักดีว่าเหยื่อของการค้ามนุษย์แต่ล่ะคนนั้นมีเรื่องราวของตนเองที่ต่างกันไป, ถึงแม้ว่าพวกเขาเหล่านั้นจะมีอดีตที่ยากลำบาก แต่ มูลนิธิเพื่ออิสรภาพ เชื่อว่าหากพวกเขาเหล่านั้นสามารถที่จะเข้าถึงความปลอดภัย, การเยียวยารักษา, และโอกาส พวกเขาเหล่านั้นก็สามารถที่จะก้าวข้ามและไปสู่อนาคตที่มีความหวังได้ และเมื่อคำนึงถึงสิ่งเหล่านั้นแล้ว, โครการหรีด้อมโฮมจึงเป็นสถานที่ที่รวบรวมเหล่าผู้ที่เคยตกเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์มาไว้เพื่อที่จะมาดูแล, หาวิธีการต่างๆที่มีความยืดหยุ่นสูงและเหมาะสม ที่จะช่วยให้สามารถเข้าถึงเหยื่อที่ได้รับบาดแผลทางใจเหล่านั้นได้, จำกัดขอบเขตในการสนับสนุน, และโครงการในการช่วยให้พวกเขาเหล่านั้นกลับสู่สังคมแบบรายบุคคลโดยอิงจากสิทธิ์, การเยียวยารักษาและทางเลือกของพวกเขาเหล่านั้น
หน้าที่และความรับผิดชอบหลัก
ดำเนินการประเมินทางสถานพยาบาลและให้คำแนะนำในการรักษา
- ให้คำปรึกษาทางด้านบาดแผลทางใจแบบรายบุคคลในทุกๆสัปดาห์
- ทำการการประเมินด้านชีวจิตสังคม (biopsychosocial) อย่างครอบคลุม
- ใช้มาตรการทางจิตวิทยาต่างๆ ที่ได้มาตรฐาน เช่น PCL 5 สำหรับอาการ PTSD และ PHQ-9 สำหรับภาวะซึมเศร้า
- ทำการประเมินความปลอดภัย และความเสี่ยงของผู้เข้าร่วมโครงการ, และวางแผนความปลอดภัยสำหรับผู้เข้าร่วมโครงการที่มีพฤติกรรมฆ่าตัวตาย, ก้าวร้าว, หรือทำร้ายตนเอง
- ทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่คนอื่นๆในการวางแผนการรักษาแบบองค์ร่วมให้กับผู้เข้าร่วมโครงการ
- หากมีความจำเป็น ให้จัดหาการรักษาจากนอกองกรณ์ที่มีความเป็นมืออาชีพ และเชื่อถือให้กับผู้เข้าร่วมโครงการ และประสานงานกับผู้แนะนำการรักษาของสถานพยาบาล
ดูแลในส่วนของการป้องกันภาวะวิกฤตของบาดแผลทางใจ, การเข้าไปช่วยเหลือผู้ที่ตกอยู่ในภาวะวิกฤต, และค่อยติดตามภาวะวิกฤต
- ให้การตอบสนองทันทีต่อวิกฤตในด้านต่างๆไม่ว่าจะเป็นทางสถานพยาบาลและพฤติกรรมในโครงการ
- คอยติดตามและเข้าไปช่วยเหลือผู้ที่ตกอยู่ในภาวะวิกฤต และการวางแผนความปลอดภัยกับร่วมกับผู้เข้าร่วมโครงการ
- ดำเนินการหารือเพื่อเข้าไปช่วยเหลือร่วมกับเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ และผู้เข้าร่วมโครงการ
เข้ารับการฝึกอบรม และใช้หลักสูตรการรักษาบาดแผลทางใจ
- เข้าร่วมการฝึกอบรมทั้งหมด และดูแลผู้มีบาดแผลทางใจตามขั้นต้องของโครงการฟรีด้อมโฮม
- เข้าร่วมการดูแลกับทางสถานพยาบาล ทั้งในรายบุคคลและแบบกลุ่มในทุกๆสัปดาห์
- มีความมุ่งมั่นในการที่จะเข้าใจตัวเอง และมีทักษะในการสื่อสารกับกลุ่ม
เดินทางไปกับผู้เข้าร่วมโครงการเมื่อมีการดำเนินกระบวนการทางกฎหมาย
- เดินทางร่วมกับผู้เข้าร่วมโครงการไม่ว่าจะในช่วงกลางวันหรือกลางคืน เพื่อไปยังจังหวัดต่างๆทั่วประเทศ ในกรณีที่มีความจำเป็นที่ต้องเข้าร่วมกระบวนการทางกฎหมายในชั้นศาล
- ช่วยเหลือที่ปรึกษากฎหมายของผู้เข้าร่วมโครงการในการช่วยให้ผู้เข้าร่วมโครงการเตรียมพร้อมสำหรับการขึ้นศาล
- ให้การสนับสนุนทั้งในด้านอารมณ์และจิตใจกับผู้เข้าร่วมโครงการ ทั้งก่อน, ระหว่าง, และหลังกระบวนการทางกฎหมาย
ช่วยในการปรับปรุงรูปแบบการบำบัดแบบกลุ่มที่มีอยู่ เพื่อให้สอดคล้องกับต้องการของโครงการฟรีด้อมโฮม
- ทบทวนรูปแบบของการบำบัดแบบกลุ่มในปัจจุบัน, เพื่อเสนอสิ่งที่ควรที่จะแก้ไข, และสร้างแผนการดำเนินงานสำหรับการแก้ไขนั้น
- จัดทำเอกสาร และคู่มือสำหรับรูปแบบการรักษาของโครงการฟรีด้อมโฮม
- วางแผนและดำเนินการบำบัดแบบกลุ่มในแต่ล่ะสัปดาห์ พร้อมรายงานผล
ทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับทีมผู้บริหาร, นักสังคงสงเคราะห์, และแม่บ้านเพื่อให้การดูแลบาดแผลทางใจให้กับผู้อยู่อาศัยอย่างทั่วถึง
- เข้าร่วมการประชุมตามที่กำหนดไว้ เช่นการประชุมทีม, การฝึกอบรม, การประชุมกรณีศึกษา, และการประชุมสรุปของทีม เพื่อการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ.
การเสริมสร้างทักษะและความเข้าใจให้กับกลุ่มผู้เข้าร่วมโครงการ
- ช่วยให้ผู้เข้าร่วมโครงการแต่ล่ะคนฝึกทักษะพื้นฐานในด้านต่างๆเช่น ทักษะในการสื่อสารที่ดี, ความสามารถในการแก้ปัญหาและตัดสินใจ, และวิธีการแก้ไขความขัดแย้ง
- ช่วยให้ผู้เข้าร่วมโครงการค้นพบงานที่พวกเขาสนใจ และช่วยผลักดันเพื่อสร้างความพร้อมให้กับพวกเขา
- เตรียมความพร้อมให้ผู้เข้าร่วมโครงการจัดการกับความกดดัน และความคาดหวังทั้งในการทำงานและการเรียน ที่พวกเขาอาจจะพบเจอก่อนและในระหว่างการทำงานหรือเรียนของพวกเขา
- ให้ความรู้ในเรื่องของโทษของสิ่งเสพติด
- ให้ความรู้เกี่ยวกับความหลากหลายในด้านต่างๆในที่ทำงาน
- ช่วยผู้เข้าร่วมโครงการค้นหากิจกรรมที่เหมาะกับพวกเขา
สอนทักษะต่างๆที่จำเป็นในการใช้ชีวิต และให้ความรู้เกี่ยวกับการจัดการธุรกิจ และการเงินตามหลักสูตร
- ประสานงานกับนักสังคมสงเคราะห์เพื่อจัดทำบทเรียนในเรื่องของทักษะต่างๆจำเป็นในการใช้ชีวิต เพื่อทำให้แน่ใจว่าผู้เข้าร่วมโครงการจะได้รับความรู้ที่จำเป็นเพื่อให้สามารถตัดสินใจได้อย่างปลอดภัยในทุกๆด้านสำหรับอนาคตของพวกเขา
- ทบทวนความรู้ในเรื่องของทักษะต่างๆจำเป็นในการใช้ชีวิตให้กับผู้เข้าร่วมโครงการแต่ล่ะคนโดยให้สอดคล้องกับอาชีพและช่วงการศึกษาของแต่ล่ะคน
- จัดการฝึกอบรมให้กับผู้เข้าร่วมโครงการในเรื่องของทักษะการจัดการธุรกิจ และการเงินในทุกๆสัปดาห์
- ร่วมกันตรวจหาสิ่งที่ควรจะปรับปรุงในบทเรียนหรือความรู้ของผู้เข้าร่วมโครงการกับหัวหน้างานหรือผู้ที่เกี่ยวข้องในทีม
- ดูแลและคอยติดตามเงินเดือนหรือค่าจ้างของผู้เข้าร่วมโครงการเพื่อประโยชน์ของตัวพวกเขา
การจัดการความสัมพันธ์กับเหล่าผู้มีส่วนได้เสียภายนอก
- คอยช่วยเหลือและรักษาความสัมพันธ์เชิงบวกกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง, องค์กร NGOs อื่นๆ, และนายจ้างในภาคเอกชน
- ทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่สังคมสงเคราะห์ในการแนะนำอาชีพต่างๆ, การฝึกอบรมทักษะรอง, ให้การสนับสนุนทางด้านอารมณ์, และทักษะในการแก้ปัญหาความขัดแย้งให้กับผู้เข้าร่วมโครงการทั้งในก่อนและระหว่างทำงาน, และแก้ปัญหาต่างๆร่วมกับนายจ้างเมื่อจำเป็น
- ติดตามและประเมินความก้าวหน้าของผู้เข้าร่วมโครงการให้ไปสู่เป้าหมายที่ได้ตั้งไว้, พร้อมทั้งทบทวนแผนงาน และให้การช่วยเหลือตามความจำเป็น
การจัดเก็บเอกสารต่างๆให้กับผู้เข้าร่วมโครงการ
- เก็บรักษาเอกสารต่างๆของผู้เข้าร่วมโครงการทั้งหมด ทั้งในรูปแบบของลายลักษณ์อักษร และออนไลน์ เช่นเอกสารการประเมินเบื้องต้น, เอกสารบันทึกกรณีต่างๆ, แผนการรักษากับทางสถานพยาบาล, และอื่น ๆ
- ใช้ทั้งเอกสาร และไฟล์ดิจิทัลในการบันทึกการเข้าไปช่วยเหลือ และความคืบหน้าของผู้เข้าร่วมโครงการทั้งหมด
- ติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวล่าสุดเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่จำเป็นสำหรับการปฏิบัติงาน
- แจ้งให้หัวหน้างานทราบหากพบความเป็นไปได้ในการพัฒนาบริการหรือเอกสาร
ส่วนงานอื่นๆที่ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบจะนำไปปรึกษากับหัวหน้างานของคุณตามความเหมาะสม
- ดูแลกะการทำงานของแม่บ้านในแต่ล่ะสัปดาห์
- ช่วยแม่บ้านเตรียมอาหารสำหรับคนในบ้านพัก
- พาผู้เข้าร่วมโครงการไปยังสถานพยาบาล
- ทำงานร่วมนักสังคมสงเคราะห์ในการประเมินครอบครัว และชุมชน
คุณสมบัติและทักษะด้านต่างๆ
ทักษะหลักที่สำคัญสำหรับการปฏิบัติงานในตำแหน่งนี้คือ
- มีทักษะในการสื่อสาร (การเขียน / การพูด) และความเข้าใจในความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล
- มีจรรยาบรรณส่วนบุคคล, ความซื่อสัตย์, ความหลากหลาย และความน่าไว้วางใจที่โปร่งใส
- สามารถที่จะนำทางได้ ภายใต้ความคลุมเครือในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
- มีทักษะด้านมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี
- มีความยืดหยุ่นและความแข็งแกร่งทางจิตใจ
- เปิดใจและอดทนต่อผู้คนและสถานการณ์ที่แตกต่างกันไป
- มีทักษะในการสังเกตและการตัดสินใจที่ดี
- สามารถพัฒนาฐานอารมณ์ให้มั่งคง และจัดการกับความเครียดและความวุ่นวายทางอารมณ์ที่เกิดจากการทำงานกับผู้ที่มีบาดแผลทางใจได้
- สามารถทำงานภายใต้ความกดดันได้
- มีทักษะการวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ที่ดี
- มีทักษะการจัดการความแตกต่างทางวัฒนธรรมที่ดี
- มีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น โดยเฉพาะผู้ที่เคยเผชิญกับการกดขี่และมีบาดแผลทางใจ
- มีกระบวรการทางความคิดที่เป็นเหตุเป็นผล และทักษะการแก้ปัญหาที่ดี
- มีทักษะการพูดเพื่อเป็นตัวแทนให้กับผู้ที่อยู่ในกลุ่มเปราะบาง
- มีทักษะการทำงานเป็นทีมที่ดี
- มีความกระฉับกระเฉง, ความยืดหยุ่น, การทำงานร่วมกับผู้อื่น, และ การทำงานเชิงรุก; เป็นสมาชิกที่สามารถส่งสร้างการส่งเสริมในเชิงบวก และในเชิงประสิทธิภาพ ในการการฝึกอบรมเชิงกลยุทธ์ และในโครงการริเริ่ม
- ทักษะในด้านภาษา: มีความเชี่ยวชาญในภาษาอังกฤษ (หากสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษจะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ)
- ได้รับวุฒิปริญญาตรีในสาขาวิชา สังคมสงเคราะห์, จิตวิทยา หรือ สาขาอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับทางด้านจิตใจ; และ/หรือ มีประสบการณ์ทำงานในสายงานที่เกี่ยวข้อง
- มีประสบการณ์อย่างน้อย 3 ปีในสายงานสังคมสงเคราะห์ หรือในงานให้คำปรึกษาที่เกี่ยวข้องกับงานสังคมสงเคราะห์
- มีประสบการณ์ในการให้คำปรึกษารายบุคคล
- มีความรู้ในการดูแลผู้ที่มีบาดแผลทางใจ และการรักษาสุขภาพจิต
- มีประสบการณ์ในการทำงานร่วมกับผู้ที่มีบาดแผลทางใจ
- มีประสบการณ์ในการเขียนบันทึกกรณีการรักษา, อื่นๆ
- สามารถที่จะทำงานร่วมกับองค์กรได้หลากหลาย ทั้งภาครัฐและเอกชน
- มีความเชี่ยวชาญในโปรแกรม Microsoft Word และ Excel
- หากว่ามีประสบการณ์การในการทำงานในส่วนของโครงการดูแลหลังการรับตัวจะพิจารณาเป็นพิเศษ
ขั้นตอนการสมัครและสัมภาษณ์
ขั้นตอนที่ 1 ในการสมัคร : ส่งเอกสารตามที่ระบุในด้านล่างนี้เข้ามาทางอีเมล์ karn@theexodusroad.com หรือติดต่อสอบถามได้ที่ 065-9897525
- จดหมายแนะนำตัว
- เรซูเม่ (ประวัติส่วนบุคคล, การศึกษา และการทำงาน)
- บุคคลอ้างอิง
ขั้นตอนที่ 1 ในการสัมภาษณ์: เข้ารับการสัมภาษณ์แบบตัวต่อตัว, สถานที่จะแจ้งให้ทราบในภายหลัง
ขั้นตอนที่ 2 ในการสัมภาษณ์: การสัมภาษณ์ผ่านทางโทรศัพท์ และหรือการประชุมผ่านระบบ VDO Call
The Exodus Road เป็นผู้ว่าจ้างที่ให้โอกาสอย่างเท่าเทียมกัน นอกจากนี้ The Exodus Road ไม่ได้สังกัดอยู่กับศาสนาใดศาสนาหนึ่ง และจะไม่เลือกปฏิบัติบนพื้นฐานของเชื้อชาติ, สีผิว, ศาสนา (ลัทธิ), เพศ, การแสดงออกทางเพศ, อายุ, ถิ่นกำเนิด (บรรพบุรุษ), ความทุพพลภาพ, สถานภาพการสมรส, รสนิยมทางเพศ, หรือสถานะทางการทหาร, ในกิจกรรมหรือการปฏิบัติการใดๆ. หากท่านมีความต้องการที่จะสมัคร, กรุณาส่งเอกสารตามที่ได้กำหนดไว้ ตำแหน่งนี้พร้อมสำหรับการจ้างงานทันที, โดยพิจารณาการสมัครเป็นรายบุคคล
Contact : karn@theexodusroad.com / 065-9897525
ผู้ประสานงาน / Coordinatorเจ้าหน้าที่ประจำสำนักงาน / Officer