ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 เว็บ thaingo.org จะปรับค่าบริการจากเดิม 300 บาทเป็น 500 บาท
From January 1, 2023, thaingo.org will adjust job announcement fee from 300 baht to 500 baht.

ThaiNGO team support only thaingo.org and thaingo.in.th.

เว็บไซต์ที่ทีมงาน thaingo ดูแลคือ thaingo.org และ thaingo.in.th เท่านั้น

แอมเนสตี้เรียกร้องทางการไทยสอบสวนอย่างเร่งด่วน หลังมีการใช้กระสุนยิงใส่ผู้ชุมนุมที่เป็นเด็ก

 

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลเผยทางการไทยต้องสอบสวนอย่างเร่งด่วนต่อกรณีที่มีการยิงผู้ชุมนุมในกรุงเทพฯ ส่งผลให้เด็กคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัส  หลังรายงานข่าวยืนยันว่ามีเด็กสามคนได้รับบาดเจ็บจากกระสุนปืน ระหว่างการชุมนุมบริเวณหน้าโรงพักเมื่อวันจันทร์ที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมา

แม่ของเด็กที่อายุ 15 ปี บอกกับแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลว่า ลูกชายของเธออยู่ในอาการโคม่า เนื่องจากถูกยิงบริเวณลำคอด้านซ้าย และกระสุนยังคงค้างอยู่บริเวณก้านสมอง 1 นัด และพบกระดูกต้นคอซีกที่ 1 และ 2 แตก และจากรายงานข่าวพบผู้ชุมนุมอีกหนึ่งคนอายุ 14 ปี ถูกยิงที่ไหล่ขวา ส่วนผู้ชุมนุมรายที่สามอายุ 16 ปี ถูกยิงเข้าที่เท้าขวา

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้ใช้กระสุนจริงและไม่สามารถยืนยันได้ว่าใครเป็นผู้ยิง

เอ็มเมอร์ลีน จิล รองผู้อำนวยการสำนักงานภูมิภาคฝ่ายวิจัย แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลเผยว่า การใช้กระสุนจริงกับผู้ชุมนุมเป็นเรื่องที่น่ากังวลอย่างยิ่ง ทางการไทยต้องสอบสวนอย่างเร่งด่วนต่อการยิงผู้ชุมนุมที่เป็นเด็กและเยาวชนทั้งสามคน รวมทั้งการใช้อาวุธปืนอย่างไม่ชอบด้วยกฎหมายทุกกรณี

“รัฐบาลไทยต้องสอบสวนสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตามการรายงานทั้งหมดที่มีข้อมูลว่าตำรวจมีการใช้กำลังโดยเกินกว่าเหตุและไม่จำเป็นต่อผู้ชุมนุมในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา และให้นำตัวผู้กระทำอันตรายทางร่างกายที่เกิดขึ้นกับผู้ชุมนุมหรือผู้รับผิดชอบต่อเหตุการณ์ดังกล่าวเข้ารับการไต่สวนและลงโทษตามกระบวนการยุติธรรม”

ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้ชุมนุมได้ทำการชุมนุมตามท้องถนนในกรุงเทพฯ และจังหวัดอื่นๆ ทั่วประเทศไทย เพื่อแสดงความกังวลต่อแนวทางการจัดการกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และปัญหาทางการเมืองอื่น ๆ ทางการได้เพิ่มการใช้กระสุนยาง เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง และแก๊สน้ำตา เพื่อสลายการชุมนุม แม้ว่าการชุมนุมต่างๆ จะเป็นไปโดยสงบ

ในรายงานฉบับล่าสุดเรื่อง “หน้าแสบเหมือนโดนไฟไหม้” (My face burned as if on fire) แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลเรียกร้องให้ทางการไทยเลือกใช้แนวทางที่ไม่รุนแรง รวมทั้งการเจรจา การไกล่เกลี่ยและการสนทนา เพื่อลดความตึงเครียดของสถานการณ์ที่อาจนำไปสู่ความรุนแรง  

ทางแอมเนสตี้ยังเรียกร้องให้ทางการไทยประกันว่า จะมีการใช้อุปกรณ์ต่างๆ รวมทั้งแก๊สน้ำตาหรือเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงเฉพาะในสถานการณ์ที่เกิดความรุนแรงอย่างกว้างขวาง โดยมีเป้าประสงค์เพื่อให้บุคคลสลายตัว และให้นำมาใช้เฉพาะเมื่อแนวทางอย่างอื่นไม่สามารถควบคุมความรุนแรงได้แล้วเท่านั้น 

“การควบคุมการชุมนุมที่ผ่านมา รวมทั้งการที่เจ้าหน้าที่มักถูกปล่อยให้ลอยนวลพ้นผิดจากการใช้กำลังเกินกว่าเหตุและบางครั้งมีการใช้อาวุธที่มีความรุนแรงต่อผู้ชุมนุม แสดงให้เห็นถึงความจำเป็นที่ทางการไทยต้องเปลี่ยนแนวทางการปฏิบัติงาน หากเจ้าหน้าที่มีความจริงใจที่จะป้องกันการละเมิดสิทธิมนุษยชน เจ้าหน้าที่จะต้องยุติการปราบปรามหรือสลายการชุมนุมที่เกิดขึ้นโดยสงบ พร้อมทั้งหันมาสนับสนุนและคุ้มครองการชุมนุมแทน”

“การปฏิบัติต่อการชุมนุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมทั้งการชุมนุมที่ไม่สงบ จะต้องเป็นไปตามหลักความจำเป็นและได้สัดส่วน เจ้าหน้าที่ต้องงดเว้นจากการใช้กำลังเกินกว่าเหตุ ซึ่งเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในระหว่างการชุมนุมตั้งแต่ปี 2563

“เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องคุ้มครองสิทธิของผู้ชุมนุมโดยสงบ ไม่ให้ถูกแทรกแซงหรือถูกกระทำด้วยความรุนแรงจากบุคคลที่สามด้วย”  เอ็มเมอร์ลีน จิลกล่าว

 

ข้อมูลพื้นฐาน

คืนวันที่ 16 สิงหาคม 2564 มีการใช้กระสุนจริงยิงใส่ผู้ชุมนุมใกล้กับสถานีตำรวจดินแดง ใจกลางกรุงเทพฯ ขณะที่ตำรวจพยายามสลายการชุมนุมที่เกิดขึ้นโดยสงบ ตำรวจปฏิเสธว่าไม่ได้ใช้กระสุนจริง

โรงพยาบาลราชวิถีซึ่งให้การรักษาพยาบาลผู้ชุมนุมที่ได้รับบาดเจ็บ แถลงเมื่อวันที่ 17 สิงหาคมว่า ผู้ชุมนุมอายุ 15 ปียังอยู่ในอาการโคม่า หลังถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ส่วนผู้ชุมนุมอายุ 14 ปีซึ่งถูกยิงที่ไหล่ขวา สามารถออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว 

ประชาชนชาวไทยหลายหมื่นคนได้ร่วมชุมนุมประท้วงเรียกร้องการปฏิรูปตามระบอบประชาธิปไตย โดยส่วนใหญ่เป็นการชุมนุมอย่างสงบ ในช่วงระหว่างปี 2563 จนถึง 2564 ที่กรุงเทพฯ และตามจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศไทย แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลพบว่า ทางการได้ตอบโต้การชุมนุมด้วยการเพิ่มการใช้แก๊สน้ำตา กระสุนยาง และอาวุธที่ไม่มีความรุนแรงถึงชีวิตโดยพลการ และยังมีการใช้กำลังโดยไม่จำเป็นและเกินกว่าเหตุ อีกทั้งเจ้าหน้าที่ผู้กระทำไม่ต้องรับผิดชอบใด ๆ ทั้งนี้ศาลแพ่งได้มีคำสั่งให้ตำรวจใช้ความระมัดระวังในการควบคุมการชุมนุม  

ขณะที่การชุมนุมเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ตำรวจได้ยิงแก๊สน้ำตาและเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงใส่ผู้ชุมนุม อีกทั้งได้จับกุมและควบคุมตัวผู้ชุมนุมอย่างสงบจำนวนมาก รวมทั้งมีการใช้อำนาจตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งในความเป็นจริงเป็นประกาศใช้เพื่อควบคุมโรคโควิด-19 แม้ว่ามีรายงานการติดเชื้อในบรรดาผู้ต้องขังหลายพันคนในสถานคุมขัง ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา

ตามข้อมูลของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ระหว่างเดือนกรกฎาคม 2563 ถึงสิงหาคม 2564 มีบุคคลอย่างน้อย 800 คนที่ถูกดำเนินคดีอาญา รวมทั้งข้อหายุยงปลุกปั่น หมิ่นประมาทกษัตริย์ ความผิดทางคอมพิวเตอร์ การละเมิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยรวมทั้งหมด 374 คดีที่เกิดขึ้นเนื่องจากการเข้าร่วมการชุมนุมอย่างสงบ ในจำนวนนี้มี 69 คดีเป็นการดำเนินคดีกับเด็กและเยาวชน

 

 

**********
 
เนาวรัตน์ เสือสอาด
หัวหน้าฝ่ายสื่อสารองค์กร
Naowarat Suesa-ard
Media and Communications Supervisor