ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 เว็บ thaingo.org จะปรับค่าบริการจากเดิม 300 บาทเป็น 500 บาท
From January 1, 2023, thaingo.org will adjust job announcement fee from 300 baht to 500 baht.

ThaiNGO team support only thaingo.org and thaingo.in.th.

เว็บไซต์ที่ทีมงาน thaingo ดูแลคือ thaingo.org และ thaingo.in.th เท่านั้น

ชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนฯเฉลิมฉลอง 1 ปีชัยชนะในการปิดเหมืองหินและโรงโม่ได้สำเร็จ

ชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนฯเฉลิมฉลอง 1 ปีชัยชนะในการปิดเหมืองหินและโรงโม่ได้สำเร็จ พร้อมตั้งศาลปู่ย่าภูผาฮวก ปักธง 3 ข้อเรียกร้อง ผูกต้นไม้ และโปรยดิน บนพื้นที่เคยทำเหมืองหิน

 

          13 สิงหาคม 64 ชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนเขาเหล่าใหญ่-ผาจันได ได้จัดกิจกรรม “ Exploring the Eight Wonders of Thailand ( Dongmafai) 365 วันกับสิ่งมหัศจรรย์ของการต่อสู้ที่ดงมะไฟ” เพื่อเฉลิมฉลอง 1 ปีชัยชนะในการปิดเหมืองหินและโรงโม่ได้สำเร็จ รวมทั้งรำลึกถึง 365 วันในการตั้งหมู่บ้านภูผาฮวกพัฒนาชาวประชาสามัคคีที่บริเวณถนนทางเข้า-ออกเหมืองหินและโรงโม่หิน ต.ดงมะไฟ อ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู

          ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 63 ชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ฯ ได้เข้าร่วมประชุมเจราจากับรองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภูและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพูดคุยเจรจาขอให้ปิดเหมืองหินและโรงโม่อย่างถาวร แต่การเจรจากลับล้มเหลวเพราะทางจังหวัดหนองบัวลำภูและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิเสธที่จะปิดเหมืองหินและโรงโม่ให้ชาวบ้าน โดยอ้างระเบียบขั้นตอนของราชการชาวบ้านจึงได้เดินทางมาปิดทางเข้า-ออกเหมืองด้วยตัวเองและทำการตั้งหมู่บ้านเพื่อปักหลักชุมนุมพร้อมข้อเรียกร้อง 3 ข้อ ปิดเหมืองหินและโรงโม่ ฟื้นฟูภูผาป่าไม้ และพัฒนาดงมะไฟเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศวัฒนธรรมและอารยธรรมโบราณคดี

          ปัจจุบันชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนฯ ได้ทำการปิดเหมืองหินและโรงโม่สำเร็จแล้ว และกำลังเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูภูผาป่าไม้ให้กลับมาอุดมสมบูรณ์เหมือนเดิม เพื่อวางรากฐานไปสู่การพัฒนาดงมะไฟเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศวัฒนธรรมและอารยธรรมโบราณคดีในอนาคต

          โดยเวลาประมาณ 07.00 น. ชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ฯได้นิมนต์พระสงฆ์จำนวน 9 รูปมาที่หมู่บ้าน เพื่อทำบุญตักบาตรครบรอบ 1 ปีสู่การปิดเหมืองหินดงมะไฟ ซึ่งก่อนเริ่มกิจกรรมได้ทำการตรวจคัดกรองโควิด-19 ผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกคนด้วยการวัดอุณหภูมิ ลงทะเบียน ใส่หน้ากากอนามัย และล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์

          ซึ่งต่อมาเวลาประมาณ 09.00 น. ชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนฯ ก็ได้เดินทางไปยัง ‘ภูผาฮวก’ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เคยทำเหมืองหิน เมื่อเดินทางไปถึงบริเวณถนนทางขึ้นภูผาฮวกก็ได้ทำการจอดรถยนต์และรถมอเตอร์ไซค์ไว้ เพื่อตั้งขบวนเดินเท้ามุ่งหน้าไปบนภูผาฮวก การตั้งขบวนเป็นลักษณะเรียง 3 แถวหน้ากระดาน พร้อมถือธงสีเขียวที่ระบุข้อความว่า ‘เดิน-ปิด-เหมือง’ โดยมีชาวบ้านที่ถือรูปภาพชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ฯที่เสียชีวิตไปแล้วเดินนำหน้าขบวน พร้อมเคาะฆ้องขนาดเล็กไปตลอดทางของการเดินขบวนเพื่อเอาฤกษ์เอาชัย เมื่อเดินเท้าถึงบริเวณภูผาฮวกด้านบน ชาวบ้านก็ได้ชู 3 นิ้วพร้อมตะโกน 3 ข้อเรียกร้อง “ปิดเหมืองหินและโรงโม่ ฟื้นฟูภูผาป่าไม้ และพัฒนาดงมะไฟเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศวัฒนธรรมและอารยธรรมโบราณคดี”

          จากนั้นก็ทำพิธีการตั้งศาลปู่ย่าภูผาฮวกเพื่อให้ปกปักรักษาภูผาฮวกไม่ให้ถูกทำลายอีก ต่อมาตัวแทนชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ฯ ก็ได้อ่านคำประกาศจากภูผาฝนโปรยปราย ครบรอบ 1 ปี ยึดเหมืองหินดงมะไฟ ถัดมาก็ได้ทำการปักธงใหญ่สีขาวที่ระบุ 3 ข้อเรียกร้อง หลักจากนั้นก็ได้ทำการนำผ้าสีเขียวที่ได้เขียนชื่อของตนเองไว้นำไปผูกกับต้นไม้น้อยใหญ่บริเวณภูผาฮวกเพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าจะดูแลรักษาต้นไม้นี้ไปตลอดชีวิต พร้อมทำการโปรยดินที่นำมาจากบ้านของตนเองลงบนพื้นดินพื้นหินภูผาฮวกที่ถูกระเบิดทำลายจากการทำเหมืองหิน เพื่อแสดงสัญลักษณ์ว่าจะฟื้นฟูพื้นที่แห่งนี้ให้กลับมาอุดมสมบูรณ์ตามเดิม

          หลังจากนั้นก็ได้เดินทางกลับมายังหมู่บ้านผาฮวกฯ เพื่อรับชมวีดีโด “เปิดกล่องความทรงจำ ย้อนเส้นทางการต่อสู้” ที่รวบรวมการต่อสู้ของชาวบ้านตลอด 365 วันที่ผ่านมา พร้อมทั้งเล่าถึงความรู้สึกและสิ่งมหัศจรรย์ตลอด 365 วันกับการต่อสู้ที่ดงมะไฟ ขณะเดียวกันเยาวชนนักอนุรักษ์น้อยก็ได้ทำกิจกรรม “จากผืนดินสู่ความฝัน ป่าของฉันในวันใหม่” เพื่อบอกเล่าเรื่องความฝันในการฟื้นฟูภูผาป่าไม้ของเยาวชนนักอนุรักษ์น้อยผ่านการวาดภาพลงบนกระเป๋า และต่อมาชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ฯ ก็ได้ทำการเปิดตลาดช้อปของดีของเด็ดดงมะไฟออนไลน์ ซึ่งก็ได้รับความสนใจและมีผู้เข้าร่วมช้อปของดีของเด็ดดงมะไฟเป็นจำนวนมาก

          นางลำดวน วงศ์คำจันทร์ ชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนฯ ได้กล่าวถึงความรู้สึกว่า “รู้สึกดีใจและภูมิใจที่เราสามารถทำสำเร็จตามที่เราได้วางแผนไว้ ข้อเรียกร้องทั้ง 3 ข้อ ก็กำลังจะสำเร็จ เราปิดเหมืองหินและโรงโม่สำเร็จแล้ว กำลังฟื้นฟูภูผาป่าไม้ให้กลับมาอุดมสมบูรณ์ เหลือเพียงแค่พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเท่านั้น หลังจากนี้เราก็จะทำการปลูกต้นไม้เพื่อซ่อมแซมต้นไม้ที่ตายไปที่เราได้ทำการปลูกไปก่อนหน้านี้ ซึ่งจะปลูกไปเรื่อยๆ จนกว่าจะหมดฤดูฝนถึงจะหยุด เพราะกล้าไม้ที่เราเพาะชำไว้ยังมีอีกเยอะและเพียงพอต่อการปลูกซ่อมแซม”

          ทั้งนี้ในที่ 14 ส.ค.64 ยังมีการจัดงานเสวนาออนไลน์ในหัวข้อ “ Exploring the Eight Wonders of Thailand ( Dongmafai) 365 วันกับสิ่งมหัศจรรย์ของการต่อสู้ที่ดงมะไฟ” เพื่อพูดคุยถอดบทเรียนการต่อสู้ชัยชนะตลอดระยะเวลา 1 ปี ของกลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนเขาเหล่าใหญ่-ผาจันได ที่เข้ายึดเหมืองและก้าวต่อไปของการฟื้นฟูป่าชุมชน

          โดยมีวิทยากรร่วมเสวนา ดังนี้

          • มนีนุด อุทัยเรือง ผู้หญิงนักปกป้องสิทธิมนุษยชนและตัวแทนกลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนเขาเหล่าใหญ่-ผาจันได

          • สอน คำแจ่ม ผู้หญิงนักปกป้องสิทธิมนุษยชนและตัวแทนกลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนเขาเหล่าใหญ่-ผาจันได

          • อังคณา นีละไพจิตร ผู้หญิงนักปกป้องสิทธิมนุษยชนอดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ

          • ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า

          • เลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ ตัวแทนเครือข่ายประชาชนผู้เป็นเจ้าของแร่

          • จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา นักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยและสิทธิชุมชน

          • สุภาภรณ์ มาลัยลอย นักกิจกรรมเพื่อความยุติธรรมด้านสิ่งแวดล้อมจากมูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม

          ดำเนินรายการโดย ฐาปนีย์ เอียดศรีชัย สำนักข่าว The Reporters และ ปรานม สมวงศ์ จาก Protection International

          ร่วมทั้งยังมีกิจกรรมมากมายอาทิเช่นการเปิดตลาดออนไลน์ของดีของเด็ดดงมะไฟที่ให้ผู้รับชมเสวนาได้ร่วมสนับสนุนการต่อสู้ของชาวบ้านดงมะไฟ ร่วมรับฟังการขับขานบทเพลงผาซ่อนคอยผ่านชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนฯ และรับฟังการบอกเล่าเรื่องราว 365 วันกับสิ่งมหัศจรรย์ของการต่อสู้ต้านเหมืองหินที่ดงมะไฟจากนักสู้ 5 รุ่น ซึ่งสามารถรับชมพร้อมกันในได้ที่เพจสำนักข่าว The Reporters ใน 12.30 น. เป็นต้นไป