ThaiNGO team support only thaingo.org and thaingo.in.th.

เว็บไซต์ที่ทีมงาน thaingo ดูแลคือ thaingo.org และ thaingo.in.th เท่านั้น

Back

กป.อพช. - กป.อพช.ใต้ ประณามการคุกคามประชาชนเวที EEC ปราจีนบุรี เรียกร้องรัฐ EEC และธรรมศาสตร์แสดงความรับผิดชอบ และคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน

กป.อพช. - กป.อพช.ใต้ ประณามการคุกคามประชาชนเวที EEC ปราจีนบุรี เรียกร้องรัฐ EEC และธรรมศาสตร์แสดงความรับผิดชอบ และคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน

29 September 2025

41

คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) และ คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคใต้ (กป.อพช.ใต้) ออกแถลงการณ์ต่อกรณีเหตุการณ์การคุกคามเครือข่ายประชาชน ปราจีนเข้มแข็งที่เข้าร่วมเวทีรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการขยายพื้นที่ เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2568 ณ จังหวัดปราจีนบุรี

ทั้ง 2 องค์กรระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชน และสะท้อนให้เห็นถึงการจัดเวทีที่ปราศจากความจริงใจในการสร้างการมีส่วนร่วม พร้อมทั้งเรียกร้องไปยัง สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC)ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี, และ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้แสดงความรับผิดชอบอย่างเป็นรูปธรรม และรับประกันว่ากระบวนการมีส่วนร่วมในอนาคตจะต้องเกิดขึ้นอย่างเสรี ปลอดภัย และโปร่งใส

 

เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2568 มีการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นต่อร่างรายงานการศึกษาโครงการจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายการขยายพื้นที่ EEC โดยสำนักงาน EEC ร่วมกับส่วนราชการจังหวัดปราจีนบุรี และสถาบันวิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ในเวทีดังกล่าว เครือข่ายประชาชนกลุ่ม ปราจีนเข้มแข็ง ซึ่งได้รับหนังสือเชิญเข้าร่วม ได้ถูกเจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) จำนวน 2-3 นาย เข้าตรวจค้นกระเป๋า โดยอ้างเหตุผลว่าเป็นการค้นหาอาวุธ ทั้งที่ผู้เข้าร่วมไม่ได้มีพฤติการณ์น่าสงสัยแต่อย่างใด

เหตุการณ์เกิดขึ้นต่อหน้าผู้แทนจากหน่วยงานรัฐและสถาบันการศึกษา แต่ไม่มีการทักท้วงหรือยับยั้งการกระทำดังกล่าว ทำให้ผู้ถูกตรวจค้นรู้สึกอับอาย หวาดกลัว และถูกลดทอนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ อีกทั้งสร้างบรรยากาศกดดันแก่ผู้ที่เข้าร่วมแสดงความคิดเห็นในเวที

นอกจากนั้น ผู้เข้าร่วมประชุมยังสะท้อนว่าการจัดเวทีครั้งนี้มีลักษณะเป็นเพียง พิธีกรรมโดยไม่ได้เปิดโอกาสอย่างเสรีให้ประชาชน โดยเฉพาะผู้เห็นต่างได้แสดงความคิดเห็นอย่างเท่าเทียม ขณะที่ผู้สนับสนุนโครงการกลับได้รับเวลาและพื้นที่ในการแสดงออกอย่างเต็มที่

 

แถลงการณ์ กป.อพช. ชี้เป็นการลุแก่อำนาจและเพิกเฉยต่อสิทธิประชาชน

เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2568 คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) ได้ออกแถลงการณ์ประณามเหตุการณ์ดังกล่าว โดยระบุว่าเป็นการ ลุแก่อำนาจของเจ้าหน้าที่รัฐ และเป็น ความเพิกเฉยอย่างน่าละอายของผู้จัดเวที ไม่ว่าจะเป็นสำนักงาน EEC มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หรือผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี

กป.อพช. เห็นว่า เหตุการณ์นี้ทำลายความหมายที่แท้จริงของเวทีรับฟังความคิดเห็น และสะท้อนเจตนาที่ไม่ได้ต้องการสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง หากแต่จัดเวทีขึ้นเพื่อให้กระบวนการแล้วเสร็จไปเท่านั้น

แถลงการณ์ยังชี้ว่า การพัฒนาที่รัฐพยายามนำเสนอในนามของ EEC ไม่ได้สร้างความมั่นคงในชีวิตประชาชน แต่กลับผลักให้ประชาชนกลุ่มเปราะบางต้องเผชิญความเสี่ยงและผลกระทบโดยตรง ขณะที่เสียงคัดค้านกลับถูกกดทับและปิดกั้น

กป.อพช.จึงได้เรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเร่งด่วนใน 3 ประเด็นสำคัญ ได้แก่

  1. ผู้จัดเวทีต้องแสดงความรับผิดชอบ โดยไม่ใช้เวทีครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายงานการรับฟังความคิดเห็นใด ๆ เนื่องจากมีการละเมิดสิทธิประชาชนอย่างชัดเจน
  2. ต้องรับประกันว่ากระบวนการมีส่วนร่วมในอนาคตจะเกิดขึ้นอย่างเสรี ปราศจากการปิดกั้น ข่มขู่ หรือแทรกแซงจากเจ้าหน้าที่รัฐ และต้องจัดในสถานที่สาธารณะที่เอื้อต่อการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างเท่าเทียม
  3. เปิดเผยข้อมูลอย่างครบถ้วนและตรงไปตรงมา โดยเคารพสิทธิของประชาชนอย่างแท้จริง

นอกจากนี้ กป.อพช. ยังได้ตั้งคำถามตรงไปยังหน่วยงานผู้จัดงานว่า จะยังคงเพิกเฉยต่อการละเมิดสิทธิและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของประชาชนต่อไปอีกหรือไม่

 

แถลงการณ์ กป.อพช.ใต้ ชี้เวทีรับฟังความคิดเห็นเป็นเพียงพิธีกรรม

ต่อมาในวันที่ 23 กันยายน 2568 คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคใต้ (กป.อพช.ใต้) ได้ออกแถลงการณ์อีกฉบับหนึ่ง สนับสนุนข้อเรียกร้องของ กป.อพช. และชี้ให้เห็นรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับบรรยากาศในเวที

แถลงการณ์ กป.อพช.ใต้ ระบุว่า เวทีดังกล่าวเต็มไปด้วยการควบคุมและการสร้างความหวาดกลัว ไม่ว่าจะเป็นการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ อส. ไว้ทั่วห้อง การตรวจค้นกระเป๋าโดยเฉพาะผู้หญิง หรือการจำกัดเวลาและการโต้แย้งเมื่อผู้เห็นต่างแสดงความคิดเห็น ตรงกันข้ามกับผู้สนับสนุนโครงการที่ได้รับโอกาสพูดอย่างเต็มที่

กป.อพช.ใต้ยังวิจารณ์ว่า การจัดเวทีในครั้งนี้ไม่ต่างจากการทำ พิธีกรรมเพื่อผลักดันโครงการ โดยไม่ได้เปิดโอกาสให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบเข้ามามีส่วนร่วมอย่างแท้จริง

แถลงการณ์ยังเชื่อมโยงไปถึง ความล้มเหลวของ EEC ในการจัดการปัญหามลพิษ การควบคุมกลุ่มทุน และการกระจายรายได้ ซึ่งสร้างความกังวลให้กับประชาชนในพื้นที่ และยิ่งทำให้การผนวกจังหวัดปราจีนบุรีเข้าเป็นส่วนหนึ่งของ EEC ถูกตั้งคำถามมากขึ้น

กป.อพช.ใต้จึงเรียกร้องไปยังสำนักงาน EEC ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้แสดงความรับผิดชอบและปรับปรุงกระบวนการศึกษา โดยต้องเป็น กระบวนการที่ครอบคลุม เป็นกลาง ปราศจากการปิดกั้นและคุกคาม รวมถึงต้องเปิดเผยข้อมูลอย่างครบถ้วนและโปร่งใส

 

ข้อเรียกร้องร่วม

แม้จะแถลงต่างวันกัน แต่ข้อเรียกร้องหลักของทั้ง 2 องค์กรสอดคล้องกันในประเด็นสำคัญ นั่นคือ

  • การประณามการคุกคามและละเมิดสิทธิประชาชนในเวทีปราจีนบุรี
  • การเรียกร้องให้ผู้จัดงานแสดงความรับผิดชอบอย่างเป็นรูปธรรม
  • การย้ำว่ากระบวนการมีส่วนร่วมในอนาคตต้องเป็นไปอย่างเสรี โปร่งใส และปราศจากการข่มขู่
  • การเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะอย่างครบถ้วน ตรงไปตรงมา และให้เกียรติสิทธิของประชาชน

 

ภาพสะท้อนต่อบทบาทสถาบันการศึกษาและรัฐ

ทั้ง 2 แถลงการณ์ยังได้ตั้งคำถามต่อ บทบาทของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในฐานะผู้รับผิดชอบด้านการวิจัยและการจัดเวที โดยเห็นว่าการเพิกเฉยต่อการละเมิดสิทธิในครั้งนี้เป็นการบั่นทอนเกียรติภูมิและพันธกิจของมหาวิทยาลัย

นอกจากนี้ ยังสะท้อนถึงความสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับประชาชนที่กำลังถูกท้าทาย เนื่องจากหากรัฐยังคงเดินหน้าโครงการโดยไม่ฟังเสียงคัดค้าน ย่อมจะยิ่งสร้างความไม่ไว้วางใจ และขยายรอยร้าวระหว่างรัฐกับประชาชนให้รุนแรงยิ่งขึ้น

 

เหตุการณ์คุกคามเครือข่ายปราจีนเข้มแข็ง ในเวทีรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการขยายพื้นที่ EEC จังหวัดปราจีนบุรี ไม่เพียงแต่เป็นเหตุการณ์เฉพาะหน้า แต่ยังสะท้อนถึง ปัญหาเชิงโครงสร้างในการจัดกระบวนการมีส่วนร่วมของรัฐไทย ที่ยังคงถูกตั้งคำถามมาโดยตลอด

แถลงการณ์ทั้ง 2 ฉบับจาก กป.อพช. และ กป.อพช.ใต้ ได้ตอกย้ำให้เห็นถึงความจำเป็นที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้อง ทบทวนบทบาท แสดงความรับผิดชอบ และปรับปรุงกระบวนการมีส่วนร่วมให้เป็นไปอย่างเสรี ปลอดภัย และโปร่งใส เพื่อไม่ให้การพัฒนาเป็นเพียงการผลักดันเชิงโครงการ แต่เป็นการสร้างอนาคตที่มีความหมายต่อทุกคนอย่างแท้จริง

 

Recent posts