• Home
• Content
• สามก๊ก ตอนที่ 9 สามก๊ก กับการเมืองไทย ( ตอนจบ )

สามก๊ก ตอนที่ 9 สามก๊ก กับการเมืองไทย ( ตอนจบ )

1523

หลังจากดูซีรีส์สามก๊กจบ แล้วก็ดูหนังเรื่องไม่ได้ หมายถึง หนังอื่นๆมันจืดชืดไปหมด ข้อดีและข้อเสียของการดูหนังคุณภาพคือ ทำให้รู้ว่า ภาพยนตร์ดีๆ มันทำให้เราได้อะไรมากมายในเรื่องแง่คิด แต่ข้อเสียก็คือทำให้โลกของการดูหนังเราเปลี่ยนไป จริงๆ ผมดูดูสามก๊กแต่ละตอนได้แง่คิดทุกวัน ทุกตอน แต่คงเอามาเขียนไม่หมด จนดูจบ ผ่านไปหลายวันมันความรู้สึกน่าจะเขียนถึงสักบทความ ว่า สิ่งที่ชวนให้คิดจากสามก๊กมีอะไรบ้าง แน่นอนอันดับแรกเลยคือ เล่ห์เหลี่ยม กลเกม หรือ กลยุทธสงคราม ในแบบโบราณ อันดับที่สองคือ การมองเห็น อ่านใจ มนุษย์ หรือภาวะความเป็นมนุษย์ มนุษย์ที่มีอำนาจ มัวเมาอำนาจ ความซื่อสัตย์และความกลับกลอก นานาต่างๆ อันดับที่สาม บทเรียนของสงครามการแย่งชิงและความทุกข์ยากของราษฎร ไพร่พล และอันดับสุดท้าย การเมือง และความสัมพันธ์ทางอำนาจ

การเมืองในสามก๊ก ที่เห็นคือการความสัมพันธ์ของก๊กต่างๆ ที่ต้องดำเนินการทางการทูต หรือ ความสัมพันธ์ระหว่างเมืองต่อเมือง เพื่อจับขั้วอำนาจ ถ่วงดุล และ รักษาความมั่นคง เสถียรภาพของอำนาจไว้

การเมืองไทยตลอดประวัติศาสตร์ จนถึงปัจจุบัน ไม่มีอะไรแตกต่างจากสามก๊ก มากนัก ในสามก๊ก มี  ซุนกวนแห่งกังตั๋ง เล่าปี่แห่งเสฉวน หรือจกก๊ก และโจโฉแห่งตูลู่ ภาคกลาง หรือ วุ่ยก๊ก ในการเมืองไทย ก็มีประชาธิปัตย์ ชาติไทย กูมิใจไทย พวกนี้เป็นก๊กเล็ก ที่รอจับมือ ต่อรองเอาประโยชน์ และเพื่อไทย กับ พลังประชารัฐ ที่พยายามเป็นพี่เบิ้ม เบียดขับ กวาดคะแนน เพื่อชิงอำนาจการเมือง และก้าวไกล ที่มาเติมสีสันทางเลือก

ตัวแปรสำคัญของการเมืองไทย คือ พวกก๊กเล็กสามก๊กแรกที่เดินหมากรอเสียบ พวกนี้ยึดพื้นที่ตัวเองเป็นไม้ตาย พวกนี้เดินหมากแบบไม่โต แต่ก็ไม่ตาย ประชาธิปัตย์ ยึดเสียงภาคใต้ ภูมิใจไทยยึดอีสานใต้ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ชาติไทย ยึดสุพรรณบุรีและภาคกลางนิดหน่อย นอกนั้นของเพื่อไทย ส่วนพลังประชารัฐ ไทยภักดี เทือกนี้ ได้คะแนนเหล่าเสนาอำมาตย์ ขุนนางข้าราชการเก่าๆ กองทัพ และ คะแนน จัดตั้ง แบบขี้โกง คือ ส.ว. 250 เสียง !!

ความสนุกและลุ้นระทึก ของสามก๊ก คือ เมื่อสิ้นยุคตัวก่อการแต่ละก๊ก รุ่นลูก จะดำเนินการต่ออย่างไร เพื่อไทยของ ทักษิณ ทักษิณก็เหมือนโจโฉ คือ ไม่ไว้ใจใคร ดันพี่เขย น้องสาว ไปผจญหมากเกมส์ อำนาจจนบ้านแตกสาแหรกขาด วันนี้ก็ดันลูกสาวขึ้นมานำทัพ โจโฉ เก่งกล้า เฉียบลึก แต่พอมารุ่นลูกๆ กลับ อ่อนด้อย ลูกๆ ทั้งหมดของโจโฉ ทั้ง โจผี โจฉ่อง โจสิด โจงั่ง ล้วนแต่ ไร้ความสามารถ วันนี้ เมื่อทักษิณ ดันลูกสาว แน่นอนมีความเป็นไปได้ ว่า อาจจะกวาดคะแนนแบบแลนด์สไลด์ เพราะหลายปีมานี่ กลุ่มอำนาจเก่าที่ขึ้นมาบัญชาการบริหารประเทศ ล้วนไร้น้ำยา ทำบ้านเมือง เศรษฐกิจป่นปี้หมด ประชาชนถอดใจ ถอยห่าง และหยุดสนับสนุน กลุ่มอำนาจเก่า ขุนนาง คร่ำครึเหล่านี้ ไม่น้อย กระนั้นพวกนี้มีไพ่สำคัญคือ กองทัพ  ถ้าเพื่อไทยชนะขาด หมากเกมส์ จากนี้ไปภายใต้บังเหียนลูกสาว ผู้อ่อนเยาว์ จะทำอย่างไร ในทีมกุนซือที่อุดมไปด้วยเสือ สิงห์ กระทิง แรด

เค้าลางแห่งความขัดแย้ง แบบสามก๊ก บนหน้าประวัติการเมืองในประเทศนี้ยังไม่จบ จริงๆ ในแง่หนึ่งที่ผมรู้สึกได้ว่า ความขัดแย้ง การปะทะ ประสานกันทางอำนาจ เป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะในระบอบประชาธิปไตย แต่ กฎ กติกา ที่เข้มแข็งมากกว่าสำคัญ ซุนกวน โยกย้ายความสัมพันธ์ จากเล่าปี่มาโจโฉ จากโจโฉมาเล่าปี่ ก็เพราะว่า การถ่วงดุล อำนาจนั้นสำคัญ ดังนั้น การเมืองไทย ยังไงๆ ก็ยังลาก ความขัดแย้งนี้ไปอีกยาว เพราะนี่คือการเมือง ตราบใดที่ประชาชนคนไทย ไม่ตื่นตัวและลุกขึ้นมาสำแดงพลัง กำหนดทิศทางการเมืองไทย คอยถ่วงดุล ตรวจสอบ และ เคลื่อนไหวเรียกร้อง ให้ การเมืองทำหน้าที่เพื่อประชาชน ให้การมีเอกภาพ และที่สำคัญ ให้การเมืองมีประสิทธิภาพ อย่างแท้จริง มองอนาคตประเทศ มองความเสียหาย ความทุกข์ยากของประชาชนที่ผ่านๆ มา มากกว่า สนใจแค่การแย่งชิง อำนาจผลประโยชน์ และ หล่อเลี้ยงขั้วขัดแย้งไว้ เป็นเกมส์

บ้านเมืองเราเวลานี้ กำลังซวนเซใกล้ทรุดลงพังครืน ทุกที ด้วยปัญหาการชักหน้าไม่ถึงหลัง เศรษฐกิจย่ำแย่เงินภาษีเข้าคลังเก็บไม่ได้ ไม่พอ ไม่ทัน  ข้าราชการที่มีมากเกินไปกำลังผจญปัญหาไม่มีงบประมาณ ชาวบ้าน ชาวไร่ชาวนาต่างไปนั่งออ รอเงินเยียวยา และ ผู้กุมอำนาจ ไร้ประสิทธิภาพในการบริหารหรือ แก้ปัญหาปากท้อง เอาใหม่ๆ ครับ มอง วิเคราะห์นักการเมือง พรรคการเมือง ให้เฉียบ ให้ถี่ถ้วน เพื่อให้ได้คนมานำพาประเทศออกจากทางตัน

ผมว่าถึงเวลาที่ ปัญญาชน นักกิจกรรม นักเคลื่อนไหวและ ประชาชนผู้มีอุดมการณ์ รักประชาธิปไตย รักความถูกต้องเป็นธรรม

จะต้องนั่งลงถกเถียง แลกเปลี่ยน พูดคุยว่าการเมืองในประเทศเราจะไปทางไหน อย่างไรดี

โดย   เกษตรกรขบถ ไร่ทวนลม