922
หลังจากโจโฉขนะศึกที่กับไซเลี้ยง ก็เหมือนจะเหนื่อย และระอากับสงคราม รู้สึกหนักใจและเสียใจกับการล้มตายของไพร่พลและความอ่อนหล้าของทหาร
หลังจากยึดภาคกลางทั้งหมด ชนะศึก ม้าเฉียว ม้าเท้ง แห่งไซลี้ยงได้ มากมายถึง 9 เมือง รวมแล้วกว้างใหญ่ถึง 4 มลฑณ ครอบคลุมภาคกลาง ทั้งหมด ทำให้ โจโฉ รู้สึกว่า ทหารของตนนั้น เหนื่อยหน่ายอ่อนหล้ามาก เช้าวันหนึ่ง โจโฉยึนครุ่นนึกอยู่นาน จึงมีนโยบาย พักรบ ส้องสุมกำลังและฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศ ด้วย นโยบาย 3 ข้อ ทันที
“ ข้อที่ 1 ให้ละเว้นภาษี ชาวไซเลี้ยง เมืองที่ได้มาใหม่ เป็นเมืองที่ทุรกันดาร อดอยาก มีแต่การปล้นสะดม ต่อสู้ สงคราม และห้ามทหาร แตะต้อง ยื้อแย่ง พืชผล ชาวบ้าน ใครฝ่าฝืน ประหาร!!
ข้อที่ 2 ให้ทุน เมล็ดพันธุ์ ราษฎร ไปทำทุนตั้งต้นทำมาหากิน และละเว้นภาษี 3 ปี หลังจากนั้น ก็เก็บแค่ 3 ส่วน เข้าคลัง เพื่อบำรุงกองทัพ ที่เหลือให้ราษฎร
ข้อ 3 นำที่รกร้างว่างเปล่า ในไซเลี้ยง มาแจกจ่ายให้ทหารแก่ๆ อยากเกษียณ และที่สมัครใจ อยากไปอยู่ ทำกินที่ไซเลี้ยง ใครสมัครใจ ให้ทุน เมล็ดพันธุ์ ไปตั้งต้นด้วย”
อ่านวิสัยทัศน์ผู้นำ เมื่อพันกว่าปีก่อน กับอ่านวิสัยทัศน์ผู้นำ เมื่อ 8-9 ปี ที่แล้ว หลังรัฐประหารยึดอำนาจ ทำให้ประเทศบอบช้ำ ซ้ำซาก ห่างกันแค่ 9 ปี ต่างกันลืบลิ่ว ประเทศนี้ เป็นประเทศเกษตรกรรม คนส่วนส่วนทำเกษตร แบบล้าหลัง ทั้งเครื่องจักร เครื่องจักร เครื่องมือ แรงงานแพง แต่ราคาผลผลิตแสนถูก ประเทศที่ระบบราชการใหญ่เทอะทะ แต่ไร้ประสิทธิภาพ สิ้นเปลืองงบประมาณ ประเทศที่บรรดาผู้นำทหาร ดาหน้าเข้ามามีอำนาจทางการเมือง แต่ทำงานไม่เป็น ทำล่มจม พัง ประเทศที่ แต่งตั้งกุนซือแก่ๆ มาร่างกฎหมาย รัฐธรรมนูญ แต่อ้างว่า “ปฏิรูปการเมือง” แต่ได้ กฎหมายที่บรรจุความคิด ความฝันอันคับแคบ ล้าหลัง และวางหมากเกมกลอำนาจ ให้ยุ่งเหยิง ติดตัน เดินหน้าไม่ได้ ถอยหลังไม่ออก จนบัดนี้ ประเทศนี้กลายเป็น แมวขี้โรค จับหนูก็ไม่ได้ อดอยาก หิวโซ ไปทุกหย่อมหญ้า
โจโฉ รู้ว่า ทหารแก่ๆ นอกจากช่วยรบไม่ได้ แล้วยังถ่วงกองทัพ ก็จ้างให้ออก ไปทำการผลิต ไปสร้างเศรษฐกิจได้ แต่ ประเทศนี้ กลับเอาทหารแก่ มาครองอำนาจ แก่จนเดินไม่ได้แล้ว แต่ก็ยังนั่งควบตำแหน่งเสนาบดี กระทรวงใหญ่ๆ โจโฉทรราช เมื่อพันปีก่อน กลับรู้ว่า เมืองใด มีศักยภาพแบบใด ต้องพัฒนาไปทางไหน เป็นแบบใด ต้องใช้นโยบายแบบไหน ต้องให้ทุน ตรงไหน ต้องละเว้นภาษี หรือ เก็บน้อยๆ ให้โอกาสประชาชน ลืมตาอ้าปาก นี่คือ สติปัญญาโจโฉ เมื่อพันปีที่แล้ว
แต่ประเทศนี้ ให้ทุนผูกขาดหน้าด้านๆ เก็บเกี่ยว ยาวนาน เพิ่งแก้กฎหมายให้ชาวบ้านทำสุรา แต่เก็บภาษีสุราแบบโหด แล้วก็ ไม่อนุญาตให้จำหน่ายสุรา ง่ายๆ ใช้กลไก สาธารณสุข สสส.มาอ้าง เรื่องสุขภาพ แต่กับทุนใหญ่ ปล่อยให้กวาดต้อนผลประโยชน์ เกษตรกร ชาวนา นั่งออกันตามธนาคาร ธกส. เพื่อรอเบิกค่าชดเชย ไม่ส่งเสริมแปรรูป ทำตลาด ชาวสวน แก้ปัญหาผลผลิตราคาตกต่ำ ด้วยการขนไปเททิ้งหน้าทำเนียบ แต่ สรรพสามิตจังหวัด ไม่อนุญาตให้ ตั้งโรงบ่มแปรรูป กีดกัน อ้างระเบียบ มั่วไปหมด!!
จังหวัดสุรินทร์ เป็นเมืองหน้าด่าน หมายถึงมีประตูสู่การค้ากับเมืองอื่น ประเทศอื่น เป็นเมืองหน้าด่านมาแต่โบราณ แต่จนบัดนี้ ก็ยังเป็นเพิงสังกะสี ขายของเก่าซอมซ่อ ในขณะที่เมืองอื่นๆ เกิดใหม่ อย่างมุกดาหาร หนองคาย มีสะพาน มีประตูการค้า มีตลาดอาเซียน มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่โต เมืองหน้าด่านเก่าๆ อย่าง อรัญประเทศ แม่สอด แม่สาย ปาดังเบซา ใหญ่โตเป็น มหานครไปแล้ว “ช่องจอม” ของสุรินทร์ ยังเป็นตลาดเก่าๆโสโครก อยู่เลย จังหวัดนี้ ไม่มีแม้แต่ สนามบิน!!
ประเทศที่ประชาชน ใฝ่ฝันอยากเป็นขุนนาง เสนา อำมาตย์ เป็นประเทศที่ปกครองโดยราชการ ยึดเอาเงินงบประมาณแผ่นดินมาถลุง จัดงานเทิดทูนภักดีทั้งปี แต่ประชาชนมีหนี้สินต่อครัวเรือนพุ่งกระฉูด สิ้นหวัง การค้าฝืดเคือง นโยบายราชการก็กลวง ไร้ประสิทธิผล และสร้างภาพหลอก ๆ ไปวันๆ เฮ้ยยยย.... !! ไอ้โจโฉ มึงมาเกิดที่นี่ สักยุค ซิ
....
วันนี้ จูกัด ไนล์ บรรทุกไวน์ เต็มคันรถกลับบ้านอย่างเศร้าระทม คาดว่า จะไม่มาอีกแล้ว ภาคตะวันออก.... เข็ดไปอีกนาน !!
โดย เกษตรกรขบถ แห่ง ไร่ทวนลม
ติดต่อประสานงาน - Contact
Tel : 099-014-3797
ทศพร แกล้วการไร่ : ผู้ดูแลเว็บ - Webmaster
Tel : 080-078-4016
อัฎธิชัย ศิริเทศ : บรรณาธิการ - Editor
Tel : 082-178-3849
Email : webmaster@thaingo.org
Office Hours : Mon-Fri , 9.00-17.00
2044/23 ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ บางกะปิ ห้วยขวาง กรุงเทพ 10310
2044/23 New Phetchaburi Road, Bangkapi, Huai Khwang, Bankok 10310
+662 314 4112