940
อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ) รายงาน
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตาปรานีเสมอ มวลการสรรเสริญมอบแด่อัลลอฮฺผู้ทรงอภิบาลแห่งสากลโลก ขอความสันติสุขแด่ศาสนทูตมุฮัมมัด ผู้เจริญรอยตามท่านและผู้อ่านทุกท่าน
ข่าวคราวการระเบิดที่ชายแดนใต้เกือบ 20 จุดเมื่อ 17 สิงหาคม 2565 ก็ขอชื่นชมว่าภาคประชาชนยังไม่ท้อที่จะร่วมขับเคลื่อนกระบวนการสันติภาพต่อไป
#เกิดเหตุลอบวางระเบิดพร้อมกันหลายจุดต่อทุนใหญ่แม้ไม่เห็นด้วยแต่ไม่ควรมองข้ามข้อสังเกต
ผศ. ดร. พัทธ์ธีรา นาคอุไรรัตน์ สะท้อนต่อเหตุการณ์ความรุนแรงครั้งนี้ว่า
“รอมฎอนสันติสุข ยังสันติได้ ข้อเสนอ #เข้าพรรษาสันติสุข แม้จะยังไม่ลงนามตกลง แต่ข้อเสนอดังกล่าวประกาศไปในพื้นที่สาธารณะควรที่จะรับรู้ได้ทั่วกันแล้วว่ามีข้อเสนอนี้อยู่โปรดกรุณาเคารพข้อเสนอของผู้คนในพื้นที่
ไม่ว่าผู้ก่อเหตุคุณจะเป็นใครที่ก่อเหตุในครั้งนี้และในช่วงเวลาที่ยังเข้าพรรษาอยู่นี้
ข้าพเจ้าขอเชิญชวนผู้คนทั้งปวง ผู้ปฏิเสธความรุนแรงผู้ไม่เห็นด้วยกับการก่อเหตุความรุนแรงทุกชนิดไม่ว่าจะด้วยเหตุผลเพื่องบประมาณหรือเพื่ออะไรก็ตามขอให้ช่วยกันประนามผู้ก่อเหตุ
เสียงประชาชนทั่วประเทศเท่านั้นที่จะช่วยสนับสนุนปกป้องคุ้มครองให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ขายแดนใต้ปลอดภัยจากความรุนแรงได้”
อย่างไรก็แล้วแต่ไม่เห็นด้วยในการปฏิบัติการครั้งนี้ มีบทสะท้อนชวนคิดครั้งนี้ สะท้อนอะไรบ้างซึ่งผศ.เอกรินทร์ ต่วนศิริจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตปัตตานีได้สะท้อนที่ควรกับมาคิดว่าทุนนิยมที่กินรวบทุกพื้นที่ของประเทศไทยนั้นอนาคตจพเป็นอย่างไรบ้างที่ชายแดนภาคใต้ “เหตุการณ์การโจมตีร้านสะดวกซื้อพร้อมๆกันในปั้มน้ำมัน ทั้งสามจังหวัด (ปัตตานี ยะลา นราธิวาส) ถือว่าเป็นปฎิบัติการครั้งใหญ่ที่สุดที่พุ่งเป้าไปที่สถานที่เอกชน แน่นอนเป้าหมายไม่ใช่คน เจ้าหน้าที่รัฐ หรือสถานที่ราชการ สถานการณ์เปราะบางและไม่มีข้อสรุปใด ๆ ขอให้ทุกคนปลอดภัย”
อัฟนาน อับดุลลอฮ์สะท้อนว่า “ ทำไมต้องเซเว่น ทำไมต้องบิ๊กซี ควรมีคำอธิบาย
ไม่ว่าเหตุการณ์เมื่อคืน ใครอยู่เบื้องหลัง ไม่ควรให้สังคมเกิดความสงสัย
ณ เวลานี้ นักวิชาการ และ นักวิเคราะห์ ก็ยัง งง
นัยยะจริงๆคืออะไร ทำไมพุ่งเป้าไปที่ 2 แบรนด์นี้
ในเชิงเศรษฐกิจก็น่าสนใจ ในเชิงสังคมก็น่าติดตามคน 3 จังหวัดใต้จะรู้ดีว่า เวลามีร้านสะดวกซื้อติดแอร์มาอยู่ใกล้บ้าน มันมีผลทางสังคม ทางเศรษฐกิจอย่างไรบ้าง”ก่อนหน้านี้(16/8/65) ความเป็นจริงทั่วประเทศไทย ธุรกิจจากเซเว่นและร้านสะดวกซื้อเบรนดังเป็นผลของทุนนิยมผูกขาด ที่ส่งผลต่อร้านชำของชาวบ้าน มันจะกระทบความมั่นคงของชุมชนในอนาคต(
https://today.line.me/th/v2/article/NJPz78)ซึ่งต่างจากแนวคิดเศรษฐกิจเกื้อกูล (อ่านเพิ่มเติมใน
#ภาคประชาชนเคลื่อน
เครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพ จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ออกแถลงการณ์ เรื่อง ยุติการใช้ความรุนแรงต่อประชาขนผู้บริสุทธิ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ .(อ่านเพิ่มเติมใน https://share.csitereport.com/share.php?post_id=0000026170)
ส่วนมูลนิธิผสานวัฒนธรรม(NGO)แถลงการณ์ขอ
ยุติการใช้ความรุนแรงต่อผู้บริสุทธิ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ เช่นกันรวมทั้งมีข้อเสนอแนะต่อกระบวนการสันติภาพ กล่าวคือ
.
จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2565 ได้เกิดเหตุการณ์ซุ่มยิงที่ บ้านแลลูรัส ตำบล ริโก๋ อำเภอ สุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส ส่งผลให้ ประชาชน 2 ราย ได้แก่ นายสิทธิพล ฮกฮิ้น อายุ 42 ปี และ นายแพน ทองรมย์ 40 ปี ซึ่งเป็นอดีตอาสาสมัครทหารพราน เสียชีวิตขณะกำลังหาหมูป่าในสวนยางพารา
.
ล่าสุดในวันนี้ ( 15 สิงหาคม 2565) เวลา 06.30 น. ได้เกิดเหตุระเบิดในสวนยางพารา บริเวณปากทางเข้าวัดโคกโก ตำบลโต๊ะเด็ง อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส ส่งผลให้นางประทุม นักทอง อายุ 55 ปีได้รับบาดเจ็บสาหัส ขาขาดทั้งสองข้าง ขณะชาวบ้านสตรีรายนี้เข้าไปกรีดยาง และต่อมาในเวลาประมาณ 07.40 ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ดำเนินการปิดเส้นทางที่จะเข้าไปที่จุดเกิดเหตุ เกิดระเบิดขึ้นอีกครั้งส่งผลให้ จ่าสิบเอก สมชาย แดงเงิน เจ้าหน้าที่เสียชีวิต 1 ราย และมีเจ้าหน้าที่บาดเจ็บ 4 ราย (ขณะนี้ยังไม่ได้รับคำยืนยันว่าระเบิดที่ใช้ก่อเหตุเป็นรูปแบบใด)
.
มูลนิธิผสานวัฒนธรรมขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียหายทุกรายทั้งประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐ
และขอเน้นย้ำว่าการสังหารประชาชนผู้บริสุทธิ์เป็นอาชญากรรมทั้งตามกฎหมายในประเทศและกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ไม่ว่าจะเกิดจากการกระทำของฝ่ายใดในสถานการณ์ใดหรือโดยเหตุผลใดก็ตาม
.
ดังนั้นจึงขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่สืบสวน สอบสวน เพื่อนำตัวผู้กระทำความผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและดำเนินการตามหลักด้านสิทธิมนุษยชนอย่างเคร่งครัดเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของไทย
18 ส.ค.2565 - ที่โรงแรม ปาร์คอินทาว อ.เมือง จ.ปัตตานี คณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ (คพส.) นำโดย พลเอก วัลลภ รักเสนาะ หัวหน้ารคณะพูดคุยสันติสุข พลตรีธิรา แดหวา แม่ทัพน้อยที่ 4 เปิดประชุมคณะประสานงานระดับพื้นที่(สล.3) อีกครั้ง โดยมีกลุ่มผู้ประสานงานทั้ง 8 กลุ่ม เข้าร่วมกว่า 200 ท่าน
โดยที่ประชุมได้มีการพูดคุยเรื่องความคืบหน้า การดำเนินการพูดคุย สถานการณ์ภาคใต้ล่าสุด รวมถึงมีการพูดคุยตั้งข้อสังเกตุ และข้อเสนอในเรื่องสถานการณ์ความรุนแรง ใน 3 จังหวัดล่าสุดด้วย มีการเสนอเป็นรายจังหวัด ในที่ประชุมยังมีการยื่นหนังสือข้อเสนอจากกลุ่มสมาพันธ์ชาวไทยพุทธ จชต.เสนอเรื่องยุติความรุนแรง และเรื่องการทำงานในพื้นที่ ความถดถอยชาวไทยพุทธ และสมาคมสมาพันธ์โรงเรียนเอกชน จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยื่นข้อเสนอด้วย (คือ “เขตการศึกษาทางเลือกและปลอดกัญชา ยาเสพติดและอบายมุขทุกชนิด”อ่านเพิ่มเติมในhttps://share.csitereport.com/share.php?post_id=0000026204)ในเวทีนี้มีอย่างน้อยสองคนตัวแทนจากภาคประชาชนและผู้นำศาสนาพุทธขอให้แต่งตั้ง “ตัวแทนภาคประชาชนเป็นผู้สังเกตการณ์ การพูดคุยระหว่างรัฐไทยกับผู้เห็นต่าง”และต้องไม่ลืมผู้ได้รับผลกระทบจากทั้งสองฝ่ายให้มีส่วนร่วมบนโต๊ะพูดคุย
มูลนิธิผสานวัฒนธรรม สะท้อนว่า “การจะยุติวงจรความรุนแรงและแก้ไขปัญหาความขัดแย้งอย่างยั่งยืนได้นั้นจะต้องเกิดจากการมีส่วนร่วมของทุกฝ่ายและการมีบรรยากาศที่เอื้อต่อการเจรจาสันติภาพโดยเฉพาะบรรยากาศที่ประชาชนมีความปลอดภัยแม้ว่าทั้งสองฝ่ายเห็นว่าการเจรจาประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งจากการเจรจาสันติภาพครั้งที่ 5 เมื่อวันที่ 1-2 สิงหาคม 2565 ระหว่างคณะพูดคุยรัฐบาลไทยกับตัวแทนจากกลุ่ม BRN แต่อย่างไรก็ตามประชาชนและผู้สนใจติดตามกลับไม่ได้รับคำยืนยันจากทั้งสองฝ่ายว่าจะมีการยุติการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบอย่างไรในระหว่างการเจรจา รวมทั้งการหยุดยิงและการไม่ทำร้ายผู้บริสุทธิ์ทุกฝ่าย รวมทั้งในกระบวนการนี้ก็ยังขาดการมีส่วนร่วมของประชาชนทุกกลุ่ม และคู่ขัดแย้งอื่น ๆ ในการเจรจาสันติภาพที่ริเริ่มมาตั้งแต่ปี 2556
.
มูลนิธิผสานวัฒนธรรม จึงเสนอให้ทั้งสองฝ่ายในการเจรจามีข้อตกลงที่เป็นทางการ และเผยแพร่ให้สาธารณะรับรู้อย่างทั่วถึงและกว้างขวาง ในสารัตถะสามเรื่อง อันได้แก่ ลดความรุนแรง การปรึกษาหารือประชาชนในพื้นที่ และการแสวงหาทางออกทางการเมือง อย่างจริงจัง ทั้งนี้ขอให้ภาคประชาสังคม สื่อมวลชน และประชาชนทั่วไปเข้าไปมีส่วนร่วมในกระบวนการเจรจาสันติภาพ ติดตามและ ตรวจสอบเพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่มทุกฝ่ายมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินโดยเฉพาะหลังสถานการณ์โควิด-19 ที่ทุกฝ่ายต้องเผชิญหน้ากับโอกาสทางเศรษฐกิจและสังคมที่ขาดหายไป ทุกฝ่ายจึงต้องร่วมกันดำเนินการแก้ไขความขัดแย้งด้วยสันติวิธีโดยเร็ว เพื่อร่วมสร้างสันติภาพที่ยั่งยืนต่อไป
#เพื่อนรักต่างศาสนากำลังเบ่งบานท่ามกลางข่าวการระเบิดและความรุนแรง
18 สิงหาคม 2565 ฆอซาลี อาแว รายงานว่า โครงการเพื่อนรักต่างศาสนา : ผู้นำกับการขับเคลื่อนถักทอสันติภาพและการปรองดองในสังคมไทย" โดย #สถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล ณ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ อ.เมือง จ.ยะลา และวัดพรหมประสิทธิ์ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี #ข้อสังเกต การร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในวันนี้และเมื่อวานนั้น เป็นช่วงข่าวดังทั้งระเบิดและความรุนแรงที่ผู้คนกำลังสนใจข่าวดังกล่าว แต่เราได้พยายามสร้างปัจจัยแวดล้อมสันติภาพอย่างยั่งยืนของผู้คนมาตลอดและยังจะขับเคลื่อนต่อไป(อ่านเพิ่มเติมใน https://www.komchadluek.net/news/education/503224)
ติดต่อประสานงาน - Contact
Tel : 099-014-3797
ทศพร แกล้วการไร่ : ผู้ดูแลเว็บ - Webmaster
Tel : 080-078-4016
อัฎธิชัย ศิริเทศ : บรรณาธิการ - Editor
Tel : 082-178-3849
Email : webmaster@thaingo.org
Office Hours : Mon-Fri , 9.00-17.00
2044/23 ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ บางกะปิ ห้วยขวาง กรุงเทพ 10310
2044/23 New Phetchaburi Road, Bangkapi, Huai Khwang, Bankok 10310
+662 314 4112