15-16 กรกฎาคม 2565 นักปกป้องสิทธิมนุษยชนและนักอนุรักษ์น้อยกลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนเขาเหล่าใหญ่-ผาจันได ประมาณ 30 คน ได้ร่วมแรงร่วมใจดำนารวมผาฮวก เพื่อนำข้าวที่ได้มาเสริมเสบียงในการเคลื่อนไหวต่อสู้คัดค้านการทำเหมืองหินปูนและโรงโม่หิน รวมถึงขับเคลื่อนในการฟื้นฟูผาป่าไม้ที่ถูกได้รับผลกระทบจากการประกอบกิจการทำเหมืองแร่หินอุตสาหกรรมชนิดหินปูน (เพื่ออุตสาหกรรมก่อสร้าง) และโรงโม่หิน เพื่อให้ผืนป่ากลับมาอุดมสมบูรณ์วางรากฐานสู่การพัฒนาดงมะไฟเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศวัฒนธรรมและอารยธรรมโบราณคดีในอนาคต
โดยวันที่ 15 กรกฎาคม 2565 กลุ่มอนุรักษ์ฯและนักอนุรักษ์น้อยฯบางส่วนได้ช่วยไถนา คราดนา เพื่อเตรียมดินให้พร้อมสำหรับปักดำ และบางส่วนก็ทำหน้าที่ถอนต้นกล้าพร้อมมัดเตรียมไว้สำหรับปักดำในวันที่ 16 กรกฎาคม 2565
ซึ่งวันที่ 16 กรกฎาคม 2565 เวลา 08.00 น. กลุ่มอนุรักษ์ฯและนักอนุรักษ์น้อยฯร่วมกันดำนารวมผาฮวกในวันที่สอง โดยบรรยากาศการดำนารวมผาฮวกตลอดวันมีทั้งอากาศที่ร้อนอบอ้าวและฝนตกในบางครั้ง แต่กลุ่มอนุรักษ์ฯก็ไม่มีหวั่นต่อสภาพอากาศ เพราะความมุ่งมั่น อดทน เพื่อจะได้มีข้าวสำหรับคัดค้านเหมืองหิน และความหวังให้ต้นข้าวเติบโตงอกงามมีมากกว่า ดังพลังของกลุ่มอนุรักษ์ฯ ที่พบเจอกับเล่ห์เหลี่ยมของนายทุนที่พยายามผลักดันทำเหมืองในพื้นที่
ขณะที่น้องอนันต์ นักอนุรักษ์น้อยฯ ได้กล่าวแสดงความรู้สึกที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมดำนารวมผาฮวกว่า “รู้สึกสนุกสนานกับการทำนา และมีความสุขที่ได้ทำนารวม ทำงานเพื่อส่วนรวม” และน้องจิระยุทธ์ นักอนุรักษ์น้อยฯ กล่าวเสริมว่า “รู้สึกเหนื่อยแต่ก็สนุกกับการไถนาที่ทำเพื่อเสริมเสบียงคัดค้านเหมืองซึ่งเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม”
ด้านนางบัวลอง นาทา กลุ่มอนุรักษ์ฯ ได้กล่าวว่า “จะสู้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นทำนาหรือปลูกป่าฟื้นฟู เพราะเป็นวิถีและวิธีที่ชาวบ้านชาวไร่ทำนาอย่างเราทำได้และก็ถนัด”
การทำนารวมผาฮวกเป็นหนึ่งกิจกรรมที่หล่อรวมผู้คนทั้งหมู่ 6 บ้าน ที่ไม่เห็นด้วยกับการมีเหมืองในพื้นที่ เพราะเป็นการทำลายป่าไม้ธรรมชาติ ที่มีทั้ง ยาสมุนไพร เห็ด หน่อไม้ แหล่งน้ำซับซึม และเป็นแหล่งสร้างอากาศบริสุทธิ์ของหมู่บ้าน และการทำนารวมเสริมเสบียงคัดค้านเหมืองจะเกิดขึ้นทุกปี เพื่อสร้างพลังของการต่อสู้คัดค้านเหมืองในรูปแบบ Soft Power จนกว่าจะยุติการทำเหมืองอย่างถาวรและพื้นที่ถูกยกเลิกเป็นเขตแหล่งหิน เพื่อผลักดันพัฒนาดงมะไฟเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศวัฒนธรรมและอารยธรรมโบราณคดีตามข้อเรียกร้องข้อที่ 3 ในอนาคต