เกิดมาไม่เคยเห็นยุคไหน ที่คน “หน้าด้านหน้าทน” ขนาดนี้เลย ตั้งแต่เรื่อง รอง นายกฯ ประวิตร ใส่นาฬิกาหรูวันละเรือน แล้วบอกว่ายืม”เพื่อน”นายเปรมชัยกินเสือดำ รอง ผบ.ตร.อย่างศรีวราห์ ออกแรงปกป้องแก้ต่างว่า “ที่ว่าสัตว์มันทรมาน ทรมานยังไง สัตว์มันพูดบอกหรือ ?” นี่ก็เห็นแต่ความ “หน้าด้านหน้าทน” เป็นข่าวทุกวี่วัน วันนี้ มาถึงเรื่อง “บ้านพักตุลาการ” ยาวเหยียด ที่ประชาชนคนไทย คนเชียงใหม่ ออกมารุมด่า ด่าเช้าด่าเย็น ยันย่ำค่ำดึก ก็ยังด่าตื่นขึ้นมาด่า!! ก็ยังหน้ามึนทำเฉย ถามไปรัฐบาล ก็ดาหน้าออกมาทำมึนว่า บ้านมันสร้างไปแล้ว เสียงบ เสียเงินแล้ว แต่ทีชาวบ้าน อยู่อาศัยมาหลายชั่วอายุคน เป็น 10 เป็น 100 ปี ก็ยังถูกเผา ถูกไล่รื้อ อพยพ ลากถูให้ออก ทั้งๆ ที่มีสิทธิ มีกฎหมายรัฐธรรมนูญคุ้มครอง เกิดมาก็เพิ่งเคยเห็น บ้านเมืองไทยยุคนี้ ที่นักกฎหมาย ระดับศาล ออกมาอยู่เป็นชนชั้นอภิสิทธิ์ ระเริงในฐานะและเพิกเฉยต่อประชาชนผู้เสียภาษี และขุ่นเคืองต่อการให้เหตุผลที่ยากจะฟังขึ้นหรือยอมรับได้ ไม่ว่าจะเป็นประเด็นเรื่องแก้กฎหมาย เพื่อให้ได้สิทธิ์ใช้พื้นที่ป่าอนุรักษ์ จนกลายมาเป็นภาพป่าแหว่ง ประเด็นเรื่องมูลค่าบ้าน ที่แพงลิบลิ่ว ใหญ่โตอลังการ ไม่สมเหตุสมผลกับสภาพเศรษฐกิจ กับฐานะข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และประเด็นที่สาม เรื่องอนุรักษ์ก็อ้างว่าคนอยู่กับป่าได้ ทำให้อารมณ์คนในสังคมเดือดระอุ เพราะรัฐ เทียวไล่ตัด ทำลาย เรือกสวนไร่นา บ้านเรือน ประชาชนมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะรัฐบาล และ คสช. กับนโยบายทวงคืนผืนป่า นี่กระทำกับประชาชนที่อยู่กับป่า อยู่กับที่ตรงนั้นมายาวนาน ทั้งไหว้ ทั้งอ้อนวอนขอสิทธิทำกิน ยังไม่ได้เลย!! ประเด็นที่สี่ เมื่อถูกกระแสสังคม เคลื่อนไหวคัดค้าน รุนแรง ก็ออกมาอ้าง ว่า สร้างไปแล้ว หมดงบประมาณไปมากมายแล้ว รื้อ ทุบ หรือ ทำลายทิ้ง ไม่ได้ เพราะ เสียดายเงินภาษีประชาชน อันนี้แหละ ที่เข้าขั้นคำสุภาษิตไทย “หน้าด้านหน้าทน” หนังหน้าหนามากๆ เกิดมาไม่เคยพบไม่เคยเห็น และที่พีค ไฮไลท์ สุดๆ ในเช้าวันนี้ คือ คำให้สัมภาษณ์ของ นายชำนาญ รวิวรรณพงษ์ ประธานแผนกคดีล้มละลายในศาลฎีกา อดีตประธานศาลอุทธรณ์ภาค 5 ได้สัมภาษณ์ว่า ... “อีกไม่นานจะต้องมีการจัดการเลือกตั้งท้องถิ่นและมีคดีเลือกตั้ง ซึ่งจะต้องมีการฟ้องร้องคดีกันที่ศาลอุทธรณ์ภาค 5 หากผู้พิพากษาไม่มีที่พัก อาจจะทำให้เกิดปัญหาในการพิจารณาคดีที่ต้องรับผิดชอบทั้งภาค ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ จึงอยากให้มองถึงการอำนวยความสะดวกให้กับผู้พิพากษา” ... “เสนอให้มีการใช้ประโยชน์บ้านพักและอาคารที่พักไปก่อนเป็นเวลา 10 ปี พร้อมพัฒนาปรับปรุงระบบสิ่งแวดล้อมและฟื้นฟูสภาพป่า จากนั้นค่อยมาพิจารณากันน่าจะเป็นทางออกอีกทางหนึ่งที่ดีกว่าการรื้อถอน” . เห็นไหม๊ ครับ “หน้าด้านหน้าทน” จริงๆ เลย กับมนุษย์ชนชั้นตุลาการไทย