15 October 2025
457
กลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนเขาเหล่าใหญ่-ผาจันได เข้าแจ้งความ หวั่นซ้ำรอยเหตุรุนแรงในอดีต หลังนายทุนบุกพื้นที่เสนอโครงการพัฒนาในพื้นที่เหมืองหินเก่า ที่มีประวัติเกี่ยวข้องกับความรุนแรงยาวนานกว่า 30 ปี
15 ตุลาคม 2568 เพจเฟซบุ๊ก ‘เหมืองแร่หนองบัว’ รายงานสถานการณ์ว่า เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2568 เวลา 09.00 น. นักปกป้องสิทธิมนุษยชนกลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนเขาเหล่าใหญ่-ผาจันได ตำบลดงมะไฟ อำเภอสุวรรณคูหา จังหวัดหนองบัวลำภู จำนวนกว่า 10 คน ได้รวมกันเดินทางเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจภูธรสุวรรณคูหา เพื่อแสดงความกังวลและบันทึกไว้เป็นหลักฐาน หวั่นเกิดความรุนแรงซ้ำรอยในอดีต หลังมีบุคคลอ้างเป็นนายทุนเหมืองหินบุกเข้าถึงบ้านสมาชิกหลายราย เสนอ “โครงการพัฒนา” ในพื้นที่เหมืองหินเก่าของบริษัท ธ.ศิลาสิทธิ จำกัด ที่มีประวัติเกี่ยวข้องกับความรุนแรงยาวนานกว่า 30 ปี
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นภายหลัง ชายคนหนึ่งซึ่งอ้างตนเป็นเจ้าของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดอุดรธานี เดินทางเข้าหาหลายครอบครัวในหมู่บ้านระหว่างปลายเดือนกันยายนถึงวันที่ 11 ตุลาคมที่ผ่านมา เพื่อเสนอ “โครงการพัฒนา” โดยมี นายดำ (นามสมมุติ) อดีตลูกจ้างของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งเป็นผู้ชี้ทาง
ชายคนดังกล่าวอ้างว่า โครงการพัฒนาจะขุดหลุมลึกลงใต้ดินเพื่อทำแหล่งเก็บน้ำขนาดใหญ่ นำทรายจากแม่น้ำโขงกว่า 10 คัน มาถมทำชายหาด และเปิดโอกาสให้ชาวบ้านทำอาชีพใหม่ เช่น รีสอร์ตและร้านค้า พร้อมขอให้สมาชิกกลุ่มอนุรักษ์ฯ นัดประชุมเพื่อที่ตนจะได้นำเสนอโครงการและลงลายเซ็นสนับสนุนโครงการ อีกทั้งชายคนดังกล่าวยังกล่าวอย่างชัดเจนว่า ตนจะได้รับผลประโยชน์เป็นหินที่อยู่ใต้ดินจากการขุดหลุมเพื่อทำแหล่งเก็บน้ำ ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทเอกชนแห่งนี้ เคยเข้ามาเสนอแนวคิดสร้างรูปปั้นพญานาคบนพื้นที่เหมือง แต่กลุ่มได้ทำการปฏิเสธไป
พื้นที่เหมืองเก่าของบริษัท ธ.ศิลาสิทธิ จำกัด เป็นพื้นที่ป่าภูผาฮวกที่กลุ่มอนุรักษ์ฯ ต่อสู้คัดค้านการทำเหมืองแร่หินปูนและโรงโม่เป็นเวลายาวนานกว่า 30 ปี ปัจจุบันประทานบัตรและใบอนุญาตใช้พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติของบริษัทฯได้หมดอายุลงแล้ว และศาลปกครองสูงสุด (คดีหมายเลขดำ อส.34/2561, หมายเลขแดง อส.2/2566) ได้มีคำพิพากษาว่าการต่ออายุประทานบัตรมิชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งนั้นหมายความว่ากองหินที่เป็นสินแร่ก็ได้มาโดยมิชอบด้วยกฎหมายและควรตกเป็นของแผ่นดิน ส่งผลให้อุตสาหกรรมจังหวัดหนองบัวลำภูมีคำสั่งจำหน่ายคำขอต่ออายุประทานบัตรออกจากสารบบ
อย่างไรก็ตาม นอกจากชายซึ่งอ้างตนเป็นเจ้าของบริษัทเอกชนในจังหวัดอุดรธานีแล้ว ยังมีบุคคลที่ติดต่อมายังสมาชิกกลุ่มอนุรักษ์ฯ เช่น ในช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2568 โดยได้โทรศัพท์มาเพื่อเจรจาขอขนหินออกโดยอ้างว่าตนได้ทำการซื้อขายไว้แล้วก่อนเหมืองจะหมดสภาพการประกอบกิจการไป
กลุ่มอนุรักษ์ ฯ มองว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นสัญญาณเตือนถึงความรุนแรงระลอกใหม่ที่จะเกิดจากการแย่งชิงหินที่กองอยู่ในบริเวณโรงโม่เก่า
การเข้ามาของบุคคลภายนอกทำให้ชาวบ้านรู้สึกไม่ปลอดภัย พฤติการณ์ดังกล่าวอาจเป็นชนวนเหตุที่นำไปสู่ความรุนแรงซ้ำรอยในอดีตอีกครั้ง เนื่องจากที่ผ่านมา พื้นที่แห่งนี้เคยเกิดเหตุการณ์รุนแรงหลายครั้ง ทั้งการเสียชีวิตของสมาชิกกลุ่มอนุรักษ์ฯ 4 คน ซึ่งยังไม่ได้รับความยุติธรรม รวมถึงกรณีการข่มขู่ การคุกคาม และการฟ้องปิดปาก (SLAPP) ต่อประชาชนที่ออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านการทำเหมืองแร่หินปูนและโรงโม่
กลุ่มอนุรักษ์ฯ ระบุว่า การตัดสินใจเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันครั้งนี้ เพื่อเป็นหลักฐานป้องกันเหตุซ้ำรอยที่อาจเกิดขึ้นอีกในอนาคต และเป็นการแสดงออกถึงความรู้สึกไม่ปลอดภัยต่อพฤติการณ์ของนายทุนที่เข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ พร้อมยืนยันจุดยืนว่า จะยังคงคัดค้านกิจกรรมใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการขุดเจาะหรือแสวงหาผลประโยชน์จากหินในพื้นที่ ที่ปัจจุบันไม่มีประทานบัตรอย่างถูกกฎหมาย พร้อมเรียกร้องให้หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความรุนแรงหรือการคุกคามนักปกป้องสิทธิมนุษยชนซ้ำรอยประวัติศาสตร์อันเจ็บปวดของดงมะไฟอีก
ข้อมูลจากเพจ Facebook เหมืองแร่หนองบัว เผยแพร่เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2568
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนฯเฉลิมฉลอง 1 ปีชัยชนะในการปิดเหมืองหินและโรงโม่ได้สำเร็จ
