ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 เว็บ thaingo.org จะปรับค่าบริการจากเดิม 300 บาทเป็น 500 บาท
From January 1, 2023, thaingo.org will adjust job announcement fee from 300 baht to 500 baht.

ThaiNGO team support only thaingo.org and thaingo.in.th.

เว็บไซต์ที่ทีมงาน thaingo ดูแลคือ thaingo.org และ thaingo.in.th เท่านั้น

ชาวบ้านค้านเหมืองแร่ทรายแก้ว รุดยื่นหนังสือต่อผู้ว่าฯกาฬสินธุ์ให้ยุติกระบวนการยื่นขอประทานบัตรจนกว่าจะตรวจสอบข้อร้องเรียนของชาวบ้าน

ชาวบ้านค้านเหมืองแร่ทรายแก้ว รุดยื่นหนังสือต่อผู้ว่าฯกาฬสินธุ์ให้ยุติกระบวนการยื่นขอประทานบัตรจนกว่าจะตรวจสอบข้อร้องเรียนของชาวบ้าน พร้อมให้มีคำสั่งย้ายด่วนเจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมฯ เหตุจงใจละเมิดสิทธิมนุษยชนของประชาชน ด้านจังหวัดกาฬสินธุ์รับจะดำเนินการตอบกลับภายใน 7 วัน

 

10 กันยายน 2564 ชาวบ้านกลุ่มฅนเหล่าไฮงาม-นาโกไม่เอาเหมืองแร่ ประมาณ 30 คน ได้เดินทางไปยังศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อยื่นหนังสือขอให้ยกเลิกกระบวนการยื่นคำขอประทานบัตรเหมืองแร่ทรายแก้ว ในพื้นที่ตำบลเหล่าไฮงามและตำบลนาโก อำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ จนกว่าการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามข้อร้องเรียนของชาวบ้านแล้วเสร็จ ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์และอุตสาหกรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ โดยก่อนที่จะออกเดินทางชาวบ้านก็ได้ทำการตรวจคัดกรองเชื้อโควิด-19 อย่างเข้มงวด ด้วยการให้ทุกคนวัดอุณหภูมิ ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ และใส่หน้ากากอนามัย

 

โดยเวลาประมาณ 10.15 น. ชาวบ้านกลุ่มฅนเหล่าไฮงาม-นาโกไม่เอาเหมืองแร่ ได้เดินทางถึงศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งชาวบ้านได้ทำการตั้งขบวนพร้อมถือป้ายรณรงค์ที่มีข้อความระบุว่า “หยุด! กระบวนการทำเหมืองแร่เถื่อน!” “ฅนเหล่าไฮงามไม่เอาเหมืองแร่ STOP Sand Mine” “หยุด ฅนนาโกไม่เอาเหมืองแร่เถื่อน Stop the Mine” และ “คนเว้านำผียังรู้เรื่อง ผีตาแฮกขอข้าวแน่ เป็นหยั่งคนเว้านำคนสิบ่รู้เรื่อง คนนาโกไม่เอาเหมืองแร่”  เพื่อเดินเท้าเข้าไปยังอาคารศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ และขณะที่ชาวบ้านเดินขบวนก็ได้มีการปราศรัยกล่าวถึงเหตุผลที่ต้องมายื่นหนังสือในครั้งนี้ พร้อมกับยืนยันว่าชาวบ้านจะไม่ขึ้นไปที่ห้องประชุม เนื่องจากเป็นสถานที่ปิดเสี่ยงต่อสถานการณ์โควิด - 19 และเป็นการจำกัดการรับรู้ของประชาชน เพราะจะสามารถเข้าห้องประชุมได้เพียงไม่กี่คนเท่านั้น ทั้งนี้ตลอดการเดินขบวนได้มีเจ้าหน้าที่ กอ.รมน. ประมาณ 5 คน ติดตามถ่ายรูปชาวบ้านอยู่ตลอดเวลา

 

ต่อมาเวลาประมาณ 10.21 น. ชาวบ้านกลุ่มฅนเหล่าไฮงาม-นาโกไม่เอาเหมืองแร่ ได้เดินถึงบริเวณด้านหน้าอาคารศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ โดยชาวบ้านได้ทำการยืนแบบเว้นระยะห่างทางสังคม พร้อมถือป้ายรณรงค์และทำการปราศรัย

 

โดยตัวแทนชาวบ้านกลุ่มฅนนาโกไม่เอาเหมืองแร่ได้กล่าวปราศรัยว่า “จุดที่จะสร้างเหมืองแร่นั้นเป็นแหล่งตาน้ำของชาวบ้าน หรือ เป็นแหล่งน้ำซับซึม ตาม มาตรา 17 วรรคสี่ พ.ร.บ.แร่ 60 ซึ่งจะไม่สามารถทำเหมืองได้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่เคยลงพื้นที่ให้ความรู้กับชาวบ้านเลย ตอนนี้ชาวบ้านได้ออกมาให้ความรู้กันเอง ที่ผ่านมาชาวบ้านได้มาร้องเรียนอยู่หลายครั้งแต่หน่วยงานก็ไม่เคยดำเนินการตามที่ชาวบ้านร้องขอ การมาในวันนี้ก็เพื่อต้องการรายละเอียดหนังสือที่เคยขอไปแล้วหลายครั้ง และยืนยันว่าชาวบ้านไม่ต้องการเหมืองแร่เด็ดขาด”

 

ขณะที่ตัวแทนชาวบ้านกลุ่มฅนเหล่าไฮงามไม่เอาเหมืองแร่ได้กล่าวปราศรัยว่า “การทำเหมืองแร่ทรายแก้วในพื้นที่ตำบลเหล่าไฮงามเป็นการทำเหมืองแร่เถื่อน ซึ่งชาวบ้านได้ร้องเรียนให้มีการตรวจสอบเรื่อยมา การทำเหมืองแร่นั้นได้ส่งผลกระทบต่อชาวบ้านในพื้นที่ ชาวบ้านไม่ต้องการเหมืองแร่ทรายแก้วในพื้นที่โดยเด็ดขาด และจากที่ชาวบ้านได้ติดต่อสอบถามมาที่อุตสาหกรรมแล้วอุตสาหกรรมได้แจ้งว่าผู้ประกอบการไม่ยอมยกเลิกการยื่นคำขอประทานบัตรจึงจะเดินหน้าจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นต่อไป ชาวบ้านขอยืนยันว่าไม่ยอมให้จัดเวทีรับฟังความคิดเห็นจนกว่าจะมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องการทำเหมืองแร่ทรายแก้วเถื่อน และทำตาม พ.ร.บ.แร่ 2560 อย่างถูกต้อง และที่ผ่านมาทางอุตสาหกรรมจังหวัดก็ไม่ได้ดำเนินการตรวจสอบใดๆ ตามที่รองผู้ว่าฯ ได้มีคำสั่งไว้ ไม่มีการชี้แจงใดๆ เป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความไม่ใส่ใจต่อข้อร้องเรียนของชาวบ้าน ดังนั้นชาวบ้านในพื้นที่จึงขอให้เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมคนปัจจุบันออกจากพื้นที่โดยด่วน”

 

ซึ่งภายหลังจากที่ชาวบ้านได้ทำการปราศรัยเสร็จเรียบร้อยแล้ว เวลาประมาณ 12.03 น. ตัวแทนชาวบ้านกลุ่มตนเหล่าไฮงาม-นาโกไม่เอาเหมืองแร่ก็ได้ทำการอ่านเนื้อหาในหนังสือ พร้อมเรียกร้องขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ดำเนินการ ดังต่อไปนี้

 

1.ขอให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการขอประทานบัตรเหมืองแร่ทรายแก้ว จังหวัดกาฬสินธุ์ ที่มีสัดส่วนตัวแทนชาวบ้านกลุ่มฅนเหล่าไฮงามไม่เอาเหมืองแร่ และกลุ่มฅนนาโกไม่เอาเหมืองแร่กับหน่วยงานรัฐอย่างเท่าเทียม

 

2.ขอให้ยกเลิกการขอประทานบัตร จนกว่ากระบวนการตรวจสอบการขอประทานบัตรเหมืองแร่ทรายแก้วในจังหวัดกาฬสินธุ์ และกระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณี การลักลอบทำเหมืองแร่ทรายแก้วเถื่อนจะสิ้นสุด

 

3.ขอให้มีคำสั่งย้ายด่วน นาย วศิน ศุภพิสุทธิ์ อุตสาหกรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ เนื่องจากมีพฤติการณ์ในการจงใจละเมิดสิทธิมนุษยชนของประชาชน กีดกันประชาชนผู้ได้รับผลกระทบออกจากกระบวนการมีส่วนร่วม และอาศัยช่วงเวลาวิกฤตสถานการณ์โควิด เอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้ประกอบการเหมืองแร่ โดยไม่ดำเนินการกำกับ ดูแล การขอประทานบัตรเหมืองแร่ทรายแก้ว ในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ให้เป็นไปตามกฎหมาย

 

โดยเจ้าหน้าที่จังหวัดกาฬสินธุ์ซึ่งเป็นตัวแทนผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ได้มารับหนังสือกับชาวบ้าน ซึ่งก่อนที่จะรับหนังสือก็ได้กล่าวว่า “จะให้ทางอุตสาหกรรมจังหวัดได้ชี้แจงข้อร้องเรียนของชาวบ้านที่ได้มายื่นหนังสือไว้ และในส่วนของข้อร้องเรียนในวันนี้จะดำเนินการตอบกลับภายใน 7 วัน เบื้องต้นขอให้อุตสาหกรรมจังหวัดได้ชี้แจงความคืบหน้าในส่วนของข้อเรียกร้องกับชาวบ้านที่มาในวันนี้”

 

ซึ่งเจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ก็ได้กล่าวว่า “ในส่วนของการร้องเรียนขอให้ตั้งกรรมการก็จะแจ้งไปที่จังหวัด ส่วนเรื่องที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมจังหวัด อุตสาหกรรมจังหวัดได้ดำเนินการทำหนังสือถึงสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเกี่ยวกับการตรวจสอบเรื่องแหล่งน้ำซับซึมและเรื่องป่าไม้ก็ร้องไปที่เขต แต่ทั้ง 2 หน่วยงานก็ไม่ตอบกลับมา ส่วนคณะกรรมการแร่ประจำจังหวัดได้แต่งตั้งแล้วต่อไปก็จะเป็นการดำเนินการประชุมหารือการทำงานของคณะกรรมการแร่ประจำจังหวัด ส่วนเรื่องยืนยันความประสงค์ที่จะทำแร่ที่มีผู้ยื่นขอประทานบัตรทำเหมืองแร่ 3 บริษัท ทางผู้ประกอบการ 2 บริษัทได้ยืนยันแล้วว่าจะดำเนินการตามคำขอ ส่วนแปลงที่พื้นที่ตำบลนาโกขอระงับชั่วคราว จนกว่าสถานการณ์โควิด-19 จะคลี่คลาย ส่วนการรับฟังความเห็นของราษฎรได้ทำหนังสือแจ้งไปที่บริษัทที่ยื่นขอแล้ว ไม่ว่าจะเป็นบริษัทแซนด์ไมนิ่งจำกัด บริษัทแทนซิลิกาจำกัด ว่าในช่วงนี้ไม่สามารถที่จะดำเนินการอะไรได้ เนื่องจากมีคำสั่งของคณะกรรมการควบคุมโรคที่ระบุว่าการชุมนุมการรับฟังความคิดเห็นไม่เกิน 50 คน ส่วนคำขอที่ 1/2561 ของบริษัทบัวขาวคำแก้วจำกัดได้ยกเลิกคำขอแล้ว”

 

ในเวลาต่อมาชาวบ้านกลุ่มฅนเหล่าไฮงาม-นาโกไม่เอาเหมืองแร่ ก็ได้ยื่นหนังสือต่อเจ้าหน้าที่จังหวัดกาฬสินธุ์และเจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัดอย่างเป็นทางการ โดยก่อนเดินทางกลับชาวบ้านก็ได้ถ่ายรูปรณรงค์คัดค้านการทำเหมืองแร่ทรายแก้วดังกล่าวที่หน้าอาคารศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์