วันที่ 5 พฤษภาคม 2565 กลุ่มคำโตนดไม่เอาเหมืองแร่ทรายแก้ว ตำบลคำโตนด อำเภอประจันตคาม จังหวัดปราจีนบุรี เข้ายื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ที่ศาลากลางจังหวัดปราจีนบุรี ให้ยุติกระบวนการประชามติเพื่อประกอบกิจการเหมืองทรายแก้ว ที่กำลังจะจัดขึ้นในวันที่ 8 พฤษภาคม 2565 นี้
ชาวบ้านกลุ่มคำโตนดไม่เอาเหมืองแร่ทรายแก้วจึงเรียกร้องให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งมีหน้าที่ในฐานะที่เป็น (1) เจ้าพนักงานอุตสาหกรรมแร่ประจำท้องที่ (2) คณะกรรมการแร่จังหวัด (3) คณะกรรมการกำหนดแหล่งหินอุตสาหกรรมเพื่ออุตสาหกรรมก่อสร้าง ตามพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2560 ยุติกระบวนการประชามติที่จะจัดขึ้นในวันที่ 8 พฤษภาคม 2565
โดยทางกลุ่มชาวบ้านมีข้อกังวลเกี่ยวกับความชอบธรรมในกระบวนการขอประธานบัตรเหมืองทรายแก้วเนื่องจาก
1. หากย้อนกลับไปที่การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งล่าสุดของชาวบ้านหนองเลิง เมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม 2562 พบว่าในช่วงนั้นมีประชาชนสามารถใช้สิทธิเลือกตั้ง เพียง 175 คน เท่านั้น ส่วนการลงประชามติในครั้งนี้พบว่ามีผู้มีสิทธิลงชื่อออกเสียงประชามติตามเอกสาร ปม.2 ถึง 273 คน จึงแสดงว่าในระยะเวลาประมาณ 3 ปีกว่า มีผู้สามารถใช้สิทธิได้เพิ่มขึ้นถึง 98 คน คิดเป็นร้อยละ 35.9 กล่าวคือ ในพื้นที่มีประชากรใหม่เพิ่มขึ้นโดยเป็นบุคคลภายนอกย้ายเข้ามาอยู่เป็นบุคคลในพื้นที่ประมาณ 1 ใน 3 จากจำนวนประชากรทั้งหมดในปัจจุบัน
2. หลักการสำคัญของการทำประชามติตามพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2560 ให้ยึดตามรัศมีผลกระทบเป็นหลัก ไม่ใช่ยึดตามเขตหมู่บ้านในพื้นที่ตั้งคำขอประทานบัตรเป็นหลัก ซึ่งหากมีการทำเหมืองเกิดขึ้นจริงก็เป็นที่ชัดเจนอย่างยิ่งว่าเป็นไปไม่ได้ที่ผลกระทบจะจำกัดอยู่เฉพาะในเขตหมู่บ้านหนองเลิง หมู่ที่ 12 เท่านั้น ผลกระทบต่อดิน น้ำ อากาศ การใช้ถนน ฯลฯ จะต้องกระจายตัวออกไปไกลกว่าหมู่บ้านหนองเลิง หมู่ที่ 12 อย่างแน่นอน
3. คำขอประทานบัตรที่ 3/2560 เป็นพื้นที่แหล่งต้นน้ำหรือป่าน้ำซับซึมตามมาตรา 17 วรรคสี่ ซึ่งจะนำไปประกาศเป็น ‘เขตแหล่งแร่เพื่อการทำเหมือง’ เพื่อนำไปขอประทานบัตรทำเหมืองแร่ชนิดใด ๆ ไม่ได้
และยืนยันว่า ‘กลุ่มคำโตนดไม่เอาเหมืองแร่ทรายแก้ว’ จะดำเนินการเรียกร้องทุกช่องทางเพื่อเอาผิดกับผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรีและบริษัทฯและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดอย่างถึงที่สุดต่อไป
การทำเหมืองแร่ทรายแก้ว เป็นโครงการหรือกิจการที่กฎหมายมิได้กำหนดให้จัดทำรายงานการประเมิณผลกระทบสิ่งแวดล้อมหรือรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น ตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
บริษัท สินทรัพย์ธรรมชาติ จำกัด ได้ยื่นคำขอประทานบัตรเหมืองแร่ทรายแก้ว ในพื้นที่ตำบลคำโตนด อำเภอประจันตคาม จังหวัดปราจีนบุรี จำนวน 3 คำขอ โดย สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดปราจีนบุรีได้รับจดทะเบียนคำขอในวันที่ 15 มิถุนายน 2560
คำขอที่ 1/2560 มีเนื้อที่ 122 ไร่ 2 งาน 66 ตารางวา
คำขอที่ 2/2560 มีเนื้อที่ 149 ไร่ 2 งาน 66 ตารางวา
คำขอที่ 3/2560 มีเนื้อที่ 256 ไร่ 51 ตารางวา
ต่อมา พระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2560 บังคับใช้ในวันที่ 29 สิงหาคม 2560 ส่งผลให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องพิจารณาดำเนินการตามหลักเกณฑ์ที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2560 ซึ่งกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ได้แต่งตั้งคณะกรรมการจัดทำประชามติ
โดยได้มีการจัดทำประชามติทั้ง 3 คำขอในวันที่ 6 กันยายน 2563 มีผลการประชามติ ดังนี้
1)คำขอประทานบัตรที่1/2560 เห็นด้วย 102 คะแนน ไม่เห็นด้วย 155 ไม่ประสงค์ลงคะแนน 5 คะแนน
2)คำขอประทานบัตรที่ 2/2560 เห็นด้วย 98 คะแนน ไม่เห็นด้วย 157 คะแนน ไม่ประสงค์ลงคะแนน 8 คะแนน
3)คำขอประทานบัตรที่ 3/2560 เห็นด้วย 68 คะแนน ไม่เห็นด้วย 68 คะแนน ไม่ประสงค์ลงคะแนน 9 คะแนน
30 กันยายน 2563 บริษัท สินทรัพย์ธรรมชาติ จำกัด ได้ยื่นถอนคำขอที่ 1/2560 และ 2/2560 โดยสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดได้ถอนคำขอดังกล่าวแล้ว
คำขอที่ 3/2563 ตั้งอยู่ในพื้นที่ บ้านหนองลิง หมู่ 12 ตำบลคำโตนด อำเภอประจันตคาม จังหวัดปราจีนบุรี จะมีการจัดทำประชามติใหม่อีกครั้ง ในวันที่ 8 พฤษภาคม 2565 โดยมีข้อมูลจากชาวบ้านในพื้นที่ว่า ในพื้นที่แปลงขอประทานบัตร มีการนำตู้คอนเทนเนอร์มาตั้งขอทะเบียนบ้าน และมีการโอนย้ายชื่อบุคคลเข้ามาเพื่อเปลี่ยนผลการประชามติ ให้สามารถประกอบกิจการเหมืองแร่ทรายแก้วในพื้นที่ดังกล่าว
ตัวแทนประชาชนในพื้นที่ มีข้อกังวลในประเด็นผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ หากมีการดำเนินโครงการเหมืองแร่ทรายแก้วในพื้นที่ ได้แก่ ปัญหาดินยุบตัว ฝุ่นละอองจากการขนส่ง มลภาวะทางเสียง ขาดแคลนน้ำสำหรับการทำการเกษตร
เหตุการณ์วันนี้
13.10 กลุ่มคำโตนดไม่เอาเหมืองแร่ทรายแก้ว เดินทางมายื่นหนังสือที่ศาลากลางจังหวัดปราจีนบุรี
13.15 ผอ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดปราจีนบุรี มาพูดคุยกับกลุ่มชาวบ้าน โดยรับปากว่าจะประสานงานกับผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี
13.30 รองผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ลงมารับหนังสือจากชาวบ้าน กลุ่มคำโตนดไม่เอาเหมืองแร่ทรายแก้ว โดยมีตัวแทนชาวบ้านอ่านหนังสือทั้งฉบับให้ฟังก่อนการยื่นหนังสือ
14.35 ชาวบ้านขึ้นมาที่หน้าห้องผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี เพื่อมาฟังคำตอบจากผู้ว่าที่หน้าห้อง เนื่องจาก ผู้ว่าราชการ ไม่ออกมาให้คำตอบเกี่ยวกับเรื่องการให้ยุติกระบวนการประชามติ ในพื้นที่
14.59 รองผู้ว่ามาคุยอีกครั้งที่บริเวณหน้าห้องรองผู้ว่าราชการจังหวัด ชี้แจงว่าต้องดูตามกฎหมายระเบียบ กระทรวงอุตสาหกรรม บอกว่า การประชามติ เป็นกระบวนการหนึ่งในการประกอบการขอประทานบัตร ทางจังหวัดมีหน้าที่ในการดำเนินการตามกฎหมาย แต่เรื่องจะยังมีการประชามติอยู่ไหม ให้รอผู้ว่ามาตอบอีกครั้ง
15.03 ผู้ว่าราชการจังหวัดเดินทางมาโดยจะเปิดห้องประชุมในศาลากลางเพื่อให้ทุกคนได้ฟังร่วมกัน
16.43 ยุติการหารือร่วมกัน โดยยังไม่สามารถหาข้อสรุปเกี่ยวกับการชะลอหรือยกเลิกการประชามติไปก่อนได้ มีเพียงคำสัญญาจากผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ว่าจะให้อำเภอ เข้าไปสำรวจความต้องการและผลกระทบในพื้นที่