3 พ.ย.64 เวลาประมาณ 09.30 น. ขณะที่ชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนเขาเหล่าใหญ่-ผาจันได กำลังทำการปักหลักชุมนุม พร้อมข้อเรียกร้อง 3 ข้อ ปิดเหมืองหินและโรงโม่ ฟื้นฟูภูผาป่าไม้ และพัฒนาดงมะไฟเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศวัฒนธรรมและแหล่งอารยธรรมโบราณคดี อยู่ที่บริเวณถนนทางเข้า-ออกเหมืองหินปูนและโรงโม่หิน บริษัท ธ.ศิลาสิทธิ จำกัด เป็นเวลา 1 ปี 2 เดือนแล้ว ซึ่งชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนฯ ได้รับแจ้งว่าได้มีการเคลื่อนย้ายรถเจาะหินออกจากพื้นที่โรงโม่หิน โดยใช้ถนนเส้นทางทางลัดไป บ.นาเจริญ ต.ดงมะไฟ อ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู ซึ่งเป็นอีกเส้นทางที่สามารถเดินทางเข้า-ออกโรงโม่หินได้
ชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนฯ จึงได้เดินทางไปยังบริเวณถนนเส้นทางดังกล่าว พบว่า มีชายจำนวน 3 คน กำลังนำรถเจาะหินจำนวน 1 คัน ขึ้นบนหลังรถเทรนเลอร์บรรทุกเครื่องจักรขนาดใหญ่ ชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนฯ จึงได้เดินเข้าไปสอบถามทราบว่าเป็นตัวแทนบริษัท ล้านหิน เดลเวลล๊อปเมนท์ จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของรถเจาะหินคันดังกล่าวที่บริษัท ธ.ศิลาสิทธิ จำกัด เช่ามาใช้ในการประกอบกิจการเหมืองหินปูนและโรงโม่หิน ซึ่งตัวแทนบริษัท ล้านหินฯ ได้กล่าวว่า “ทางบริษัทเหมืองไม่ได้จ่ายค่างวดให้กับบริษัทของตนเลย โทรทวงหลายครั้งแล้ว แต่ทางบริษัทก็เลื่อนไปเรื่อย ๆ จนกลับมาจากการไปทำธุรกิจที่ลาว เลยมาเอารถคืนเพื่อไปทำธุรกิจต่อ”
ขณะที่นายเทิดพงษ์ อนุเวช ชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนฯ ก็ได้กล่าวถึงความรู้สึกหลังจากที่บริษัท ล้านหินฯ ได้นำรถเจาะหินออกจากพื้นที่ว่า “รู้สึกดีใจที่เครื่องจักรออกจากพื้นที่เหมือง จะได้ไม่มีเครื่องอุปกรณ์ในการทำเหมืองอีก ในใจจริงอยากให้เอาออกทุกอย่าง ทั้งไฟฟ้า สำนักงาน น้ำประปา เพื่อที่จะได้ให้พื้นที่กลับมาเป็นป่าชุมชนอีกครั้ง”
อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าจะมีการทยอยขนย้ายรถเครื่องจักรออกจากพื้นที่โรงโม่หินแล้ว แต่ชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนฯ ก็ไม่อาจวางใจได้เพราะในบริเวณโรงโม่หินยังเหลือรถเครื่องจักรอีกจำนวนหนึ่งและที่ผ่านมาบริษัท ธ.ศิลาสิทธิ จำกัด ก็ยังคงพยายามผลักดันเรื่องขอต่ออายุใบอนุญาตเข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเก่ากลอยและป่านากลาง เพื่อทำเหมืองหินอุตสาหกรรมชนิดหินปูน (เพื่ออุตสาหกรรมก่อสร้าง) ตามประทานบัตร27221/15393 เข้าสู่สภาองค์การบริหารส่วนตำบลดงมะไฟอย่างต่อเนื่อง เพื่อทำเหมืองแร่หินปูนและโรงโม่หินต่อ ดังนั้นชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนฯ จะยังคงติดตามและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
