ถึงเวลานี้ รัฐบาลได้ออกยาแรงขึ้นแล้ว โดยประกาศ พรก.กรณีฉุกเฉิน ระลอกแรก ระลอกสอง ซึ่งล่าสุดคือห้ามออกนอกเคหะสถานหลัง 4 ทุ่ม ถึง ตี 4 การประกาศคำสั่ง เด็ดขาด ที่เหมาะที่ควร และคิดไว้อย่างรอบคอบ เป็นสิ่งที่ต้องทำ ต้องเข้าใจ เพราะนี่คือเรื่องสถานการณ์ ขับขัน เรื่องความเป็นความตายที่ยากต่อการควบคุม
ถึงกระนั้น รัฐบาลก็ต้อง ปรับ และรับฟัง เสียงหลายๆด้านด้วย เพื่อให้เกิดพลังทางสังคม จากทุกภาคส่วน เพื่อให้มาตรการนี้ของรัฐบาลใช้ได้ผล และมีผลกระทบน้อยที่สุด เพราะธรรมชาติการใช้ยาแรง มีความเสี่ยง มีอาการข้างเคียงเสมอ ดังนั้น จึงต้องทำกำชับ ทำความเข้าใจ และใช้ผู้เชี่ยวชาญดูแลใกล้ชิด รวมถึงเตรียมหน่วยงาน เตรียมบุคลากร ให้พร้อมรับมือผลกระทบใหม่ๆ ที่อาจจะตามมา งานนี้ รัฐบาลอาจจะต้องดึงทรัพยากรทุกอย่างมาใช้ และเปิดช่องให้ภาคส่วนต่างๆ เข้ามามีบทบาท อำนาจ อย่างสำคัญ
อีกทั้ง สิ่งที่ต้องคอยตระเตรียมที่สุด หลังประกาศเคอร์ฟิวคือ เงื่อนไขใดควรผ่อนปรน และ ความเข้มข้น ถี่ถ้วน จุดใด ที่ต้องเน้นย้ำ เด็ดขาด เช่น การกักตัว การตรวจเช็คที่รวดเร็วได้ประสิทธิผล เชื่อถือได้ เพราะหัวใจสำคัญ ไม่ใช่การกักบริเวณประชาชน แต่คือการตรวจ ที่รวดเร็ว และดำเนินการที่มีประสิทธิภาพ ทุ่มงบประมาณ ที่มีทั้งหมดไปกับการตรวจร่างกาย และ เตรียมสถานที่สำหรับ กักตัว อย่างปลอดภัยได้มาตรฐาน อันนี้ต้องมาก่อน
เป้าหมายของรัฐบา และของคนไทยทุกคนในประเทศนี้ คือ ยุติการระบาด ให้ได้ให้เร็วที่สุด ยอมทุ่มเททรัพยากรทุกอย่าง ส่วนแผนขั้นต่อไป คือ เยียวยาช่วยเหลือปากท้อง ที่ต้องหยุดทำมาหากิน และที่กำลังหิว กำลังสิ้นหวัง ให้ฟื้นคืนกลับมาให้ได้ ให้เร็วที่สุด นี่คือวาระแห่งชาติ ครับ