31 January 2016
1049
เมื่อวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ เวลา ๐๙.๐๐ น. ศาลจังหวัดปัตตานีได้นัดพร้อมคดีหมายเลขดำที่ ๕๑๙/๒๕๕๘ คดีระหว่าง นายยา ดือราแม กับพวกรวม ๕ คน โจทก์ กับกองทัพบก กับพวกรวม ๒ คน จำเลย โดยโจทก์ทั้งห้าพร้อมทนายความมาศาล และทนายจำเลยที่ ๑ มาศาล ส่วนจำเลยที่ ๒(สำนักนายกรัฐมนตรี)นั้น ทนายจำเลยที่ ๑ แถลงว่าจะยื่นใบแต่งตั้งทนายของจำเลยที่ ๒ และยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นคำให้การของจำเลยที่ ๒ ในช่วงบ่ายวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ ซึ่งศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าเป็นกรณีมีเหตุอันควรอนุญาตให้เลื่อนไปนัดชี้สองสถาน หรือนัดสืบพยานโจทก์ จำเลย ในวันที่ ๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ เวลา ๐๙.๐๐ น. คดีนี้ หลังจากที่ศาลจังหวัดปัตตานีได้รับโอนคดีมาจากศาลปกครองสงขลา เข้าสู่กระบวนพิจารณาคดีของศาลยุติธรรมแล้ว ศาลจังหวัดปัตตานีได้นัดพร้อมครั้งแรกเมื่อวันที่ ๒๖ ตุลาคม ๒๕๕๘ ซึ่งศาลได้มีคำสั่งให้โจทก์ทำคำฟ้อง ให้จำเลยทำคำให้การ รวมทั้งบัญชีระบุพยาน และการดำเนินการเกี่ยวกับการขอยกเว้นค่าธรรมเนียมศาล ยื่นใหม่ต่อศาล เพื่อให้เป็นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง โดยกำหนดให้คู่ความทั้งสองฝ่ายยื่นคำคู่ความดังกล่าวต่อศาลภายใน ๒๐ วัน นับแต่วันที่ ๒๖ตุลาคม ๒๕๕๘ ที่ศาลมีคำสั่ง เมื่อ วันที่ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ โจทก์ทั้งห้าได้ยื่นคำฟ้อง คำร้องขอยกเว้นค่าธรรมเนียมศาล และบัญชีระบุพยาน ต่อศาล ค่าเสียหายซึ่งเป็นทุนทรัพย์ที่โจทก์ทั้งห้าฟ้องนั้น รวมเป็นเงินทั้งสิ้น ๒๗,๖๕๔,๗๐๔.๖๖ บาท และในวันนั้นเองศาลได้มีคำสั่งอนุญาตให้โจทก์ที่ ๑ ที่ ๓ ที่ ๔ และที่ ๕ ดำเนินคดีโดยได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลทั้งหมด ส่วนโจทก์ที่ ๒ อนุญาตให้ได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลบางส่วน โดยให้โจทก์ที่ ๒ เสียค่าธรรมเนียมศาลเป็นเงิน ๑๒,๐๘๑ บาท ซึ่งเป็นจำนวนเดียวกันกับที่ศาลจังหวัดปัตตานีได้รับโอนค่าธรรมเนียมมาจาก ศาลปกครองสงขลา โจทก์ที่ ๒ ไม่ติดใจอุทธรณ์คำสั่งที่ให้ชำระค่าธรรมเนียมดังกล่าว จึงถือว่าโจทก์ที่ ๒ ได้ชำระค่าธรรมเนียมตามคำสั่งศาลจังหวัดปัตตานีเรียบร้อยแล้ว และถือว่าศาลจังหวัดปัตตานีได้ประทับรับฟ้องของโจทก์ทั้งห้าเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ พนักงานอัยการซึ่งเป็นทนายจำเลยที่ ๑ ได้ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นคำให้การ และศาลอนุญาตโดยให้ยื่นคำให้การภายในวันที่ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ ต่อมาในวันครบกำหนดระยะเวลายื่นคำให้การดังกล่าว ทนายจำเลยที่ ๑ ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นคำให้การออกไปอีก โดยอ้างเหตุผลว่าอยู่ระหว่างการเสนอสำนวนและความเห็นไปยังอธิบดีอัยการคดี แรงงานภาค ๙ เพราะคดีนี้มีทุนทรัพย์ตั้งแต่ ๒๐ ล้านบาทขึ้นไป เกินอำนาจของพนักงานอัยการจังหวัดปัตตานีที่จะพิจารณารับแก้ต่าง ว่าต่าง ให้จำเลยที่ ๑ ประกอบกับในส่วนของสำนักนายกรัฐมนตรีจำเลยที่ ๒ นั้น พนักงานอัยการจังหวัดปัตตานีได้แจ้งไปยังกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค ๔ ส่วนหน้า ซึ่งเป็นหน่วยงานของจำเลยที่ ๒ และรับแจ้งว่าได้เสนอขอให้พนักงานอัยการจังหวัดปัตตานีเป็นทนายแก้ต่างให้ แล้ว เรื่องอยู่ระหว่างการพิจารณาของผู้บังคับบัญชา ซึ่งในวันที่ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ นั้นเอง ศาลได้มีคำสั่งอนุญาต โดยให้จำเลยทั้งสองยื่นคำให้การภายในวันที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๕๘ ข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ นายสากีมัน เบญจเดชา ๐๘๖-๐๓๗๔๓๑๘ ทนายความ มูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิมจังหวัดปัตตานี นายปรีดา นาคผิว ๐๘๙-๖๒๒๒๔๗๔ ทนายความ มูลนิธิผสานวัฒนธรรม