ThaiNGO team support only thaingo.org and thaingo.in.th.

เว็บไซต์ที่ทีมงาน thaingo ดูแลคือ thaingo.org และ thaingo.in.th เท่านั้น

Back

ความเห็นองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนต่อกระบวนการยุติธรรม กรณีนายสุริยัน สุจริตพลวงศ์และพ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา

ความเห็นองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนต่อกระบวนการยุติธรรม  กรณีนายสุริยัน สุจริตพลวงศ์และพ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา

29 October 2015

919

  ตามที่วันที่ 16 ต.ค. 58 มีข่าวการควบคุมตัวนายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ไปจากบ้านพัก โดยผู้บังคับการปราบปรามให้สัมภาษณ์ปฎิเสธว่ากองปราบไม่ได้จับกุมนายสุริยัน ต่อมาวันที่ 21 ต.ค. 58 เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารนำตัวนายสุริยันต์ สุจริตพลวงศ์ พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภาและนายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ไปฝากขังยังศาลทหารกรุงเทพ ทั้งหมดถูกนำไปควบคุมตัวที่เรือนจำชั่วคราวแขวงถนนนครไชยศรี ต่อมากรมราชทัณฑ์ได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 24 ต.ค. 58 ที่ผ่านมาว่าระหว่างการควบคุมตัวพ.ต.ต.ปรากรม สารวัตรกองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) เสียชีวิตจากการผูกคอกับลูกกรงโดยแถลงการณ์ข้อ 3.ระบุว่า “การเสียชีวิตของผู้ต้องขังในครั้งนี้เป็นการเสียชีวิตในระหว่างการควบคุมของเจ้าพนักงาน จึงต้องดำเนินการชันสูตรพลิกศพตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และส่งศพให้สถาบันนิติเวช สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป” อย่างไรก็ตามวันที่ 25 ต.ค.58 ญาติผู้ตายได้ไปติดต่อขอรับศพที่สถาบันนิติเวช แต่พบว่าไม่มีการส่งศพมายังสถาบันฯต่อมาวันที่ 26 ต.ค.58 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมให้สัมภาษณ์ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ พนักงานอัยการ แพทย์นิติเวช และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ได้ร่วมชันสูตรพลิกศพพ.ต.ต.ปรากรมตามกฎหมาย และญาติได้เดินทางมารับศพยังทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์แล้วจึงไม่จำเป็นต้องส่งศพไปตรวจที่สถาบันนิติเวชอีก องค์กรสิทธิมนุษยชนตามรายชื่อแนบท้ายมีความเห็นต่อกระบวนการยุติธรรมตั้งแต่การจับกุมนายสุริยัน กับพวกจนถึงการเสียชีวิตของพ.ต.ต.ปรากรม ดังต่อไปนี้
  1. การควบคุมตัวนายสุริยัน ระหว่างวันที่ 16 – 21 ต.ค.58ในสถานที่ลับ โดยเจ้าหน้าที่รัฐปฏิเสธการควบคุมตัว ทำให้นายสุริยันไม่อยู่ภายใต้การคุ้มครองของกฎหมายถือเป็นการบังคับบุคคลให้หายสาบสูญ ตามข้อ 2 อนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการหายสาบสูญ โดยถูกบังคับ (International Convention for the Protection of All Persons from Enforced Disappearance: CED) และประเทศไทยมีพันธกรณีที่ต้องไม่ละเมิดอนุสัญญาดังกล่าว หลังลงนามในอนุสัญญา แม้ยังไม่ได้ให้สัตยาบันก็ตาม
  2. การควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสามรายในเรือนจำชั่วคราวแขวงถนนนครไชยศรีภายในค่ายทหาร โดยเป็นการขังเดี่ยวภายในห้องที่ปิดทึบผนังทั้งสี่ด้านไม่สามารถมองเห็นจากภายนอกได้นอกจากการเปิดประตูนั้น เข้าข่ายการประติบัติที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรรมหรือย่ำยี่ศักดิ์ศรี ตามข้อ 16 ของอนุสัญญา ต่อต้านการทรมานและการประติบัติหรือการลงโทษ ที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรีซึ่งประเทศไทยเป็นภาคีและมีพันธกรณีที่ต้องปฏิบัติตาม อีกทั้งการควบคุมตัวบุคคลภายในสถานที่ซึ่งบุคคลภายนอกไม่อาจเข้าถึงภายใน ค่ายทหารนั้นยังนำไปสู่การละเมิดสิทธิมนุษยชนอื่นๆอาทิการทรมาน ซึ่งเมื่อเกิดขึ้นแล้วสามารถตรวจสอบผู้กระทำความผิดได้ยาก
  3. การเสียชีวิตของพ.ต.ต.ปรากรม นั้น ถือเป็นการตายระหว่างการควบคุมของเจ้าพนักงานต้องปฏิบัติตามมาตรา 150 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญากล่าวคือ พนักงานสอบสวนและพนักงานอัยการต้องทำการชันสูตรพลิกศพ และพนักงานอัยการต้องทำคำร้องให้ศาลไต่สวนเพื่อให้ทราบว่าผู้ตายเป็นใคร ตายที่ไหน เมื่อใด เหตุและพฤติการณ์ที่ทำให้ตาย ในทางปฏิบัติทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์จะมีการส่งร่างผู้ตายไปยังสถาบันนิติเวชดังที่ระบุขั้นตอนไว้ในแถลงการณ์ แต่กลับไม่มีการดำเนินการดังกล่าว แม้เจ้าหน้าที่จะอ้างว่ามีการชันสูตรภายในทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์แล้ว แต่ไม่ปรากฏว่ามีญาติร่วมในกระบวนการชันสูตร
ทั้งนี้ตามมาตรา 150  กำหนดให้พนักงานสอบสวนแจ้งให้ญาติทราบเท่าที่จะทำได้ก่อนมีการชันสูตรดังนั้น กระบวนการพิสูจน์สาเหตุการเสียชีวิตของพ.ต.ต.ปรากรม จึงยังมีข้อสงสัยและทำให้สังคมตกอยู่ในความหวาดกลัวว่าจะถูกทำร้ายจากอำนาจ นอกกฎหมายแม้กระทั่งอยู่ระหว่างพิสูจน์การกระทำผิดตามกระบวนการยุติธรรมก็ ตาม
  1. ตามข้อ 14 แห่งกติกา ระหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองเรื่องหลักสิทธิผู้ ต้องหาในคดีอาญาที่ได้รับการสันนิษฐานว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ จนกว่าจะพิสูจน์ตามกฎหมายว่ามีความผิด ดังนั้นผู้ต้องหาทั้งสามยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด จะปฏิบัติต่อบุคคลดังกล่าวเสมือนเป็นผู้กระทำความผิดแล้วไม่ได้
องค์กรสิทธิมนุษยชนตามรายชื่อแนบท้ายแถลงการณ์นี้จึงขอเรียกร้องให้
  1. ปิดเรือนจำชั่วคราวแขวงถนนนครไชยศรี โดยย้ายผู้ต้องขังไปยังเรือนจำอื่นเนื่องจากการคุมขังพลเรือนในพื้นที่ของทหารขาดความโปร่งใส ขาดหลักประกันสิทธิผู้ถูกคุมขังและอาจนำไปสู่การละเมิดสิทธิมนุษยชนประการอื่นได้ อันเข้าข่ายเป็นการควบคุมโดยมิชอบด้วยกฎหมายและละเมิดพันธกรณีกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ โดยเฉพาะข้อ 9 กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ซึ่งห้ามการควบคุมตัวบุคคลโดยอำเภอใจไร้หลักประกันสิทธิ ข้อ 10 เรื่องการปฏิบัติต่อผู้ถูกคุมขังด้วยความมีมนุษยธรรมและเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
  2. เปิดเผยกระบวนการและผลการชันสูตรพลิกศพของพ.ต.ต.ปรากรม พร้อมทั้งดำเนินกระบวนการไต่สวนการตายตามมาตรา 150 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เพื่อผดุงไว้ซึ่งความยุติธรรม หลักนิติธรรมและเพื่อให้สังคมได้ร่วมตรวจสอบถึงสาเหตุการตายโดยไม่ตกอยู่ในความหวาดกลัว
ด้วยความเคารพต่อสิทธิเสรีภาพ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน มูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ศูนย์ข้อมูลชุมชน   -----------------------------------------------

Recent posts