Back

ศาลปัตตานีนัดไต่สวนคำร้องคดีวิสามัญ บ้านโต๊ะชูด  อ.ทุ่งยางแดงปัตตานี

ศาลปัตตานีนัดไต่สวนคำร้องคดีวิสามัญ บ้านโต๊ะชูด  อ.ทุ่งยางแดงปัตตานี

16 October 2015

1025

( ขอบคุณภาพ จาก http://www.publicpostonline.net/2464 ) เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม  2558   เวลา  09.00  น.ศาลจังหวัดปัตตานีได้นัดไต่สวนคำร้องคดีหมายเลขคำที่ ช.11/2558 คดีชันสูตรพลิกศพ ( ไต่สวนการตาย ) ของพนักงานอัยการจังหวัดปัตตานี จากกรณีเมื่อวันที่ 25มีนาคม 2558 เวลาประมาณ 17.20 น. มีการสนธิกำลังระหว่างฉก.ปัตตานี 25 นปพ. 431 ฉก ทพ.41 กำลังตำรวจจากสถานีตำรวจภูธรทุ่งยางแดง เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และ ทหารจากร้อย ร. 35314 ฉก.ปัตตานี ได้เข้าปฏิบัติการตรวจสอบความผิดปกติในพื้นที่ หมู่ที่ 6 บ้านโต๊ะชูดตำบลพิเทน อำเภอทุ่งยางแดง จังหวัดปัตตานี จากการปฏิบัติการดังกล่าว ส่งผลให้มีการจับกุมประชาชนจำนวน 22 คน และวิสามัญฆาตกรรม มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุจำนวน 4 คน คือนายสุไฮมี เซ็น นายซัดดัม วานุ นายคอลิด สาแม็ง และนายมะดารี แม้เราะ หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้ให้ข้อมูลข่าวสารต่อสาธารณะว่าผู้เสียชีวิต 2 คน คือ นายอันวาร์ ดือราแม และนายมากูรอซี แมเราะ แกนนำก่อความไม่สงบในพื้นที่ทุ่งยางแดงระดับปฏิบัติการ (RKK) ได้ใช้อาวุธทำการต่อสู้กับเจ้าหน้าที่โดยชาวบ้านและญาติเชื่อว่าผู้ตายไม่มีอาวุธแต่อย่างใด อีกทั้งเมื่อมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนโดยผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ในขณะนั้น ผลการสอบสวนปรากฏว่า จากการสอบสวนข้อเท็จจริงของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง มีพยานบุคคลยืนยันว่า จากการตรวจสอบ คำให้การของพยานบุคคลและการข่าว ไม่ปรากฏว่าผู้เสียชีวิตทั้ง 4 คน มีพฤติการณ์เป็นกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงหรือแนวร่วมมาก่อน มีเพียงบางรายที่เคยถูกจับเพราะเสพน้ำกระท่อม ก่อนเกิดเหตุขณะที่วิ่งหลบหนี ไม่ปรากฏว่าผู้ตายทั้ง 4 ราย ครอบครองอาวุธปืนแต่อย่างใด และจากการตรวจสอบอาวุธปืนดังกล่าว ไม่พบว่าเคยใช้ในการกระทำความผิดมาก่อน คณะกรรมการฯจึงมีความเห็นเชื่อว่าผู้ตายทั้ง 4 ราย ไม่ใช้ผู้ก่อเหตุรุนแรงและไม่ใช่แนวร่วมกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงแต่อย่างใด ส่วนการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ คณะกรรมการมีความเห็นว่าจุดเริ่มต้นของการปฏิบัติการครั้งนี้ น่าเชื่อว่ามีเหตุผลเพียงพอ เนื่องจากมีข้อมูลด้านข่าวกรองและข่าวสารความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงอยู่ในพื้นที่  ส่วนอาวุธที่พบอยู่กับผู้ตาย ไม่มีหลักฐานบ่งชี้เชื่อมโยงกับผู้ตาย จึงไม่สามารถสรุปได้ คงให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ผู้ชำนาญการ แต่น่าเชื่อว่าไม่ใช่เป็นอาวุธของผู้ตายตั้งแต่เริ่มต้น และได้เสนอแนะให้มีการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่  มีการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบตามระเบียบฯโดยเร็ว  และให้มีการปรับปรุงระบบการข่าวกรองให้แม่นยำมากขึ้น การเข้าปิดล้อมตรวจค้นควรมีผู้นำท้องถิ่นเข้าร่วมด้วยเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวอีก และถ้าเกิดเหตุคล้าย กับกรณีดังกล่าว ให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงเร่งชี้แจงข้อเท็จจริงโดยเร็ว โดยวันนี้ (วันที่ 12 ตุลาคม 2558) ญาติผู้ตายทั้งสี่ พร้อมทนายความของมูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิมมาศาล ญาติผู้ตายได้แต่งตั้งทนายยื่นคำร้องเพื่อซักถามพยานพนักงานอัยการ ศาลได้ทำการไต่สวนพยานไปแล้ว 4 ปาก คือ พ.ต. ลิขิต กระฉอดนอก เจ้าหน้าที่ทหารจากหน่วยเฉพาะกิจที่ 41  จ.ส.ต.อัมพร   เลี่ยเห้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์ปฏิบัติการชายแดนใต้ อส.ทพ. วิรัตน์ชัย บือซา อาสาสมัครทหารจากหน่วยเฉพาะกิจที่ 41  และนายแพทย์อรัญ รอกา แพทย์ผู้ชันสูตรพลิกศพ เป็น โดยได้เลือนไต่สวนครั้งต่อไปในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2558 เวลา 09.00 น. ขอเชิญผู้ที่สนใจและสื่อมวลชนเข้ารับฟังการพิจารณาตามวันเวลาดังกล่าว ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ  นายอับดุลกอฮาร์ อาแวปูเตะ 081-8987408  ทนายความ มูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิมจังหวัดปัตตานี นายปรีดา นาคผิว   089-62222474  ทนายความ มูลนิธิผสานวัฒนธรรม

Recent posts