13 December 2012
1233
ผู้สื่อข่าวรายงานจากห้องประชุมคณะทำงานศึกษาผลกระทบและประชาสัมพันธ์โครงการเหมืองแร่โปแตชอุดรธานี เมื่อเวลา ๑๓.๐๐ – ๑๖.๐๐ น. ของวันที่ ๒๘ มิถุนายน ๒๕๔๘ ที่ผ่านมา ณ ห้องประชุมคำชะโนต ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๔๘ นายปริญญา วงษ์ชาลี ประธานกลุ่มพิทักษ์สิทธิตนเอง ที่ได้จัดประชุมเมื่อ ณ ศาลาวัดบ้านห้วยสามพาด ต.ห้วยสามพาด กิ่ง อ.ประจักษ์ศิลปาคม จ.อุดรธานี โดยได้ระดมชาวบ้านมาประชุมเรื่องสิทธิของกลุ่มตนในการจะออกมาสนับสนุนโครงการเหมืองแร่โปแตชอุดรธานี ร่วมกับฝ่ายบริษัทโดยการอ้างชื่อคณะทำงานฯโดยพละการ ว่าที่ร้อยตรีดุสิต พรมสิทธิ์ ประธานคณะทำงานและประชาสัมพันธ์โครงการเหมืองแร่โปแตชจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่าตักเตือนนายปริญญา วงศ์ชาลี ประธานกลุ่มพิทักษ์สิทธิตนเองว่า “การที่กลุ่มพิทักษ์สิทธิฯ ได้แอบอ้างคณะทำงานฯ แล้วจะนำข้อมูลไปเปิดเวทีในพื้นที่นั้นเป็นสิ่งที่มี่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง เนื่องจากว่าในปัจจุบันสถานการณ์ในพื้นที่ยังมีความขัดแย้งกันอยู่ ฉะนั้นแล้วการนำเสนอข้อมูลออกไปหากไม่ตรงตามข้อเท็จจริงจะนำมาซึ่งความขัดแย้งมากยิ่งขึ้น อีกทั้งการให้ข้อมูล หรือเปิดเวที หรือจะทำอะไรก็ตาม หากว่ากระทำโดยนามของคณะทำงานนั้นจะต้องผ่านความเห็นชอบ เป็นมติของคณะทำงานฯ เสียก่อน เพราะว่าคณะทำงานนั้นประกอบไปด้วยหลายภาคส่วนไม่ได้มีเฉพาะกลุ่มพิทักษ์สิทธิฯ เพียงกลุ่มเดียว แล้วจะมาบอกว่าเป็นสิทธิของตนจะทำอะไรก็ได้ไม่ได้” ว่าที่ร้อยตรีดุสิตกล่าว ทั้งนี้นายเลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ หนึ่งในคณะทำงานกล่าวเพิ่มเติมว่าในนั้นกลุ่มพิทักษ์สิทธิตนเองได้เชิญบุคคลหนึ่งจากลุ่มน้ำพอง จ.ขอนแก่น ซึ่งเคยเป็นนายหน้ากว้านซื้อที่ดินให้กับโรงงานเยื้อกระดาษฟิคนิกส์ และสร้างความแตกแยกกับชาวบ้านในพื้นที่น้ำพองที่ไม่ยอมขายที่ดินให้กับบริษัทโรงงานเยื้อกระดาษดังกล่าว นอกจากนี้ยังมีรายงานลับว่าบุคคลผู้ซึ่งกลุ่มพิทักษ์สิทธิตนเองเชิญมานั้นมีความเกี่ยวข้องกับการวางแผนสังหารนายสำเนา ศรีสงคราม ประธานกลุ่มอนุรักษ์ลุ่มน้ำพองซึ่งไม่ยอมขายที่ดิน และก่อตั้งกลุ่มอนุรักษ์ลุ่มน้ำพอง รณรงค์คัดค้านโครงการเพิ่มพื้นที่โรงงานเยื้อกระดาษตามโครงการโปเจกค์กรีน อันเป็นผลทำให้เกิดวิกฤตน้ำพองเน่าเสียเมื่อปี ๒๕๔๔ ที่ผ่านมาซึ่งขณะนี้จำเลยผู้ที่บงการจ้างวานสังหารนายสำเนา ศรีสงคราม ถูกศาลชั้นต้นพิพากษาประหารชีวิต ส่วนผู้ลงมือสังหารนั้นศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต ขณะนี้คดีอยู่ในชั้นศาลอุทร ตนเห็นว่าเป็นการกระทำอันจะชักนำความรุนแรงมายังพื้นที่จังหวัดอุดรเนื่องจากบุคคลที่นายปริญญา วงษ์ชาลีชักนำมาดังกล่าวมีพฤติกรรมอันสร้างความแตกแยกในชุมชน ตนจึงรู้สึกเป็นกังวลและเห็นว่าการจะออกมาแสดงตัวสนับสนุนโครงการเป็นเรื่องที่เป็นสิทธิที่ทำได้แต่ไม่ควรชักนำผู้ซึ่งมีพฤติกรรมบ่อนทำลายชุมชนจนเป็นเหตุให้เกิดการสังหารนายสำเนาดังกล่าว ควรมุ่งใช้สิทธิของตนเองอย่างสร้างสรรค์มากกว่า นายเลิศศักดิ์ กล่าว ด้านนายปริญญา วงศ์ชาลี ประธานกลุ่มพิทักษ์สิทธิตนเองกล่าวว่า “ตนเองคือหนึ่งในคณะทำงานและประชาสัมพันธ์โครงการเหมืองแร่โปแตชจังหวัดอุดรธานี โดยผู้ว่าราชการจังหวัดให้การแต่งตั้งขึ้นมาทำงานแล้วนำข้อมูล ข้อเท็จจริงที่ได้มาเผยแพร่ให้กับชาวบ้านในพื้นที่ให้ได้รับทราบ ดังนั้นจึงเป็นสิทธิของผมและกลุ่มพิทักษ์สิทธิฯ ในฐานะเป็นตัวแทนชาวบ้านที่เข้าไปรับทราบข้อมูลแล้วจึงอยากนำข้อมูลที่ได้มาจัดเวที ก็คิดว่ามันไม่น่าจะเสียหายอะไร”