Advertisement

Banner 600x250 px

Advertise with us

ThaiNGO team support only thaingo.org and thaingo.in.th.

เว็บไซต์ที่ทีมงาน thaingo ดูแลคือ thaingo.org และ thaingo.in.th เท่านั้น

Back

สรุปบทเรียนขบวนประชาชน กรณีโครงการเหมืองแร่โปแตช

สรุปบทเรียนขบวนประชาชน กรณีโครงการเหมืองแร่โปแตช

12 December 2012

1372

“เหมืองแร่โปแตช” เป็นที่รู้จักของสาธารณชนในช่วงระยะเวลาเพียงไม่กี่ปี จากการติดตามระดับนโยบายของนักพัฒนาเอกชน (NGOs) กลุ่มหนึ่ง เมื่อปีพ.ศ.2544   แล้วจึงเกิดองค์กรชาวบ้านในพื้นที่ขึ้นมาเมื่อปีพ.ศ.2545 เพื่อคัดค้านโครงการฯ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งรวมระยะเวลาแล้วก็เกือบ 10 ปี แต่กระนั้น โครงการเหมืองแร่โปแตช ได้มีการขุดเจาะสำรวจทั่วทั้งภาคอีสานพบตั้งแต่ปีพ.ศ.2516 และทำสัญญากันระหว่างรัฐบาลกับบริษัทเอกชนสัญชาติต่างด้าวเมื่อปีพ.ศ.2527 โดยเฉพาะกรณีโครงการเหมืองแร่โปแตช จ.อุดรธานี ของ บริษัท อะกริโกโปแตช จำกัด และเปลี่ยนเป็น บริษัท เอเชีย แปซิกฟิก โปแตช คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ เอพีพีซี สัญชาติแคนนาดาในเวลาต่อมา (ปัจจุบันบริษัทอิตาเลี่ยนไทย ดิเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ได้เข้าซื้อหุ้นทั้งหมดของ เอพีพีซี แล้ว ดังจะได้กล่าวต่อไป) นับได้ว่ามีการวางแผนของรัฐและกลุ่มทุนเอาไว้แล้วกว่า 30 ปี เพื่อนำแร่โปแตชขึ้นมาใช้ และพัฒนาอุตสาหกรรมต่อเนื่องในภาคอีสาน ชาวบ้านในพื้นที่ได้พบเห็นเจ้าหน้าที่โดยอ้างว่ามาจากกรมทรัพยากรธรณี (ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่) กระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมมีคนต่างชาติร่วมเดินทางมาด้วยเพื่อทำการสำรวจหาแร่โปแตชโดยบอกกับชาว บ้านว่า “รัฐบาลให้มาขุดหาบ่อน้ำมัน ต่อไปนี้เจ้าของที่ก็จะรวยแล้ว” แต่ละบ่อใช้เวลา 1-2 สัปดาห์ และการทำงานของเครื่องจักรก็ได้สร้างความรำคาญให้กับชาวบ้านยิ่งนัก เพราะถ้าหากเขาพบว่ามีแร่ ณ จุดใดเขาก็จะทำการขุดเจาะทันทีถึงแม้ว่าจะอยู่ภายในบริเวณบ้านก็ตามที แต่เมื่อขุดเจาะเสร็จกลุ่มคนเหล่านั้นก็ให้เงินกับเจ้าของที่บ่อละ 3,000 บาท เพื่อเป็นการตอบแทน ทั้งนี้ ก็ไม่มีใครล่วงรู้ได้ว่าอนาคตข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้นกับชุมชน แต่ทว่าจากการทิ้งซากของการขุดเจาะสำรวจที่มีดินเค็ม น้ำเค็มทะลักออกมาจากบ่อแล้วทำให้ต้นไม้ ใบหญ้า พืช ผัก บริเวณนั้นเหี่ยวเฉา แห้งตายลงอย่างรวดเร็ว มีบางรายเลี้ยงวัวแล้ววัวไปเลียบ่อประหลาดอันนั้นทุกๆ วัน (วัวชอบเลียสิ่งที่มีความเค็ม) ก็ผอมโซ ล้มตายลงและสัตวแพทย์ก็ตรวจเช็คดูผลปรากฏว่าวัวตัวนั้นมีอาการลำไส้เปื่อย ตาย จึงนำมาซึ่งความคับข้องใจให้กับชาวบ้านอย่างมาก จากการติดตามและรวบรวมข้อมูลของ NGOs ใน ภาคอีสาน แล้วเมื่อพบว่าโครงการเหมืองแร่โปแตช จ.อุดรธานี ครอบคลุมบริเวณ 4 ตำบล ได้แก่ ต.หนองไผ่, ต.โนนสูง อ.เมือง และต.ห้วยสามพาด, ต.นาม่วง กิ่งอ.ประจักษ์ศิลปาคม ซึ่งเรียกว่า “แหล่งอุดรใต้” มีเนื้อที่กว่า 22,400 ไร่ (แหล่งอุดรเหนือครอบคลุมเขตเทศบาล อ.เมือง, อ.ประจักษ์ศิลปาคม และอ.หนองหาน รวมแล้วกว่า 52,000 ไร่) จึงได้ลงพื้นที่ไปจัดตั้งองค์กรชาวบ้านเพื่อทำการติดตามตรวจสอบ ตลอดจนคัดค้านโครงการฯ จนกระทั่งช่วงเดือนมกราคม พ.ศ. 2545 จึงได้มีการก่อตั้งกลุ่มชาวบ้านอย่างเป็นทางการขึ้นในนาม กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี โดยมีแนวร่วมกว่า 20 หมู่บ้าน ใน 4 ตำบล และได้จัดทำทะเบียนรายชื่อพบว่ามีจำนวนสมาชิกรวมแล้วกว่า 7,000 รายชื่อ เพื่อร่วมกันคัดค้านโครงการเหมืองแร่โปแตช ทั้งนี้ กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี มีโครงสร้างการจัดการในรูปแบบคณะกรรมการที่เป็นตัวแทนจากแต่ละหมู่บ้านรวม แล้วประมาณ 40 คน โดยมีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
  1. เพื่อรณรงค์และติดตามนโยบายการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะทรัพยากรแร่ ในภาคอีสาน ตลอดจนคัดค้านโครงการเหมืองแร่โปแตช ที่จะนำพาความล่มสลายมาสู่ชุมชนเกษตรกรรม
  2. เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับองค์กรชาวบ้าน
  3. เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับองค์กรชาวบ้าน
  กิจกรรมที่ได้ทำมา กลุ่มชาวบ้านได้ร่วมกันทำกิจกรรมเพื่อนำไปสู่วัตถุประสงค์ดังกล่าวข้างต้น ซึ่งพอจำแนกได้ คือ
  1. การขยายสมาชิก  เครือข่าย
  2. การศึกษาดูงาน
  3. การรณรงค์เผยแพร่
  4. การระดมทุน (นารวม)
  5. การผลักดันนโยบาย (การเมืองท้องถิ่น, ชุมนุม)

Recent posts