Advertisement

Banner 600x250 px

Advertise with us

ThaiNGO team support only thaingo.org and thaingo.in.th.

เว็บไซต์ที่ทีมงาน thaingo ดูแลคือ thaingo.org และ thaingo.in.th เท่านั้น

Back

ความสุ่มเสี่ยงของพรรคเพื่อไทยต่อข้อกล่าวหานำที่ดิน ส.ป.ก. ไปให้นายทุนทำเหมืองแร่ถ่านหินที่บ้านแหง

ความสุ่มเสี่ยงของพรรคเพื่อไทยต่อข้อกล่าวหานำที่ดิน ส.ป.ก. ไปให้นายทุนทำเหมืองแร่ถ่านหินที่บ้านแหง

13 November 2012

1453

ชื่อชุมชนที่ได้รับผลกระทบ: บ้านแหง
เลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ โครงการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะด้านทรัพยากรแร่ กลุ่มนิเวศวัฒนธรรมศึกษา ๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๕     เมื่อ วันที่ ๒ มิถุนายน ๒๕๕๑ นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เสนอ ครม. ให้พิจารณายกเลิกมติ ครม. เกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาแหล่งถ่านหิน เพื่อจะได้ดำเนินการประกาศยกเลิกเขตสำหรับดำเนินการสำรวจ การทดลอง การศึกษาหรือการวิจัยเกี่ยวกับแร่ถ่านหินตามความในมาตรา ๖ ทวิ ของกฎหมายแร่ ๒๕๑๐ ทั้งหมด ๘ พื้นที่ คือ แหล่งถ่านหินแอ่งเคียนซา จังหวัดสุราษฎร์ธานี  แอ่งสินปุน จังหวัดนครศรีธรรมราช  แอ่งเชียงม่วน จังหวัดพะเยา  แอ่ง งาว แอ่งวังเหนือ แอ่งแจ้ห่ม-เมืองปาน แอ่งแม่ทะ และแอ่งเสริมงาม จังหวัดลำปาง ไปเปิดประมูลให้ภาคเอกชนเข้ามาลงทุนสำรวจและทำเหมืองแร่ถ่านหินต่อไป ๑๐ มิถุนายน ๒๕๕๑ บริษัท เขียวเหลือง จำกัด ได้ทำการจดทะเบียนประเภทบริษัทจำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน ๓๐ ล้านบาท  บริษัทนี้เป็นของกลุ่มทุนการเมืองพรรคภูมิใจไทยสายของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน  ก่อน ที่จะมีการเลือกตั้ง ส.ส. เมื่อครั้งล่าสุดในวันที่ ๓ กรกฎาคม ๒๕๕๔ มีนายเรืองศักดิ์ งามสมภาค ซึ่งมีตำแหน่งเป็นรองเลขาธิการพรรคภูมิใจไทยคนที่หนึ่ง นั่งอยู่ในตำแหน่งกรรมการบริษัทและประธานบริษัท  อดีต เคยเป็นอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรมสมัยที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และเป็นผู้เคยถูกเสนอชื่อให้เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขแทนนาย มานิต นพอมรบดี ที่ลาออกจากตำแหน่งไปเมื่อวันที่ ๑๐ มกราคม ๒๕๕๓ ที่ผ่านมา ปัจจุบันเป็น ส.ส. ระบบบัญชีรายชื่อลำดับที่สามของพรรค แต่ออกจากตำแหน่งรองเลขาธิการพรรคคนที่หนึ่งแล้ว ตั้งแต่วันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๕๕ ที่ผ่านมา  นับตั้งแต่ดำรงตำแหน่ง ส.ส. เมื่อการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาก็ได้ลาออกจากตำแหน่งการเป็นกรรมการและประธานบริษัทแล้วเช่นกัน  คน ๆ นี้เป็นคนใกล้ชิดของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน หัวหน้ากลุ่มมัชฌิมา แกนนำพรรคภูมิใจไทย ตั้งแต่สมัยที่ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน เป็นสามีของนางอนงค์วรรณ เทพสุทิน  ถ้า ดูจากความเชื่อมโยงหรือสายสัมพันธ์ที่กล่าวมาอาจจะสงสัยว่าการดำรงตำแหน่ง เป็นกรรมการและประธานบริษัท เขียวเหลือง จำกัด ของนายเรืองศักดิ์ งามสมภาค ไปเกี่ยวข้องเชื่อมโยงอย่างไรกับนายสมศักดิ์ เทพสุทิน  แต่ เรื่องนี้เป็นเรื่องปฏิเสธยากก็เพราะว่าพฤติกรรมหลายกรณีของบริษัท เขียวเหลือง จำกัด มันโจ่งแจ้งออกมาเสียจนใคร ๆ เขาก็รู้กันทั่วทั้งจังหวัดสุโขทัยและลำปางว่าเจ้าของตัวจริงเสียงจริงของ บริษัท เขียวเหลือง จำกัด เป็นใคร ๑๗ มิถุนายน ๒๕๕๑ ครม. ได้มีมติเห็นชอบให้ยกเลิกมติ ครม. เกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาแหล่งถ่านหินตามที่นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน เสนอ  ต่อ มานางอนงค์วรรณ เทพสุทิน ออกประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง ยกเลิกเขตสำหรับดำเนินการสำรวจ การทดลอง การศึกษา หรือการวิจัยเกี่ยวกับแร่ถ่านหินตามมาตรา ๖ ทวิ เมื่อวันที่ ๒๐ มิถุนายน ๒๕๕๑ ซึ่งส่งผลให้บริษัทเขียวเหลืองทำการขอประทานบัตรเพื่อทำเหมืองแร่ถ่านหิน แอ่งงาวที่บ้านแหง และที่แหล่งถ่านหินแอ่งแจ้ห่ม-เมืองปาน ที่บ้านแจ้คอน ต.ทุ่งผึ้ง อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง อยู่ในขณะนี้ ๒๔ มิถุนายน ๒๕๕๑ หนังสือสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ด่วนที่สุด ที่ ๐๕๐๕/๙๒๘๗ ลงวันที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๕๕๑ แจ้งต่อนางอนงค์วรรณ เทพสุทิน ว่าคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๕๕๑  ตามที่นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน เสนอ ข้อ สังเกตสำคัญก็คือ ครม. ได้มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๕๕๑ แต่หนังสือจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีด่วนที่สุด ที่ ๐๕๐๕/๙๒๘๗ แจ้งมายังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน) เมื่อวันที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๕๕๑ จึงสงสัยว่านางอนงค์วรรณ เทพสุทิน ได้ทำการประกาศกระทรวงฯ เรื่องยกเลิกเขตสำหรับดำเนินการสำรวจ การทดลอง การศึกษา หรือการวิจัยเกี่ยวกับแร่ถ่านหินตามความในมาตรา ๖ ทวิ ของกฎหมายแร่ เมื่อวันที่ ๒๐ มิถุนายน ๒๕๕๑ ก่อนที่หนังสือจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะส่งมาถึงได้อย่างไร หากประเด็นนี้ไม่ใช่การผิดลำดับขั้นตอน/กระบวนการของกฎหมายหรือกฎระเบียบใด ๆ แต่เป็นที่น่าสงสัยว่านางอนงค์วรรณ เทพสุทิน ได้เร่งรีบออกประกาศกระทรวงฯ ดังกล่าวก่อนหนังสือจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะส่งมาถึงตัวเองไปเพื่อ อะไร หรือเพื่อใคร ปัจจุบันบริษัท เขียวเหลือง จำกัด กำลังดำเนินการขออนุญาตใช้ที่ดิน ส.ป.ก. ในเขตปฏิรูปที่ดินตามที่ประกาศอยู่ในพระ ราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลบ้านร้อง ตำบลปงเตา ตำบลบ้านแหง ตำบลนาแก ตำบลหลวงเหนือ ตำบลหลวงใต้ และตำบลแม่ตีบ อำเภองาว จังหวัดลำปาง ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๒  เพื่อ ทำเหมืองแร่ถ่านหินที่บ้านแหง แต่บริษัทดังกล่าวได้ดำเนินการขอประทานบัตรจนเกิดความไม่ไว้วางใจจากประชาชน ในหมู่บ้านแหงเหนือ หมู่ ๑ และ ๗ หลายประการ อาทิเช่น ๑. บริษัทจดทะเบียนโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประกอบกิจการป่าไม้ การทำไม้ ปลูกสวนป่า เพื่อขอซื้อที่ดินชาวบ้าน เพราะถ้าหากระบุวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งบริษัทเพื่อทำเหมืองแร่เกรงว่าชาว บ้านจะขายที่ดินให้ในราคาแพงขึ้นหรือไม่ยินยอมขายให้ แต่พอซื้อที่ดินได้แล้ว กลับนำที่ดินมาขอประทานบัตรทำเหมืองแร่ภายหลัง มิหนำซ้ำใบอนุญาตเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้[1] เป็นใบอนุญาตที่ได้มาในช่วงที่ขอใช้ประโยชน์เพื่อปลูกป่าหรือวนเกษตร แต่กลับนำใบอนุญาตปลูกป่ามาอ้างต่อชาวบ้านและส่วนราชการในพื้นที่ว่าเป็นใบ อนุญาตให้ทำเหมืองแร่ได้ ซึ่งผิดวัตถุประสงค์ตามข้อกฎหมาย ๒. รายงานการไต่สวนประกอบคำขอประทานบัตรทำเหมืองแร่ถ่านหิน ตามคำขอประทานบัตรที่ ๔ – ๘/๒๕๕๓ เป็นเท็จ โดยระบุข้อเท็จจริงที่ขัดกับสภาพความเป็นจริงหลายประการ คือ ตามรายงานดังกล่าวระบุภูมิประเทศว่าเป็นที่ราบ แต่ข้อเท็จจริงพบว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ราบเชิงเขามีลักษณะเป็นแหล่งต้น น้ำลำธารหรือป่าน้ำซับน้ำซึม ซึ่งเป็นแหล่งน้ำสำหรับการใช้อุปโภคบริโภคของชุมชน มี การระบุถ้อยคำอันเป็นเท็จว่าพื้นที่ขอประทานบัตรไม่ทับทางน้ำ ไม่มีน้ำไหลผ่าน ไม่มีน้ำเพื่อใช้ประโยชน์สำหรับการทำนาทำสวน แต่ข้อเท็จจริงปรากฏว่าพื้นที่คำขอประทานบัตรทับทางน้ำลำห้วยโป่ง ลำห้วยแม่จอนและลำห้วยสาขาย่อยอีกหลายสาย ซึ่งประชาชนได้ใช้ประโยชน์ในการนำน้ำใช้ทำนา มี การระบุถ้อยคำอันเป็นเท็จว่าพื้นที่ขอประทานบัตรไม่ทับทางสาธารณะ ทั้ง ๆ ที่มีทางสาธารณะหลายเส้นทางที่ประชาชนใช้สัญจรไปมาตามปกติ จะต้องถูกขุดทำลายเพื่อเปิดหน้าดินไปเอาถ่านหินที่อยู่ใต้ดิน ๓. ขอประทานบัตรทับที่ดินทำกิน ทั้งที่เจ้าของที่ดินไม่ยินยอม โดยรายงานการไต่สวนประกอบคำขอประทานบัตรได้ขอทับพื้นที่ทำกินของชาวบ้าน ประมาณ ๒๐ กว่าราย ที่ไม่ยินยอมขายที่ดินหรือให้ใช้ประโยชน์ในที่ดินเพื่อการทำเหมืองแร่ถ่าน หินแต่อย่างใด โดยมีการรวมหัวกันระหว่างข้าราชการและนายทุนเพื่อละเมิดสิทธิครอบครองที่ดิน ของประชาชน โดยพยายามเร่งรัดการขอประทานบัตรเพื่อให้ได้ประทานบัตรทำเหมืองแร่ถ่านหิน ก่อน แล้วให้เจ้าของที่ดินไปเรียกร้องหรือฟ้องคดีต่อศาลเพื่อเอาที่ดินที่ตนเองมี สิทธิครอบครองกลับคืนมาภายหลัง ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ถึงจะได้ที่ดินที่ตัวเองถือครองคืนมาเพราะกระบวน การร้องเรียนหรือฟ้องคดีต่อศาลใช้เวลายาวนานกว่าคดีความจะสิ้นสุด หรือถึงแม้ในที่สุดหากได้ที่ดินคืนมาก็จะไม่มีสภาพเดิมเหมือนเก่า ทำกินไม่ได้อีกต่อไป เพราะถูกขุดเปิดทำลายหน้าดินเพื่อเอาถ่านหินไปหมดแล้ว ๔. มีการทำประชาคมหมู่บ้านเท็จ หลอกลวง สวมรอย เพื่อช่วยเหลือให้บริษัทดำเนินการขอประทานบัตรทำเหมืองแร่ถ่านหินต่อไปให้ ได้ โดยไม่ฟังเสียงประชาชน หรือบิดเบือนความเห็นที่ได้จากการประชุม กล่าวคือ ในการประชุมชี้แจงข้อมูลของบริษัทและส่วนราชการ เมื่อวันที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๕๓ ที่ศาลาเอนกประสงค์โรงเรียนบ้านแหงเหนือ โดยมีปลัด อบต.บ้านแหง เป็นผู้บันทึกการประชุม  และ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ ๑ และหมู่ ๗ เป็นผู้รับรองรายงานการประชุม ข้อเท็จจริงที่ชาวบ้านบันทึกเอาไว้ได้ในแผ่นซีดีบันทึกภาพและเสียงพบว่าขัด แย้งกับรายงานการประชุม โดยรายงานการประชุมบันทึกไว้ตอนหนึ่งว่า “ใครเห็นด้วยให้บริษัทขอประทานบัตรเพื่อทำเหมืองแร่ถ่านหิน ให้ยกมือขึ้น” แต่ข้อเท็จจริงที่ได้จากแผ่นซีดีบันทึกภาพและเสียงที่บันทึกไว้ได้ในช่วงเวลาเดียวกันระบุว่า “ใครเข้าใจในเรื่องที่อธิบายเกี่ยวกับการชี้แจงการขอประทานบัตรเพื่อทำเหมืองแร่ถ่านหิน ให้ยกมือขึ้น” การ กระทำดังกล่าวไม่ได้เป็นไปตามกระบวนการชี้แจงข้อมูลและสอบถามความเห็นโดย โปร่งใสและสุจริต การถามความเห็นเพียงเท่าที่กล่าว ผู้เข้าร่วมประชุมย่อมเข้าใจได้ว่าเป็นการสอบถามว่าชาวบ้านรับฟังคำชี้แจง แล้วเข้าใจหรือไม่ ไม่ใช่เป็นการสอบถามความเห็นชอบว่า ยินยอมหรืออนุญาตให้บริษัทได้รับประทานบัตรและประกอบกิจการเหมืองแร่ถ่านหิน ตามที่อ้างไว้ในบันการประชุมเท็จแต่อย่างใด ๕. มติของสภา อบต.บ้านแหง เมื่อวันที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๕๓ มิชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากว่าสภา อบต.บ้านแหงมีมติเห็นชอบการขอประทานบัตรและการประกอบกิจการเหมืองแร่ถ่านหิน ของบริษัท โดยนำรายงานการประชุมชี้แจงข้อมูลของบริษัทเมื่อวันที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๕๓ ที่บ้านแหงเหนือ มาใช้เป็นหลักฐานพิจารณาลงมติของสภา ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และไม่เป็นไปตามหลักการของการมีส่วนร่วมของประชาชน ๖. บิดเบือนข้อมูลผลประโยชน์ที่ อบต. จะได้รับจากค่าภาคหลวงแร่  เนื่องจากว่าการขอประทานบัตรทำเหมืองแร่ถ่านหินของบริษัทดังกล่าวมี อบต. เกี่ยวข้อง ๒ แห่ง  แห่งแรกเป็น อบต.ในพื้นที่ทำเหมือง คือ อบต.บ้านแหง และแห่งที่สองเป็น อบต. ในพื้นที่เส้นทางลำเลียงถ่านหิน คือ อบต.ปงเตา  ซึ่ง จะมีบ้านปันใต้เป็นเส้นทางลำเลียงถ่านหิน หากมีการทำเหมืองแร่เกิดขึ้นจะได้ส่วนแบ่งค่าภาคหลวงถ่านหินเท่ากับ อบต.และเทศบาลตำบลอื่น ๆ ในจังหวัดลำปางอีก ๙๘ แห่ง คือประมาณ ๓,๙๑๘ บาทต่อเดือน ต่างจากที่ อบต.บ้านแหง ได้เดือนละ ๗๖๘,๐๐๐ บาท หรือแตกต่างกันประมาณ ๑๙๙ เท่า คำถามสำคัญที่ประชาชนบ้านปันใต้ ในเขต อบต.ปงเตา เริ่มตั้งคำถามเสียงดังขึ้นเรื่อย ๆ ก็คือ ทั้ง ๆ ที่ อบต.ปงเตา ต้องแบกรับภาระปัญหาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นไม่แตกต่างกับ อบต.บ้านแหง ไม่ว่าผลกระทบที่เกิดจากฝุ่นถ่านหินระหว่างทางลำเลียง  เสียงดังรบกวนจากรถบรรทุกขนถ่านหิน  น้ำหนัก บรรทุกถ่านหินต่อความสามารถแบกรับน้ำหนักของถนน ถ้าคิดการขนถ่านหินที่ ๓๐ ตันต่อเที่ยว (เฉพาะน้ำหนักถ่านหิน ยังไม่รวมน้ำหนักรถบรรทุก) จะมีรถบรรทุกขนถ่านหินผ่านหมู่บ้านปันเหนือและใต้วันละ ๑๑๑ เที่ยว รวมวิ่งกระบะเปล่า (ขากลับ) เพื่อมารับถ่านหินเป็นวันละ ๒๒๒ เที่ยว หรือคิดเป็นชั่วโมงละ ๕ เที่ยว รวมวิ่งกระบะเปล่าได้ชั่วโมงละ ๑๐ เที่ยว หรือใน ๖ นาที จะเห็นรถบรรทุกถ่านหินวิ่งผ่านหมู่บ้านปันเหนือและใต้ ๑ คัน แล้วทำไมนายทุนและข้าราชการบางคนถึงไปบิดเบือนข้อมูลว่า อบต.ปงเตา จะได้รับค่าภาคหลวงแร่ถ่านหินร้อยละ ๑๐ คิดเป็นเงินประมาณ ๓๘๔,๐๐๐ บาทต่อเดือน เต็มจำนวนโดยไม่ต้องแบ่งค่าภาคหลวงถ่านหินร้อยละ ๑๐ ให้กับ อบต.หรือเทศบาลตำบลอื่น ๆ ทั่วทั้งจังหวัดลำปางอีก ๙๘ แห่ง แต่ข้อเท็จจริงกลับได้ส่วนแบ่งจากค่าภาคหลวงแร่เพียง ๓,๙๑๘ บาทต่อเดือนเท่านั้น เพราะต้องแบ่งค่าภาคหลวงแร่ร้อยละ ๑๐ ไปให้กับ อบต./เทศบาลตำบลอื่น ๆ อีก ๙๘ แห่งทั่วทั้งจังหวัดลำปาง (ดูตารางในบทความนี้ หน้าถัดไป) ด้วย มูลค่าของค่าภาคหลวงที่แตกต่างกันนี่เองจึงเป็นเหตุผลว่าทำไม อบต.บ้านแหง ถึงอยากให้มีการทำเหมืองถ่านหินแห่งนี้มาก ถึงขั้นมีมติโดยใช้ข้อมูลเท็จที่ได้จากประชาคมหมู่บ้านสนับสนุนให้บริษัท ดำเนินการขอประทานบัตรต่อไปได้ ในขณะที่ อบต.ปงเตา กำลังเครียดกับการถูกหลอกลวงให้มีมติจากสภา อบต. สนับสนุนให้บริษัทลำเลียงถ่านหินผ่านหมู่บ้านปันใต้ได้   ตาราง มูลค่าและค่าภาคหลวงถ่านหินแหล่งบ้านแหงเหนือ-ใต้
อายุ ประทานบัตร ปริมาณสำรองถ่านหิน ที่บริษัทเขียวเหลืองวางแผนทำเหมือง (๑๐ ล้านตัน) มูลค่าถ่านหิน ที่บริษัทเขียวเหลืองขุดได้ (๙๖๐ บาท/ตัน) ค่าภาคหลวงถ่านหิน ที่รัฐได้ (ร้อยละ ๔)
๑ เดือน ๑๐๐,๐๐๐ ตัน ๙๖,๐๐๐,๐๐๐ บาท ๓,๘๔๐,๐๐๐ บาท
๑ ปี ๑,๒๐๐,๐๐๐ ตัน ๑,๑๕๒,๐๐๐,๐๐๐ บาท ๔๖,๐๘๐,๐๐๐ บาท
๘ ปี ๔ เดือน ๑๐,๐๐๐,๐๐๐ ตัน ๙,๖๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท ๓๘๔,๐๐๐,๐๐๐ บาท
  ตาราง ส่วนแบ่งค่าภาคหลวงถ่านหินแหล่งบ้านแหงเหนือ-ใต้ ระหว่างรัฐส่วนกลางกับท้องถิ่น* (บาท)
อายุ  ประทานบัตร ค่าภาคหลวง  ถ่านหินที่รัฐได้ ส่วนแบ่งค่าภาคหลวงถ่านหินแหล่งบ้านแหงเหนือ-ใต้ ระหว่างรัฐส่วนกลางกับท้องถิ่น (บาท)
กระทรวง  การคลัง  (ร้อยละ ๔๐) อบจ. ลำปาง    (ร้อยละ ๒๐) อบต. บ้านแหง     (ร้อยละ ๒๐) อบต. อื่น ๆ    ของลำปาง  (ร้อยละ ๑๐) อบต. อื่น ๆ   ทั่วประเทศ  (ร้อยละ ๑๐)
๑ เดือน ๓,๘๔๐,๐๐๐ ๑,๕๓๖,๐๐๐ ๗๖๘,๐๐๐ ๗๖๘,๐๐๐ ๓๘๔,๐๐๐ ๓๘๔,๐๐๐
๑ ปี ๔๖,๐๘๐,๐๐๐ ๑๘,๔๓๒,๐๐๐ ๙,๒๑๖,๐๐๐ ๙,๒๑๖,๐๐๐ ๔,๖๐๘,๐๐๐ ๔,๖๐๘,๐๐๐
๘ ปี ๔ เดือน ๓๘๔,๐๐๐,๐๐๐ ๑๕๓,๖๐๐,๐๐๐ ๗๖,๘๐๐,๐๐๐ ๗๖,๘๐๐,๐๐๐ ๓๘,๔๐๐,๐๐๐ ๓๘,๔๐๐,๐๐๐
หมายเหตุ *               ส่วนแบ่งหรือการจัดสรรค่าภาคหลวงถ่านหินตามตารางนี้เป็นไปตามประกาศคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เรื่อง การจัดสรรค่าภาคหลวง ออกตามความใน พระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๔๒ ซึ่งกำหนดให้กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) จัดสรรค่าภาคหลวงแร่ที่ผลิตได้จากประทานบัตรหรือสัมปทานให้แก่องค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น ภายหลังจากหักส่งเป็นรายได้ของรัฐส่วนกลาง (กระทรวงการคลัง) ในอัตราร้อยละ ๔๐ แล้ว   ประเด็น สำคัญจากตาราง เมื่อเทียบกับถ่านหินเพียงน้อยนิด คือ ๑๐ ล้านตัน ผลประโยชน์ที่ อบต.บ้านแหง ได้น้อยนิดเดียว ไม่คุ้มค่ากับทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม ผืนแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์และวิถีชีวิตของคนบ้านแหงที่ต้องสูญเสียหรือได้รับ ผลกระทบจากการทำเหมืองแร่ เพราะต้องเปิดทำลายหน้าดินเป็นบริเวณกว้างมากกว่า ๑,๐๐๐ ไร่ และต้องขุดลึกมากที่ระดับ ๑๕๐ เมตรจากผิวดิน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อระบบน้ำใต้ดินอย่างรุนแรงในอนาคต รวมทั้งพื้นที่ที่ต้องถูกเปิดหน้าดินเป็นบริเวณกว้างถึง ๑,๐๐๐ ไร่ดังกล่าว เป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร มีลำห้วยจอน ลำห้วยโป่ง และลำห้วยย่อยอีกหลายสายไหลผ่าน โดยเฉพาะระบบเหมืองฝายของลำห้วยจอนที่นำน้ำไปหล่อเลี้ยงนาข้าวหลายร้อยไร่จะ ถูกทำลายลงไปหากมีเหมืองเกิดขึ้น ไม่เพียงเท่านั้นหากลำห้วยจอนซึ่งเป็นลำห้วยใหญ่สายหนึ่งที่เติมน้ำให้กับ น้ำแม่แหงถูกทำลายจากการเปิดหน้าดินทำเหมืองถ่านหิน ทุ่งนาผืนใหญ่ของหลายหมู่บ้านที่ใช้น้ำแม่แหงทดน้ำเข้านา ผลผลิตข้าวจะเสียหายตามไปด้วย ซึ่งน้ำแม่แหงเป็นลำน้ำสาขาสายสำคัญสายหนึ่งของลำน้ำงาวก่อนที่จะไหลลงสู่ แม่น้ำยมต่อไป และ เมื่อเทียบกับถ่านหินเพียงน้อยนิด คือ ๑๐ ล้านตัน แต่ค่าภาคหลวงถ่านหินที่ได้จะถูกแบ่งเฉลี่ยให้เท่ากันในแต่ละหมู่บ้านที่ อยู่ในความรับผิดชอบของ อบต.บ้านแหง เป็นลักษณะเบี้ยหัวแตก จนไม่สามารถเอามาใช้เป็นกองทุนเพื่อเตรียมการ ป้องกัน เฝ้าระวัง ติดตาม ตรวจสอบ หรือกำกับดูแลเพื่อแก้ไขปัญหาผลกระทบได้เลย ก็เพราะว่าค่าภาคหลวงถ่านหินที่ อบต.บ้านแหง ได้รับนั้นจะต้องเอาไปรวมเข้ากับรายได้ส่วนอื่น ๆ ที่จัดเก็บได้ในรอบปี และนำเงินรายได้ที่จัดเก็บได้ทั้งหมดไปวางแผนพัฒนาตำบลในภาพรวม แต่จะไม่สามารถนำเงินรายได้ที่ได้จากค่าภาคหลวงถ่านหินมาวางแผนเพื่อเตรียม การ ป้องกัน เฝ้าระวัง ติดตาม ตรวจสอบ หรือกำกับดูแลเพื่อแก้ไขปัญหาผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการทำเหมืองถ่านหินโดย เฉพาะแต่อย่างใด เนื่องจากแรงกดดันของสมาชิก อบต. ที่อยากได้ส่วนแบ่งจากค่าภาคหลวงถ่านหินเพื่อเอาไปพัฒนาหมู่บ้านตนเองด้วย เพื่อสร้างความนิยมต่อชาวบ้านที่ลงคะแนนเลือกเข้ามาเป็นสมาชิก อบต.  ทั้ง ๆ เป็นหมู่บ้านที่ไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ จากการทำเหมืองแร่ถ่านหินเลยก็ตาม แต่สมาชิก อบต. พวกนี้มีส่วนสำคัญต่อการยกมือลงมติเห็นชอบให้มีการทำเหมืองได้ พวกเขาจึงเห็นว่าสมควรได้รับค่าตอบแทนจากการยกมือสนับสนุนบริษัท     แผนที่นิเวศหมู่บ้านแหงเหนือ หมู่ ๑ และ ๗ และแปลงคำขอประทานบัตร เพื่อขอทำเหมืองแร่ถ่านหินลิกไนต์ ของบริษัท เขียวเหลือง จำกัด (จัดทำโดย ชาวบ้านบ้านแหงเหนือ หมู่ ๑ และ ๗ ต.บ้านแหง อ.งาว จ.ลำปาง  พฤศจิกายน ๒๕๕๓) แผนที่นิเวศของหมู่บ้านแหงเหนือหมู่ ๑ และ ๗ แสดงพื้นที่คำขอประทานบัตรเหมืองแร่ถ่านหินลิกไนต์ ของบริษัท เขียวเหลือง จำกัด ที่ซ้อนทับลงไปในไร่นาหรือที่ดินทำกินที่บางส่วนเป็นที่ดิน ส.ป.ก. (จัดทำโดย ชาวบ้านบ้านแหงเหนือ หมู่ ๑ และ ๗ ต.บ้านแหง อ.งาว จ.ลำปาง  พฤศจิกายน ๒๕๕๓)   จากประชาธิปัตย์ถึงภูมิใจไทยและเพื่อไทย ผี ส.ป.ก. ยังตามหลอกหลอน     ป้ายรณรงค์ที่บ้านแหงเหนือ คัดค้านการนำที่ดิน ส.ป.ก. ไปให้นายทุนทำเหมืองแร่ถ่านหิน (ลิขสิทธิ์ภาพถ่ายเป็นของนายขวัญชัย ใจแก้วทิ)   ราย ชื่อเกษตรกรผู้ถือครองที่ดินในเขตที่ดิน ส.ป.ก. ในบริเวณตามคำขอประทานบัตรที่ ๔, ๕ และ ๘/๒๕๕๓ มีทั้งสิ้น ๗๓ ราย รวมพื้นที่ประมาณ ๖๖๑ ไร่ จากพื้นที่ขอประทานบัตรรวม ๕ แปลง คือ แปลงที่ ๔ – ๘/๒๕๕๓ ทั้งหมดประมาณ ๑,๒๐๐ ไร่ หรือคิดเป็นที่ดิน ส.ป.ก. ในเขตคำขอประทานบัตรไม่ต่ำกว่าครึ่งหนึ่ง จาก ปัญหาความไม่ไว้วางใจที่กล่าวมา กำลังนำมาสู่การคัดค้านขอใช้พื้นที่ ส.ป.ก. เพื่อทำเหมืองแร่ถ่านหินที่บ้านแหงอยู่ในขณะนี้ เพราะมีการเปรียบเทียบกรณีการแจกที่ดิน ส.ป.ก. ๔-๐๑ สมัยที่นายสุ เทพ เทือกสุบรรณ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เมื่อปี ๒๕๓๘ สร้างผลงานชิ้นสำคัญด้วยการแจกที่ดิน ส.ป.ก. ๔-๐๑ ให้กับนายทศพร เทพบุตร สามีของนางอัญชลี เทพบุตร ขณะเป็นเลขานุการของตนเอง ไม่เพียงแต่นายทศพร เทพบุตร ที่ได้รับที่ดินผืนงามของเกาะภูเก็ตกว่า ๙๐ ไร่ แต่ยังมีนายทุนและคนสนิทของพรรคประชาธิปัตย์อีกหลายรายที่ได้รับเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. ๔-๐๑ เช่นเดียวกัน จากข้อครหาเอาที่ดินคนจนไปแจกคนรวย จนเป็นเหตุให้พรรคประชาธิปัตย์ต้องประกาศยุบสภาหลังอภิปรายไม่ไว้วางใจ เกี่ยวกับเรื่อง ส.ป.ก. ๔-๐๑ ของพรรคฝ่ายค้าน เนื่องจากว่านายทศพร เทพบุตร และนายทุนและคนสนิทของพรรคประชาธิปัตย์อีกหลายรายไม่ใช่เกษตรกรคนยากจนที่ ไม่มีที่ดินทำกิน แต่เป็นผู้มีอันจะกิน โดยเฉพาะนายทศพร เทพบุตร เป็นเศรษฐีใหญ่ของเกาะภูเก็ต ครั้งหนึ่ง ทักษิณ ชินวัตร ก็เคยออกแถลงการณ์โต้ คตส. หรือคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ ที่ถูกตั้งขึ้นมาโดย คปค. (คณะปฏิรูปการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข) กรณีที่นายแก้วสรร อติโพธิ เลขานุการ คตส. แถลงต่อสื่อมวลชนว่าจะแจ้งความกล่าวโทษทักษิณ ชินวัตร และครอบครัว ในคดีซุกหุ้นและการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตสืบเนื่องมาจากกรณีการแปลงค่า สัมปทานเป็นภาษีสรรพสามิตและกรณีธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าให้พม่ากู้ เงิน ๔,๐๐๐ ล้านบาท ว่านโยบายการออก ส.ป.ก. ๔-๐๑ ในรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ที่ภายหลังศาลได้มีคำพิพากษาให้เพิกถอนและคืนที่ดิน ส.ป.ก. แก่รัฐ (ให้นายทศพร เทพบุตร คืนที่ดิน ส.ป.ก. แก่รัฐ) เป็นการออก ส.ป.ก. ที่ไม่ได้ให้แก่เกษตรกรผู้ยากไร้จริง ซึ่ง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รู้ดีว่าลำพังพลังทางการเมืองของพรรคภูมิใจไทย ที่ตนเองนำพวกพ้องซึ่งเป็น ส.ส. อยู่ในพรรคดังกล่าว ๗ คน ไปอาศัยอยู่ด้วยไม่สามารถผลักดันให้เกิดเหมืองแร่ถ่านหินที่บ้านแหงได้อย่าง แน่นอน เพราะทัศนคติทางการเมืองของประชาชนที่บ้านแหงและทั่วทั้งอำเภองาวรังเกียจ พรรคการเมืองอย่างพรรคภูมิใจไทย หนทางเดียวคือต้องอาศัยพลังทางการเมืองของพรรคเพื่อไทยถึงจะผลักดันให้เกิด เหมืองแร่ถ่านหินที่บ้านแหงขึ้นได้ ข่าวที่นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ สามีซึ่งเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี และนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นัดพบนายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มมัชฌิมาในพรรคภูมิใจไทย ที่หอบหิ้ว ส.ส. และแกนนำกลุ่มมัชฌิมาในพรรคภูมิใจไทยมารับประทานอาหารเย็นร่วมกันเมื่อวัน ที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่านายสมศักดิ์กำลังจะย้ายไปอยู่พรรคเพื่อไทย ถือว่ากลับถิ่นเก่าตั้งแต่สมัยที่พรรคเพื่อไทยยังเป็นพรรคไทยรักไทย พร้อมหอบหิ้ว ส.ส. ทั้ง ๗ คน ของพรรคภูมิใจไทยไปอยู่ด้วยชัดเจนขึ้น หลังจากที่เป็นข่าวเรื่องนี้มานานสักระยะหนึ่งแล้ว ไม่ว่านายสมศักดิ์ เทพสุทิน จะเข้าไปอยู่พรรคเพื่อไทยด้วยเป้าหมายใดก็ตาม แต่เป้าหมายหนึ่งก็คือต้องการผลักดันให้ได้ประทานบัตรทำเหมืองแร่ถ่านหินที่ บ้านแหง และนี่คือบทพิสูจน์ ก็เพราะว่าป้ายรณรงค์ของชาวบ้านที่เขียนเอาไว้ว่า ‘ภูมิใจไทยเอาที่ดิน ส.ป.ก. ของคนจนไปให้นายทุนทำเหมืองแร่ถ่านหินที่บ้านแหง’ เตรียมพร้อมเสมอที่จะเปลี่ยนข้อความเป็น ‘เพื่อไทยเอาที่ดิน ส.ป.ก. ของคนจนไปให้นายทุนทำเหมืองแร่ถ่านหินที่บ้านแหง’ ถึงแม้จะต่างกรรมต่างวาระ หรือบริบทของเวลาและสถานที่อาจเปลี่ยนแปลงไป ไม่ใช่ข้อกล่าวหา ‘เอาที่ดินคนจนไปแจกคนรวย’ เหมือนสมัยที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลเมื่อปี ๒๕๓๘ แต่เป็นข้อกล่าวหา ‘เอาที่ดินคนจนไปให้นายทุนทำเหมืองแร่’ ใน สมัยคาบเกี่ยวที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน กำลังนำพวกพ้องกลุ่ม ส.ส. ๗ คน ย้ายออกจากพรรคภูมิใจไทยไปอยู่พรรคเพื่อไทยอยู่ในขณะนี้ ซึ่งข้อกล่าวหานี้จะเป็นบทพิสูจน์พรรคเพื่อไทยว่าจะทำการเมืองแบบพรรคประชา ธิปัตย์หรือไม่         [1] หนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ เล่มที่ ๑๖ ฉบับที่ ๔๒ – ๔๔ ลงวันที่ ๔ เดือนกันยายน พ.ศ. ๒๕๕๑  อนุญาต ให้บริษัท เขียวเหลือง จำกัด เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่งาวฝั่งซ้าย ในท้องที่ตำบลบ้านแหง อำเภองาว จังหวัดลำปาง เพื่อการเกษตรกรรมแบบผสมผสาน (วนเกษตร) จนถึงวันที่ ๓ เดือนกันยายน พ.ศ. ๒๕๖๖

Recent posts