สำหรับท่านที่โอนเงินตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2568 เป็นต้นไปทางทีมงานจะส่งใบเสร็จปีใหม่

Please note that for transfers made on or after December 25, 2025, receipts will be issued in the New Year.

ThaiNGO team support only thaingo.org and thaingo.in.th.

เว็บไซต์ที่ทีมงาน thaingo ดูแลคือ thaingo.org และ thaingo.in.th เท่านั้น

Back

แรงงานข้ามชาติในสงขลายังวิกฤตหลังน้ำท่วมใหญ่ ภาษา-รายได้-เอกสาร 3 เงื่อนไขที่ผลักกลุ่มเปราะบางให้ยิ่งเปราะบาง

แรงงานข้ามชาติในสงขลายังวิกฤตหลังน้ำท่วมใหญ่ ภาษา-รายได้-เอกสาร 3 เงื่อนไขที่ผลักกลุ่มเปราะบางให้ยิ่งเปราะบาง

9 December 2025

92

แรงงานข้ามชาติในสงขลายังวิกฤตหลังน้ำท่วมใหญ่ ภาษา-รายได้-เอกสาร 3 เงื่อนไขที่ผลักกลุ่มเปราะบางให้ยิ่งเปราะบาง

 

เครือข่ายองค์กรด้านประชากรข้ามชาติ (MWG) รายงานสถานการณ์แรงงานข้ามชาติในพื้นที่น้ำท่วมจังหวัดสงขลาผ่านเพจ Facebook Migrant Working Group เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2568 สะท้อนภาพวิกฤตซ้อนวิกฤตที่แรงงานข้ามชาติหลายพันครอบครัวกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ ทั้งปัญหาที่พักอาศัย รายได้ที่หายไป และอุปสรรคด้านภาษา ที่ทำให้แทบเข้าไม่ถึง ความช่วยเหลือของรัฐ

การลงพื้นที่แจกถุงยังชีพพบว่า แรงงานในกิจการก่อสร้างกว่า 2,000 ครอบครัวได้รับผลกระทบโดยตรง ที่พักในแคมป์ก่อสร้างจมน้ำเสียหาย แต่แรงงานจำนวนมากไม่สามารถเข้าไปอยู่ในศูนย์พักพิงได้ เนื่องจากอุปสรรคด้านภาษาและความรู้สึกไม่ใช่พลเมืองคนไทย จึงเลือกพึ่งตนเองแม้จะยากลำบาก

ยิ่งไปกว่านั้น สถานะการจ้างที่ซับซ้อน พักในแคมป์ของผู้รับเหมารายใหญ่ แต่ทำงานให้ผู้รับเหมาเป็นช่วง ทำให้มีปัญหาตั้งแต่เอกสาร ไปจนถึงอำนาจการดูแลผลกระทบ ทำให้คนงานไม่มีรายได้เลย เพราะจะได้เงินต่อเมื่อได้ลงมือทำงาน ปัจจุบันน้ำแม้เริ่มลด แต่ความเสียหายของพื้นที่ทำงานยังปิดทางกลับมารับค่าจ้างรายวันเหมือนเคย

ด้าน แรงงานเกษตรกรรม โดยเฉพาะสวนยางพารา ก็ได้รับผลกระทบหนักเช่นกัน เมื่อหน้ายางถูกแช่น้ำจนเสียหายต้องหยุดกรีด ประกอบกับช่วงฤดูใบยางผลัดใบที่กำลังจะมาถึง ทำให้โอกาสกลับมาทำงานยิ่งเลื่อนออกไป

ที่รุนแรงขึ้นคือ อุปกรณ์หุงหาอาหารเสียหายทั้งหมด หม้อหุงข้าว กาต้มน้ำ ตู้เย็น พัดลม ทำให้แม้แต่การดำรงชีวิตพื้นฐานหลังน้ำลดยังเป็นเรื่องยาก

ระบบประปาหลังน้ำท่วมใช้งานได้เป็นบางช่วง ทำให้แรงงานไม่สามารถล้างทำความสะอาดที่พักที่เต็มไปด้วยโคลนแห้งเกาะแน่น คนไทยบางส่วนยังพอซื้อน้ำใช้ได้ แต่แรงงานข้ามชาติแทบไม่มีความสามารถจ่าย แม้เพียงเพื่อทำความสะอาดพื้นที่อยู่อาศัยของตน

องค์กรสเตล่ามาริส (Stella Maris) ซึ่งเป็นองค์กรภาคประชาสังคมในพื้นที่ประเมินว่า แรงงานจะยังต้องพึ่งถุงยังชีพต่อไปตลอดเดือนธันวาคม เพราะยังไม่สามารถกลับเข้าสู่การทำงานได้

ไม่ใช่แค่ก่อสร้างและเกษตรกรรมเท่านั้น ภาคบริการ ร้านอาหาร ซุปเปอร์สโตร์ ห้างสรรพสินค้าขนาดเล็กและกลาง ก็กำลังเผชิญภาวะธุรกิจไปต่อไม่ไหว หลายแห่งเริ่มลดราคาสินค้าเพื่อระบายสต็อก และมีแนวโน้มปิดกิจการหลังเคลียร์สินค้า ส่งผลให้แรงงานข้ามชาติจะถูกเลิกจ้างโดยไม่แน่ว่าจะได้รับค่าชดเชยตามสิทธิ

 

ตลอดช่วงน้ำท่วม แรงงานข้ามชาติแทบ ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลและความช่วยเหลือของรัฐ เนื่องจากไม่มีข้อมูลที่เป็นภาษาของแรงงานเลย ทำให้ต้องพึ่งพาองค์กรภาคประชาสังคมในการส่งถุงยังชีพเป็นหลัก

เบื้องต้นมีรายงานว่าแรงงานข้ามชาติในสงขลาเสียชีวิตแล้ว 3 ราย แต่ครอบครัวและทายาทยังไม่รู้วิธีเข้าถึงเงินเยียวยาของรัฐ ทั้งเงินช่วยเหลือ 9,000 บาท และเงินเยียวยากรณีเสียชีวิต 2,000,000 บาท ซึ่งสะท้อนความล้มเหลวของระบบข้อมูลและช่องทางการสื่อสารที่ไม่รองรับผู้ใช้ที่ไม่ใช่คนไทย

ปัญหาเอกสารประจำตัวที่หายหรือเสียหาย แม้ไม่ใช่ปัญหาอันดับต้นในช่วงน้ำท่วม แต่หลังน้ำลดเอกสารจะเป็น หัวใจสำคัญในการยืนยันตัวตน รับความช่วยเหลือ และต่อใบอนุญาตทำงาน ซึ่งอาจกลายเป็นช่องว่างให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบจากนายจ้างหรือผู้แสวงหาประโยชน์

แรงงานภาคการผลิตอาจได้รับผลกระทบน้อยกว่าเพราะบริษัทมีระบบจัดการและช่วยเหลือ แต่แรงงานในกิจการรายย่อยและก่อสร้างอาจเผชิญความลำบากในการทำเอกสารใหม่

 

จนถึงขณะนี้ ข้อเสนอจากเครือข่ายองค์กรด้านประชากรข้ามชาติที่เรียกร้องไปยังรัฐและกระทรวงแรงงานยังไม่ได้รับการตอบสนอง ได้แก่

  1. กระทรวงแรงงานยังไม่มีมาตรการช่วยเหลือลูกจ้างผ่านกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง
  2. ยังไม่มีการใช้กองทุนบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวเพื่อช่วยเหลือแรงงานข้ามชาติในภัยพิบัติ
  3. ไม่มีศูนย์ประสานงานของกระทรวงแรงงานและกรมการจัดหางานเพื่อออกเอกสารทดแทนใบอนุญาตทำงานที่สูญหายหรือเสียหาย

 

สถานการณ์น้ำท่วมสงขลาครั้งนี้ไม่เพียงเผยให้เห็นความเปราะบางของแรงงานข้ามชาติในระบบเศรษฐกิจไทย แต่ยังสะท้อนถึงช่องว่างด้านนโยบาย การเข้าถึงข้อมูล และสิทธิพื้นฐานที่ยังไม่ครอบคลุมคนทำงานทุกกลุ่ม

ในขณะที่เศรษฐกิจท้องถิ่นต้องพึ่งพาแรงงานกลุ่มนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การไม่มีกลไกช่วยเหลือที่เท่าเทียมย่อมไม่เพียงทำร้ายแรงงาน แต่ยังทำร้ายความมั่นคงทางเศรษฐกิจของพื้นที่ทั้งหมด

แรงงานยังคงรอการช่วยเหลือ ไม่ใช่เพียงถุงยังชีพ แต่เป็นระบบที่เห็นคุณค่าความเป็นมนุษย์ของพวกเขาอย่างแท้จริง

 

Recent posts