24 November 2025
43
เครือข่ายคนทำงาน 147 องค์กรยื่นหนังสือต่อวุฒิสภา หนุนแก้กฎหมายคุ้มครองแรงงาน 3 ฉบับ สร้างมาตรฐานแรงงานใหม่ให้ทันยุคเศรษฐกิจสมัยใหม่
วันนี้ (24 พฤศจิกายน 2568) เครือข่ายคนทำงานจากหลากหลายกลุ่มอาชีพกว่า 147 กลุ่มและองค์กร พร้อมด้วยนายเซีย จำปาทอง และน.ส.พิมพ์กาญจน์ กีรติวิราปกรณ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาชน เดินหน้ายื่นหนังสือต่อ นายวิรัตน์ รักษ์พันธ์ ประธานคณะกรรมาธิการการแรงงาน วุฒิสภา เพื่อประกาศจุดยืนสนับสนุนร่างแก้ไขพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงานทั้ง 3 ฉบับ โดยมีความหวังว่าจะเป็นกฎหมายที่ยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงานไทยให้สอดคล้องกับยุคเศรษฐกิจใหม่ และสร้างฐานที่มั่นคงให้แรงงานซึ่งเป็นฟันเฟืองสำคัญของระบบเศรษฐกิจประเทศ
นายธวัช ภัคดีสกุลวงศ์ ตัวแทนเครือข่ายคนทำงานกล่าวอย่างชัดเจนว่า แม้ปัญหาความยากจน หนี้สิน และความเหลื่อมล้ำจะเป็นประเด็นที่คนไทยส่วนใหญ่รับรู้ร่วมกัน แต่หากไม่แก้ที่ต้นตอของปัญหาซึ่งเกิดจากระบบการจ้างงานที่กดค่าแรง ขูดรีดแรงงาน และขาดหลักประกันความมั่นคง ประเทศไทยก็ไม่อาจรับมือกับความผันผวนของโลกยุคใหม่ ทั้งด้านเทคโนโลยี สงคราม และการแข่งขันทางเศรษฐกิจได้
เขาย้ำว่า แรงงานไทยกว่า 40 ล้านคน คือรากฐานของระบบเศรษฐกิจ แต่ยังเผชิญปัญหาเรื้อรัง เช่น
ด้วยเหตุนี้ เครือข่ายจึงสนับสนุนให้เร่งแก้กฎหมายทั้ง 3 ฉบับเพื่อยกระดับมาตรฐานแรงงานไทยให้ใกล้เคียงกับหลักการ “งานที่มีคุณค่า (Decent Work)” ตาม ILO
3 ร่างกฎหมายสำคัญ เปลี่ยนโครงสร้างแรงงานไทยครั้งใหญ่
1) ร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน (เสนอโดย นายเซีย จำปาทอง และคณะ) เน้นแก้โครงสร้างความเหลื่อมล้ำในตลาดแรงงาน ถือเป็นการขยายความมั่นคงทางเศรษฐกิจให้แรงงานจำนวนมหาศาลทั่วประเทศ
2) ร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน (เสนอโดย นายจรัส คุ้มไข่น้ำ และคณะ) เน้นสิทธิด้านเวลาและคุณภาพชีวิต แนวทางนี้สอดรับเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ที่ต้องการแรงงานมีเวลาพักผ่อน เรียนรู้ และพัฒนาตนเอง
3) ร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน (เสนอโดย น.ส.วรรณวิภา ไม้สน และคณะ) ยกระดับศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ถือเป็นมาตรฐานใหม่ด้านสวัสดิการที่ประเทศพัฒนาแล้วให้การคุ้มครองมานาน
เครือข่ายคนทำงานระบุว่า การคัดค้านกฎหมายจากบางองค์กรนายจ้างยังคงมองแรงงานเป็นเพียงต้นทุน ทั้งที่ในความเป็นจริง แรงงานคือมนุษย์ที่เจ็บป่วย เหนื่อยล้า และมีภาระครอบครัว การปรับปรุงคุณภาพชีวิตแรงงานจะสร้างผลดีต่อทั้งเศรษฐกิจในประเทศ ผู้ประกอบการ และศักยภาพการแข่งขันในระยะยาว
พวกเขาย้ำว่า ประเทศที่ละเลยคุณภาพชีวิตแรงงานจะมีกำลังซื้อตกต่ำ หนี้ครัวเรือนพุ่ง การเติบโตทางเศรษฐกิจถดถอย และความสามารถแข่งขันระหว่างประเทศลดลง
ดังนั้น กฎหมายชุดนี้ไม่ใช่ภาระ แต่คือการลงทุนสร้างอนาคตของประเทศ
นายวิรัตน์ รักษ์พันธ์ ประธานกรรมาธิการแรงงาน วุฒิสภา ระบุว่า วุฒิสภาพร้อมเริ่มศึกษาร่างกฎหมายควบคู่ไปกับสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้การพิจารณาเป็นไปอย่างรวดเร็ว และทันกรอบเวลาที่ต้องพิจารณาให้เสร็จภายใน 60 วันหลังได้รับร่าง
ด้านนายเซีย จำปาทอง กล่าวขอบคุณวุฒิสภาที่ชี้แจงทิศทางชัดเจน พร้อมย้ำว่าการสนับสนุนของวุฒิสภาเป็นกำลังใจสำคัญให้แรงงานสู้ต่อ
ท้ายที่สุด เครือข่ายคนทำงานทั้ง 147 กลุ่มและองค์กร ย้ำเจตนาเดียวกันว่า
ร่างแก้ไข พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงานทั้ง 3 ฉบับ คือก้าวสำคัญในการสร้างประเทศที่เป็นธรรม มีคุณภาพชีวิตที่ดี และแข่งขันได้ในยุคเศรษฐกิจโลก
และนี่คือเสียงของคนทำงาน เสียงที่ต้องการการรับฟังอย่างจริงจังจากผู้แทนราษฎรทุกคนในรัฐสภา
รายชื่อกลุ่มและองค์กรสนับสนุนร่างแก้ไข พ.ร.บ. คุ้มครองแรงงาน 3 ฉบับ