24 October 2025
37
วันที่ 21 ตุลาคม 2568 เวลา 09.30 น. กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดด่านขุนทดกว่า 60 คน พร้อมนายกริษณุภูมิ นิลนามะ ทนายความสิทธิมนุษยชน เดินทางไปยังสถานีตำรวจภูธรด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา เพื่อยื่นเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมในคดีเหมืองแร่โปแตช หลังได้รับข้อมูลจากกองทัพบกที่ชี้ว่า บริษัทเหมืองแร่มีการเบิกจ่ายและใช้วัตถุระเบิดรวมกว่า 7,000 นัด ตั้งแต่ปี 2561 ทั้งที่ใบอนุญาตการครอบครองและใช้วัตถุระเบิดหมดอายุแล้ว
ข้อมูลของกองทัพบกระบุว่า บริษัทมีการเบิกวัตถุระเบิดตั้งแต่ต้นปี 2560 รวม 7,800 นัด โดยเฉพาะช่วงเดือนมิถุนายน-สิงหาคม 2561 มีการใช้มากถึง 7,247 นัด ขณะที่ข้อมูลจากกองบัญชาการมณฑลทหารบกที่ 21 รายงานการทำลายวัตถุระเบิดคงเหลือในปี 2562 เพียง323 แท่ง ซึ่งสวนทางกับข้อมูลของกระทรวงมหาดไทยที่ระบุว่า ไม่มีการใช้วัตถุระเบิดแม้แต่นัดเดียว
กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดฯ ตั้งข้อสังเกตว่า ความไม่สอดคล้องของข้อมูลระหว่างหน่วยงานรัฐ อาจสะท้อนถึงความบกพร่องหรือการทุจริตในขั้นตอนการอนุญาตและตรวจสอบการใช้วัตถุระเบิด จึงเข้ายื่นเรื่องกล่าวโทษเพิ่มเติมและติดตามความคืบหน้าคดีที่เกี่ยวข้องกับกิจการของบริษัทเหมืองโปแตช
จากนั้นกลุ่มฯ ได้มีการสอบถามความคืบหน้าของคดีความที่เกี่ยวข้องกับกรณีเหมืองแร่โปแตช ทำให้ทราบผลความคืบหน้าในอีก 2 คดีดังนี้
คดีที่ 1 กรณีสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมาแจ้งความดำเนินคดีกับบริษัท ไทยคาลิ จำกัด ฐานไม่ปูผ้ายางรองก้นบ่อกักเก็บน้ำเค็ม ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน โดยพนักงานสอบสวน สภ.ด่านขุนทด เปิดเผยว่า ได้ออกหมายเรียกผู้ต้องหาแล้ว แต่บริษัทฯ ขอเลื่อนนัด และจะมีการออกหมายเรียกครั้งที่ 2 วันที่ 27 ตุลาคม 2568 หากไม่มาพบจะดำเนินการออกหมายจับต่อไป
คดีที่ 2 กรณีมีผู้ไม่ทราบฝ่ายนำกองดินมากีดขวางเส้นทางสัญจร เพื่อขัดขวางการชุมนุมของกลุ่มฯ ระหว่างกิจกรรม “เราจะบล็อก ก่อนจะบึ้ม” เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ล่าสุด อบต.หนองไทร ยืนยันกับตำรวจว่า ถนนดังกล่าวอยู่ในโครงการก่อสร้างของบริษัท ไทยคาลิ จำกัด ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการและยังไม่ส่งมอบให้ท้องถิ่น
เดินหน้ายื่นหนังสือ ตำรวจภูธรภาค 3 ร้อง ป.ป.ช. ตรวจสอบเจ้าหน้าที่รัฐ
ภายหลังจากเข้ายื่นเอกสารต่อ สภ.ด่านขุนทด กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดฯ เดินทางต่อไปยัง สถานีตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมาและ ตำรวจภูธรภาค 3 เพื่อเร่งรัดการดำเนินคดีเกี่ยวกับการลักลอบใช้วัตถุระเบิด โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับรองผู้กำกับออกมารับหนังสือและรับปากว่าจะนำเสนอผู้บังคับบัญชาเพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป
จากนั้น กลุ่มฯ ยังได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จังหวัดนครราชสีมา เพื่อขอให้ตรวจสอบเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องกับการอนุญาตให้ใช้วัตถุระเบิดโดยมิชอบ โดยมี นายณัฐวุฒิ กลิ่นสูงเนิน นักสืบสวนคดีทุจริตชำนาญการ ออกมารับหนังสือ
เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ชี้แจงว่า เรื่องดังกล่าวจะถูกนำเข้าสู่การพิจารณาเพื่อพิจารณารับหรือไม่รับเรื่องร้องเรียน หากรับเรื่อง ป.ป.ช. อาจส่งต่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ป.ป.ท. ตรวจสอบเพิ่มเติม และหากพบพฤติการณ์เข้าข่ายทุจริต ก็สามารถส่งต่อให้ตำรวจดำเนินคดีอาญาได้
กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดด่านขุนทด ระบุว่า การยื่นหนังสือครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อเร่งรัดกระบวนการยุติธรรม และ เอาผิดเจ้าหน้าที่รัฐที่เอื้อประโยชน์ให้บริษัทเหมืองแร่ พร้อมยืนยันว่าจะเดินหน้าติดตามความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง
กรณีเหมืองแร่โปแตชด่านขุนทดเป็นหนึ่งในประเด็นความขัดแย้งระหว่างการพัฒนาอุตสาหกรรม กับสิทธิชุมชนที่ยืดเยื้อมากว่าทศวรรษ โดยชาวบ้านจำนวนมากกังวลผลกระทบต่อแหล่งน้ำและคุณภาพชีวิต ขณะที่หน่วยงานรัฐและภาคธุรกิจยืนยันว่าการดำเนินการอยู่ภายใต้กฎหมาย
การเคลื่อนไหวครั้งนี้จึงไม่ใช่เพียงการต่อสู้ทางคดี แต่สะท้อนถึงความพยายามของประชาชนในการตรวจสอบรัฐ และเรียกร้องให้การบริหารจัดการทรัพยากรเกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมและยั่งยืน
ข้อมูลและภาพจาก กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดด่านขุนทด
ที่เกี่ยวข้อง :
