20 October 2025
84
กลุ่มรักษ์เขากระบี่รวมพลังหน้าทำเนียบรัฐบาล เรียกร้องตั้งคณะกรรมการศึกษาข้อเท็จจริงตาม พ.ร.บ.แร่ หลังเอกชนยื่นขอสัมปทานระเบิดภูเขาใน 4 อำเภอ กระทบแหล่งน้ำใต้ดิน ฟอสซิลโลก และเศรษฐกิจท่องเที่ยว
20 ตุลาคม 2568 กลุ่มรักษ์เขากระบี่ รวมพลังชุมนุมหน้าทำเนียบรัฐบาล ภายใต้ชื่อ “รวมพลคนรักษ์เขากระบี่ ร่วมปกป้องภูเขากระบี่” เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลแต่งตั้งคณะกรรมการศึกษาข้อเท็จจริงกรณีการระเบิดภูเขาในพื้นที่ 4 อำเภอของจังหวัดกระบี่ ได้แก่ อำเภอเมือง ลำทับ อ่าวลึก และปลายพระยา หลังมีการยื่นขอสัมปทานทำเหมืองแร่โดยภาคเอกชนต่อเนื่องหลายปี
กลุ่มรักษ์เขากระบี่ ซึ่งเป็นการรวมตัวของภาคประชาชน ภาคธุรกิจ และนักอนุรักษ์ในพื้นที่ ยืนยันจุดยืนไม่เห็นด้วย กับการระเบิดภูเขา ด้วยเหตุผลหลัก 3 ประการ ได้แก่
1. ผลกระทบต่อระบบนิเวศแหล่งน้ำใต้ดิน ภูเขาในพื้นที่ดังกล่าวเป็นแหล่งธารน้ำใต้ดินสำคัญ ใช้ในการเกษตรและอุปโภคบริโภคของประชาชนทั้งจังหวัด การระเบิดภูเขาอาจทำลายระบบนิเวศนี้และเสี่ยงต่อการทรุดตัวของดิน ซึ่งเคยเกิดขึ้นแล้วในพื้นที่บางส่วนของจังหวัด
2. การทำลายแหล่งโบราณคดีและฟอสซิลโลก นักวิชาการหลายสถาบันยืนยันว่าภูเขากระบี่เป็นแหล่งฟอสซิลและโบราณคดีสำคัญระดับโลก หากถูกระเบิดจะสูญเสียหลักฐานทางธรณีวิทยาและประวัติศาสตร์ท้องถิ่นอย่างไม่อาจฟื้นคืน
3. ผลกระทบต่อการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ถ้ำในภูเขากระบี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศ และสามารถเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวทางทะเลอันดามัน ซึ่งเป็นรายได้หลักของจังหวัด หากมีการทำลายภูเขา อาจกระทบต่อเศรษฐกิจการท่องเที่ยวอย่างรุนแรง
ข้อเสนอ 5 ประการ ถึงรัฐบาล
กลุ่มฯ เสนอให้รัฐบาลแต่งตั้ง “คณะกรรมการแก้ไขปัญหาภูเขากระบี่ 4 อำเภอ” ตามหลักการในมาตรา 17 วรรค 4 แห่งพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ.2560 โดยมีข้อเสนอหลักดังนี้
ก่อนหน้านี้ ในปี 2567 รัฐบาลภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน ได้ออกคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 143/2567 แต่งตั้ง “คณะกรรมการแก้ไขปัญหาพื้นที่ภูเขา 4 อำเภอ จังหวัดกระบี่” เพื่อศึกษาว่าพื้นที่ดังกล่าวเข้าข่ายเป็น “แหล่งน้ำและแหล่งโบราณ” ตามพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ.2560 หรือไม่ เพื่อพิจารณาการถอดพื้นที่ออกจากแผนแม่บททรัพยากรแร่ อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการยังไม่ทันได้เริ่มดำเนินงานก็สิ้นสุดลง เนื่องจากนายกรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่ง ทำให้การศึกษาข้อเท็จจริงต้องยุติลง
กลุ่มรักษ์เขากระบี่จึงเรียกร้องให้รัฐบาลชุดปัจจุบัน นำโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการใหม่เพื่อศึกษาข้อเท็จจริงตามวัตถุประสงค์เดิม พร้อมขอให้ชะลอการอนุมัติสัมปทานและกิจกรรมระเบิดภูเขาทุกประเภท จนกว่าผลการศึกษาจะแล้วเสร็จ เพื่อป้องกันความเสียหายต่อทรัพยากรธรรมชาติและระบบนิเวศของพื้นที่
ส.ส.กระบี่หลายพรรคหนุน ตั้งกรรมการใหม่เพื่อหาข้อเท็จจริง
ก่อนหน้าการชุมนุม เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2568 ที่อาคารรัฐสภา นายพิศิษฏ์ เป็ดทองประธานกลุ่มรักษ์เขากระบี่ พร้อมคณะ ได้ยื่นหนังสือต่อคณะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกระบี่ ได้แก่ นายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง นายกิตติ กิตติธรกุล นายถิรเดช ตั้งมั่นก่อกิจจากพรรคภูมิใจไทย และนายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เพื่อให้นำเรื่องกราบเรียนนายกรัฐมนตรี
นายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง กล่าวว่า “ในฐานะ ส.ส.พื้นที่ ติดตามเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่อง และเห็นว่าควรให้ทุกฝ่ายได้เข้ามาศึกษาอย่างเป็นธรรม ไม่เห็นด้วยกับการทำลายสิ่งแวดล้อม และขอให้รัฐบาลตั้งคณะกรรมการใหม่เพื่อคลี่คลายปัญหาอย่างโปร่งใส”
ขณะที่นายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ ระบุว่า “การระเบิดภูเขาในพื้นที่กระบี่ไม่เพียงกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังกระทบต่อวิถีชีวิตและต้นน้ำของประชาชนทั้ง 4 อำเภอ” พร้อมย้ำว่าได้ติดตามเรื่องนี้ในสภาฯ และตั้งกระทู้ถามไปแล้ว เพื่อให้รัฐบาลทบทวนแผนแม่บทเหมืองแร่ และกำหนดแนวทางทวงคืนต้นน้ำทรัพยากรธรรมชาติ
การออกมาเรียกร้องครั้งนี้ของกลุ่มฯ ไม่ใช่แค่หยุดการระเบิดภูเขา แต่ต้องการให้รัฐบาลสร้างบรรทัดฐานใหม่ของการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ ที่เคารพสิทธิชุมชนและสมดุลกับเศรษฐกิจ
การแต่งตั้งคณะกรรมการศึกษาใหม่จึงไม่ใช่เพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในกระบี่เท่านั้น แต่เป็นบททดสอบสำคัญต่อนโยบายการจัดการทรัพยากรของชาติ ที่จะกำหนดทิศทางการอยู่ร่วมกันระหว่างการพัฒนาและการอนุรักษ์ในอนาคต
และขณะนี้ ประชาชนกำลังรอท่าทีจากรัฐบาลว่าจะรับข้อเสนอให้แต่งตั้งคณะกรรมการศึกษาข้อเท็จจริงตามคำขอหรือไม่ ซึ่งผลการตัดสินใจครั้งนี้อาจเป็นตัวชี้วัดสำคัญต่ออนาคตของภูเขากระบี่ และแนวทางการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติของไทยในระยะยาว
ภาพและข้อมูลจาก รวมพลคนรักษ์เขากระบี่