• Home
• Content
• ตระบัดสัตย์!!

ตระบัดสัตย์!!

1562

ไม่คิดว่าจะกลับมาได้ยินคำนี้ เปรอะเปื้อนไปทั้งโซเชี่ยล ครั้งแรกที่ผมได้ยินคือ เมื่อราวๆ ปี 2534-35 หลังรัฐประหาร ที่ซี่งอดีตผู้นำทหารที่ทำการรัฐประหาร ได้ประกาศว่าจะไม่รับตำแหน่งใดๆ แต่แล้วก็พลิกกลับ มารับตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี นายทหารผู้นั้นคือ พลเอกสุจินดา คราประยูร อดีต นายกรัฐมนตรีที่มีอายุในตำแหน่งน้อยที่สุด ที่ถูกประณามว่า “เสียสัตย์เพื่อชาติ” ครั้งที่สองได้ยินจากปาก นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ลาสิกขาเข้ามาปั้นพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็กล่าวคำนี้ ทั้งน้ำตา เหมือนกัน ว่ายอม “เสียสัตย์เพื่อชาติ” จนถูกกระแสประชาชนด่าทั้งเมือง

ล่าสุดคือ ไม่กี่วันมานี้คำนี้กลับมาดังกระหึ่มข่าวการเมือง เมื่อพรรคไทยรักไทย พลิกลิ้นกลับมา จับมือกับพรรคฝ่ายอนุรักษ์นิยม อย่างพลังประชารัฐ และ รวมไทยสร้างชาติ รวมถึง นายเศรษฐา แห่งพรรคเพื่อไทยและ นายเสรีพิศุทธิ์ แห่งพรรคเสรีรวมไทย ที่ออกมา พลิกลิ้นว่า ไม่เอา นโยบายแก้ไข มาตรา 112

ประเทศนี้วนเวียนกับบรรยากาศ พลิกลิ้น กลับกลอก โกหก แบบนี้มาตลอดเส้นทางการเมืองไทย ซึ่งคนไทยเยอะมากรับได้ คุ้นเคย ตรงกันข้าม พรรคที่ยืนหยัด รักษาสัจจะวาจาอย่าง ก้าวไกล กลับถูกประณาม กลั่นแกล้ง ชิงชัง หักหลัง และถูกปฏิเสธ จาก ต่อมคุณธรรมจริยธรรมของนักการเมือง ทั้ง ส.ส.และส.ว. หลายคน

เราจะก้าวผ่าน ไปให้พ้นวังวน อัปยศแบบนี้ไปได้อย่างไร ต่อให้ชนะคะแนนเลือกตั้ง ก็ยังไม่มีอำนาจ ไม่มีสิทธิ์จัดตั้งรัฐบาลและไม่ถูก สนับสนุน เรากลืนน้ำลายตัวเองหันมาเอา มาสนับสนุน พรรคที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ไม่สนใจเสียงประชาชนและแสวงหาแค่ อำนาจ ผลประโยชน์ หรือ รับใช้นายใหญ่ พรรคที่ทำให้การเมืองไทย และสถานะนักการเมือง ดูต่ำตม ไร้ศักดิ์ศรี เพราะไม่มีสัจจะวาจา

สำหรับผม แม้จะเป็นแค่ชาวบ้าน เป็นแค่เกษตรกร แต่เรายึดมั่นถือมั่นมาก กับคำพูดที่เอ่ยออกไป เราจน เราตัวเล็กตัวน้อย แต่เราศรัทธาในศักดิ์ศรี ในสถานะความเป็นตัวตน  เรารับปากใคร เราซทื่อตรง เรานับถือใครเราจะทำเช่นนั้นทั้งต่อหน้าและลับหลัง ไม่คิดคด ไม่หักหลัง ไม่ทอดทิ้งหรือทำร้าย

สัจจะ วาจา คือ คุณธรรมหลักสำคัญในการดำเนินชีวิต ของคน ทุกสาขาอาชีพ ไม่ว่าศาสนาใด สังคมไหน หรือวัฒนธรรมแบบใด ความมีสัจจะวาจาคือ หัวใจสำคัญในการยอมรับกัน ให้คุณค่าและถูกให้เกียรติ ดังนั้น คนที่ไร้สัจจะวาจา คือคนที่ไร้เกียรติ เป็นคนจำพวกแรกที่ไม่ควรมีอำนาจ ไม่ควรได้รับโอกาส ไม่ควรถูกสนับสนุน ยิ่งเป็นนักการเมืองที่ต้องไปเกี่ยวข้อง สัมพันธ์ กับการจัดสรรผลประโยชน์ของประเทศ ของบ้านของเมือง ของประชาชน คุณสมบัติข้อแรกเลยที่ต้องมี ที่ประชาชนต้องมอง คัดกรอง กำจัดทิ้ง คือ สัจจะวาจาที่จะต้องมี จะต้องเด่นชัดและถูกพิสูจน์ มายาวนาน  ดังนั้น การที่พรรคเพื่อไทยก็ดี นายทักษิณ ชินวัตร ก็ดี หรือ ภูมิใจไทย เสรีรวมไทย ใครก็แล้วแต่ ฉีกทิ้งคำมั่นสัญญา ที่มีต่อประชาชน คนแบบนั้น ไม่ควรถูกสนับสนุน ไม่ควรเลือกตั้งเข้ามา ไม่ควรให้โอกาสใดๆ ประเทศนี้ ถูกคนไร้คุณธรรมไร้หลักการ ไร้สัจจะนำใจปกครองมามากพอแล้ว ควรยุติและปิดฉากเสียที

ผมทำมาค้าขายเล็กๆน้อยๆ ก็จริง แต่ผมจริงจังมากกับคนที่พบเจอ คบค้ากัน เมื่อตกลงราคา เมื่อรับปากจะขาย หรือสัญญาว่าจะส่งของ ล้วนรักษาสัจจะวาตานั่น ผมรักและนับถือเขามาก ไม่เกี่ยวกับอายุ หรือ เพศ หรือ ศาสนา หรือ เอนเอียงแนวคิดการเมืองแบบใด แต่ถ้าเจอใครที่ไม่มีสัจจะ แม้ว่าเขามีของสำคัญ ของดี ราคาไม่แพง มีให้เหลือเฟือ ผมก็ไม่เอา เพราะคำว่า วาจา เมื่อเอ่ยออกมาแล้ว ล้วนศักดิ์สิทธิ์  ต้องยึดถือ คนแบบนี้มีคุณธรรม คบค้ากันแล้วเจริญ คบค้ากันแล้ว สุขกายสบายใจ ไม่กังวล วิตก คบแล้วยกฐานะ ยกระดับจิตใจเราให้สูงส่งไปด้วย คนมีสัจจะวาจาจึงมักเป็นคนที่มีน้ำใจ มีความจริงใจ อีกด้วย

ไม่คิดว่าเช้านี้ผมจะมานั่งคิดถึง คำๆ นี้ “ตระบัดสัตย์”  

โดย เกษตรกรขบถ ไร่ทวนลม