21 มิถุนายน 2565 กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดด่านขุนทด เข้ายื่นหนังสือต่อนายอำเภอ ขอให้มีการตรวจสอบและชี้แจงกรณีมีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการ ทำเหมืองที่ไม่เป็นไปตามรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม กรณีการรั่วไหลของน้ำภายในอุโมงค์จุดเจาะเหมืองแร่โปแตช และการนำเกลือใต้ดินขึ้นมาขายโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ของบริษัท ไทยคาลิ จำกัด ประทานบัตรเลขที่ 28831/16137
โดยหนังสือได้พูดถึงปัญหาผลกระทบความเค็มที่เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องในพื้นที่บริเวณโดยรอบจนชุมชนไม่สามารถที่จะใช้ชีวิตได้อย่างปกติ บ้านเรือนถูกกัดกร่อน ไม่สามารถทำกินในที่ดินของตนเองได้เนื่องจากมีน้ำเค็มผุดในที่ดิน และเมื่อฝนขาดช่วง จะมีผลึกสีขาวขึ้นปกคลุมพื้นที่ทำกิน
ทางกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดด่านขุนทด มีข้อเรียกร้องต่ออำเภอด่านขุนทดและเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีหน้าที่ตรวจสอบกำกับดูแลการทำเหมืองให้เป็นไปตามกฎหมาย โดยให้ตรวจสอบทั้งหมด 3 ประเด็น ได้แก่
1.ขอให้มีการชี้แจงเร่งด่วนว่า บริษัท ไทยคาลิ จำกัด ได้รับอนุญาตให้มีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียด โครงการในรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการเหมืองแร่โปแตช ของบริษัท ไทยคาลิ จำกัด ประทานบัตรเลขที่ 28831/16237 แล้วหรือไม่ เพราะในปัจจุบันได้มีการก่อสร้างส่วนต่อขยายออกมาแล้วเป็นบริเวณกว้าง และมีการกักเก็บน้ำ รวมทั้งก่อสร้างโครงสร้างขนาดใหญ่เรียบร้อยแล้วเช่นกัน ซึ่งจากฐานข้อมูล ของศูนย์ข้อมูลการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ได้มีการระบุว่าการเปลี่ยนแปลงโครงการดังกล่าวยังไม่ได้รับความเห็นชอบแต่อย่างใด
2.ให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีน้ำท่วมอุโมงค์ โดยร่วมกันระหว่าง หน่วยงานรัฐ และกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดด่านขุนทด เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในกระบวนการตรวจสอบ และหากเป็นความจริงต้องรีบแก้ไขในทันที
3.ตรวจสอบกรณีลักลอบขายเกลือ ว่ามีข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร และมีการขออนุญาตถูกต้องตามกระบวนการของกฎหมายหรือไม่ มีใบอนุญาตขนย้าย ใบอนุญาตซื้อขาย ตามพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ.2560 หรือไม่ เพราะการนำเกลือไปขายย่อมส่งผลกระทบต่อการถมกลับ ซึ่งเป็นมาตรการสำคัญตามรายงานวิเคราะห์ผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม
ในระหว่างรอการรับหนังสือจากเจ้าหน้าที่ ทางตัวแทนกลุ่มฅนรักบ้านเกิดด่านขุนทด ได้เล่าถึงปัญหาผลกระทบในพื้นที่ เช่น ปัญหาเรื่องน้ำ โดยจากเดิมชาวบ้านหัวนา ต.หนองไทร เคยใช้ประปาของหมู่บ้านซึ่งมีราคาต่อหน่วย 7 บาท แต่หลังจากมีเหมืองแร่ดำเนินกิจการ จนเกิดปัญหาน้ำเค็มปนเปื้อนแหล่งน้ำในชุมชน ทำให้ปัจจุบันในชุมชนต้องใช้น้ำประปาจากการประปาส่วนภูมิภาคซึ่งมีราคาต่อหน่วยถึง 25 บาท โดยชาวบ้านต้องแบกรับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นไปชั่วลูกชั่วหลาน
โดยในเวลา 13.30 ปลัดอาวุโส หัวหน้ากลุ่มงานปกครอง ชยานนท์ สุวรรณทรัพย์ เป็นตัวแทนนายอำเภอด่านขุนทด รับหนังสือจากชาวบ้านกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดด่านขุนทด ได้ชี้แจงว่าจากครั้งที่แล้วที่มีการมายื่นหนังสือต่อนายอำเภอ ได้มีการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา สำนักงานสิ่งแวดล้อมที่11 (นครราชสีมา) ในวันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ.2565 โดยมีการสั่งการให้หน่วยงานต่างๆ ไปแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นตามข้อร้องเรียน และรับปากว่าจะดำเนินการประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นเพิ่มเติมต่อไป
อย่างไรก็ตามพี่น้องกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดด่านขุนทด ยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องรีบตรวจสอบโดยเร็ว และแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ว่าหากมีการประชุมใดๆต่อจากนี้ ขอให้มีการจัดประชุมในพื้นที่เพื่อให้ชาวบ้านได้รับรู้ทั่วกัน ไม่ใช่การส่งตัวแทนชาวบ้านไปเจรจากับเหมือง และเพื่อไม่เป็นการสร้างภาระค่าใช้จ่ายเรื่องการเดินทางให้แก่ชาวบ้านอีก