สำหรับท่านที่โอนเงินตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน 2568 เป็นต้นไปทางทีมงานจะส่งใบเสร็จหลังสงกรานต์

For those who transfer money from April 9, 2025, onward, the team will send the receipt after the Songkran festival.

Back

สรุปคำพิพากษา คดีขอให้ยกเลิกกฎกระทรวงตามมาตรา 12 วรรคสองแห่ง พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2550

สรุปคำพิพากษา  คดีขอให้ยกเลิกกฎกระทรวงตามมาตรา 12 วรรคสองแห่ง พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2550

22 June 2015

5877

สรุปคำพิพากษา

คดีขอให้ยกเลิกกฎกระทรวงตามมาตรา 12 วรรคสองแห่ง พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2550

(คดีหมายเลขแดงที่ ฟ.11/2558 วันที่ 18 มิถุนายน 2558)

 

ข้อพิพาท เรื่อง คดีพิพาทเกี่ยวกับความชอบด้วยกฎหมายของกฎที่ออกโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี   

 

ที่มา ผู้ฟ้องคดีได้ฟ้องศาลปกครองสูงสุดเพื่อขอให้ยกเลิกกฎกระทรวงตามมาตรา 12 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2550

 

รายละเอียดของคู่ความ

        นพ.ฐาปนวงศ์ ตั้งอุไรวรรณ, พญ.เชิดชู อริยศรีวัฒนา, พญ.อรพรรณ์ เมธาดิลกกุล ฟ้องนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

            นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขมอบอำนาจให้พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด (นางสาวทิพอุษา อุทยานานนท์) ประสานงานกับหน่วยงานเจ้าของเรื่องเพื่อขอข้อมูลและสู้คดี

        ในคดีนี้ นพ.เทพ เวชวิสิฐ ได้ร้องสอดเข้ามาเป็นจำเลยร่วมกับนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

 

สรุปคำพิพากษา

       ความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการในการร่างกฎกระทรวง

  1. สิทธิในการทำหนังสือแสดงเจตนาฯ เป็นสารัตถะเกี่ยวกับสิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกายที่บุคคลพึงมี ซึ่งสิทธิในชีวิตและร่างกายนี้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยให้การรับรองไว้ การออกกฎที่อาจมีผลกระทบต่อส่วนได้เสียของประชาชนนั้น รัฐมีหน้าที่จัดให้มีกระบวนการรับฟังความคิดเห็นอย่างทั่วถึงก่อนการดำเนินการตาม ม.57 แห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550  
  2. สช. ได้ดำเนินการจัดให้มีกระบวนการรับฟังความคิดเห็นจากภาคส่วนต่างๆ แล้ว เช่น จัดประชุมเพื่อเป็นแนวทางในการร่างกฎกระทรวง จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นจากผู้ทรงคุณวุฒิ เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็น  4 ภาค แพทยสภาได้จัดประชุมรับฟังความคิดเห็น และ สช. ร่วมกับกรมการแพทย์จัดประชุมวิชาการ
  3. ร่างกฎกระทรวงดังกล่าวผ่านกระบวนการในการพิจารณาตามที่กฎหมายกำหนด กล่าวคือ ฝ่ายการพิจารณาและให้ความเห็นชอบให้เสนอต่อ ครม. โดย คสช., ผ่านความเห็นชอบของ ครม., ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา รวมทั้งลงนามโดยผู้มีอำนาจและประกาศลงราชกิจจานุเบกษา ซึ่งกระบวนการเหล่านี้ถูกต้องตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการเสนอเรื่องและการประชุมคณะรัฐมนตรี พ.ศ.2548 และพระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2550

 

       ความชอบด้วยกฎหมายของเนื้อหา

  1. การที่บุคคลแสดงเจตนาไม่ประสงค์จะรับบริการสาธารณสุขฯ มีผลทำให้แพทย์ต้องเคารพการตัดสินใจดังกล่าว ในกรณีนี้ไม่ใช่สิทธิเลือกที่จะไม่มีชีวิตอยู่แต่เป็นสิทธิในการเลือกที่จะปฏิเสธการรักษาพยาบาลเพื่อที่จะได้ตายตามธรรมชาติ
  2. การที่บุคคลทำหนังสือแสดงเจตนาฯ เป็นการแสดงสิทธิในชีวิตและร่างกาย โดยเป็นการยื่นความประสงค์ไว้ล่วงหน้าเพื่อประกาศให้สาธารณชนทราบความประสงค์ของตนว่าจะใช้สิทธิเช่นใด จึงไม่ใช่การกระทำที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน
  3. กฎกระทรวงฯ กำหนดองค์ประกอบในการแสดงสิทธิไว้คือ
  1. หากมีผู้ทำหนังสือแสดงเจตนาหนังสือแสดงเจตนาต้องครบถ้วนบริบูรณ์ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในกฎกระทรวง
  2. แพทย์ไม่มีหน้าที่ทำให้ผู้ทำหนังสือแสดงเจตนาถึงแก่ความตายโดยวิธีการใดๆ
  3. ผู้ทำหนังสือแสดงเจตนาฯ ยังคงได้รับการดูแลแบบประคับประคอง
  4. ผู้ทำหนังสือแสดงเจตนาจะต้องมีภาวะตามที่กฎกระทรวงกำหนด
  5. แพทย์มีหน้าที่รับผิดชอบการรักษามีอำนาจหน้าที่ในการวินิจฉัยพยากรณ์โรคตามมาตรฐานทางการแพทย์
  6. ผู้ทำหนังสือแสดงเจตนาต้องการตายตามธรรมชาติ
  1. กฎกระทรวงไม่ใช่การปล่อยให้ผู้ป่วยเสียชีวิตโดยงดเว้นไม่ให้การรักษา หรือการใช้ยา หรืออุปกรณ์ทางการแพทย์บางอย่างเพื่อยุติชีวิต
  2. หากผู้ทำหนังสือแสดงเจตนาจะระบุในหนังสือแสดงเจตนาให้งดเว้นการรักษา หรือใช้ยาและเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์บางอย่างเพื่อยุติชีวิตที่ไม่ใช่วาระสุดท้าย (เร่งการตาย)  แพทย์ก็ไม่สามารถปฏิบัติตามได้ หากปฏิบัติตามหนังสือแสดงเจตนาดังกล่าว แพทย์จะใช้มาตรา 12 วรรค 3 แห่งพรบ.สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2550 มายกเว้นความผิดของตนเองไม่ได้
  3. การปฏิบัติตามกฎกระทรวงมิได้เป็นการทอดทิ้งผู้ป่วยที่พึ่งตนเองมิได้ เนื่องจากแพทย์ยังให้การดูแลแบบประคับประคอง ดังนั้นจึงไม่มีความผิดฐานทอดทิ้งผู้ป่วยตามประมวลกฎหมายอาญา
  4. การที่นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขออกกฎกระทรวงฯ โดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติพ.ศ.2550 เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในเรื่องการจัดการงานด้านสุขภาพของประเทศ มิใช่เป็นการไปกำหนดมาตรฐานในการประกอบวิชาชีพเวชกรรมแต่อย่างใด
  5. กฎกระทรวงฯ เป็นการอธิบายความและกำหนดขั้นตอนและวิธีการในการจัดทำหนังสือแสดงเจตนาฯ เท่านั้น
  6. กฎกระทรวงฯ ไม่ได้เป็นการกำหนดหลักเกณฑ์และองค์ประกอบในการปล่อยให้ผู้ทำหนังสือแสดงเจตนาเสียชีวิตลงโดยไม่รับการรักษา หรือการใช้ยาและเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อยุติชีวิต แต่กฎกระทรวงกำหนดการรักษาแบบประคับประคองเพื่อให้ผู้ทำหนังสือแสดงเจตนาฯ ตายตามธรรมชาติ เพื่อมิให้ยื้อความตายโดยสิ้นหวัง หรือทำให้ผู้นั้นต้องทรมานจากการเจ็บป่วย ทั้งๆ ที่หากไม่มีบริการสาธารณสุข ผู้นั้นควรจะตายตามธรรมชาติแล้ว

 

   สรุป    พิพากษายกฟ้องนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

Recent posts