7 May 2021
1426
ขอบคุณภาพ จาก https://www.prachachat.net/d-life/news-612526
แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลร่วมกับองค์กรภาคประชาสังคมกว่า 200 องค์กร ในการรณรงค์ #NotOneBulletMore และเรียกร้องให้สมัชชาความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ใช้มาตรการห้ามซื้อขายอาวุธต่อเมียนมาโดยทันที เพื่อยุติการสังหารหมู่ของกองทัพต่อผู้ชุมนุมที่ส่วนใหญ่เป็นไปโดยสงบ
แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลยังเรียกร้องสมัชชาความมั่นคงฯ ให้ส่งสถานการณ์ของเมียนมาเข้าสู่การพิจารณาของศาลอาญาระหว่างประเทศ รวมทั้งให้ใช้มาตรการคว่ำบาตรทางการเงินโดยมีเป้าหมายไปที่ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พลเอกอาวุโสมิน ออง หล่ายแห่งเมียนมา (ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดของกองทัพเมียนมา) และผู้นำกองทัพอื่น ๆ ที่รับผิดชอบต่ออาชญากรรมร้ายแรงที่เกิดขึ้นกับชนชาติพันธุ์กลุ่มน้อยจำนวนมากทั่วประเทศ รวมทั้งชาวโรฮิงญา
ลอเรนซ์ มอส เจ้าหน้าที่รณรงค์อาวุโสด้านองค์การสหประชาชาติ ของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า ลำพังการประณามของประชาคมระหว่างประเทศไม่ได้ส่งผลกระทบอะไร ถึงเวลาที่สมัชชาความมั่นคงฯ ต้องใช้อำนาจพิเศษของตน เพื่อบังคับใช้มาตรการห้ามซื้อขายอาวุธระดับโลก เพื่อหาทางยุติการไล่สังหารอย่างต่อเนื่องของกองทัพเมียนมา
“กองทัพเมียนมาได้เพิกเฉยต่อข้อเรียกร้องจากผู้นำประชาคมระหว่างประเทศให้ยุติการสังหารที่โหดร้าย นายพลทหารยังปฏิเสธข้อเรียกร้องที่เป็นเอกฉันท์ของสมัชชาความมั่นคงฯ และเพื่อนบ้านในอาเซียนของเมียนมาเพื่อให้ยุติการนองเลือด”
“หากสมัชชาความมั่นคงฯ บังคับใช้มาตรการห้ามซื้อขายอาวุธต่อซีเรียตั้งแต่ทศวรรษที่แล้ว กระสุนที่จะใช้ยิงประชาชนก็คงหมดไปนานแล้ว ถึงเวลาที่สมัชชาความมั่นคงฯ ต้องดำเนินการก่อนที่สถานการณ์ร้ายแรงในเมียนมาจะส่งผลให้เกิดหายนะแบบเดียวกันกับซีเรีย” ลอเรนซ์ มอสกล่าว