Advertisement

Banner 600x250 px

Advertise with us

ThaiNGO team support only thaingo.org and thaingo.in.th.

เว็บไซต์ที่ทีมงาน thaingo ดูแลคือ thaingo.org และ thaingo.in.th เท่านั้น

Back

ใคร จะรับผิดชอบ IO ชายแดนใต้โดยใช้ภาษี ประชาชนทำร้ายประชาชน?

ใคร จะรับผิดชอบ IO ชายแดนใต้โดยใช้ภาษี ประชาชนทำร้ายประชาชน?

8 March 2021

2263

 

อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ) 

Shukur2003@yahoo.co.uk 

ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตาปรานีเสมอ มวลการสรรเสริญมอบแด่อัลลอฮฺผู้ทรงอภิบาลแห่งสากลโลก ขอความสันติสุขจงมีแด่ศาสนฑูตมุฮัดและสุขสวัสดีผู้อ่านทุกท่าน

 

จากข่าวเฟซบุ๊กสั่งปิดบัญชีและเพจที่ทาง กอ.รมน. ใช้ทำไอโอ หลังพบว่ามีพฤติกรรมสวมรอยเพื่อปล่อยข้อมูลหนุนกองทัพ กล่าวคือ

 

วันที่ 3 มี.ค. 2564 สำนักข่าวรอยเตอร์ (Reuters) รายงานว่า เฟซบุ๊ก (Facebook) ได้ลบ 185 บัญชีและกลุ่มที่ตรวจจับได้ว่าสมัครเข้ามาเพื่อปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร หรือ ไอโอ โดยมีส่วนเชื่อมโยงกับกองทัพไทย นับเป็นครั้งแรกที่เฟซบุ๊กถอดบัญชีในไทยที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลออก เมื่อดูรายงานพบว่า เฟสบุ๊ก ได้ยก 3 ตัวอย่างเพจIO (ความจริงปัตตานีบ้านฉัน รู้ทันขบวนการและทันข่าวสามจังหวัดชายแดนภาคใต้) ที่ได้ดำเนินการดังกล่าว

 

 

รอมฎอน ปันจอร์ ให้ทัศนะต่อเรื่องนี้ผ่านเฟสบุ๊ก ว่า “มีรายละเอียดน่าสนใจพร้อมตัวอย่างประกอบ 3 เพจ เฟสบุ๊กระบุว่าเนื้อหาส่วนใหญ่นั้นเกี่ยวข้องกับ "...การสนับสนุนทหารและสถาบันกษัตริย์ไทย เรียกร้องการไม่ใช้ความรุนแรง อัพเดทสถานการณ์โควิดในพื้นที่ ความรุนแรงที่กล่าวหาว่ามาจากกกลุ่มก่อความไม่สงบ และวิพากษ์วิจารณ์พวกแบ่งแยกดินแดนและขบวนการปลดปล่อย" 

 

 ใน 185 รายการมี 77 บัญชี 77 เพจ 18 กลุ่ม และ 18 บัญชีอินสตาแกรม ทั้งหมดนี้อยู่ในเข้าข่ายที่เฟสบุ๊คระบุว่ามี #พฤติกรรมปลอมแปลงที่เชื่อมประสานกัน หรือ Coordinated Inauthentic Behavior ซึ่งแม้ว่าคนที่ใช้งานบัญชีเหล่านี้จะพยายามปกปิดตัวตนและการเชื่อมประสานระหว่างกัน แต่การสืบสวนของเฟสบุ๊คก็ไปพบต้นตอว่าทั้งหมดนี้เชื่อมโยงไปยัง กอ.รมน.นั่นเอง   

 

ข้อมูลระบุไปถึงขั้นว่าทั้งหมดนี้มีคนติดตามซ้ำ ๆ กันถึงกว่า 7 แสนบัญชี และที่สำคัญใช้งบประมาณ 350 ดอลลาร์ในการยิงแอดด้วย (ซึ่งเงินนี้เป็นภาษีประชาชนแต่กลับมาทำร้ายประชาชน)

 

ตัวอย่างที่ยกมานี่ก็น่าสนใจครับ โดยเฉพาะการต่อต้านแนวคิด #ดารุลฮัรบี ซึ่งทางการไทย (โดยเฉพาะ กอ.รมน.) หมกหมุ่นเอามาก ๆ เพราะเป็นปมปัญหาที่แก้ไม่ตกตลอดมา แนวคิดนี้ให้ความชอบธรรมในการปลดปล่อยปาตานีเป็นเอกราช พวกเขาเลยมุ่งโจมตีซ้ำแล้วซ้ำอีกเป็นเวลาหลายปี ส่วนเอ็นจีโอนั่นเป้าโจมตีมาโดยตลอดอยู่แล้ว โดยเฉพาะกลุ่มสิทธิมนุษยชนที่ทหารมองอย่างกับขี้ นั่นก็เพราะประเด็นเหล่านี้ไปจำกัดอำนาจอันล้นเกินของพวกเขา และเป็นหนึ่งในประเด็นที่จะ #ยกระดับ ปัญหาชายแดนใต้ไปสู่เวทีระหว่างประเทศ

 

ซึ่งพวกเขากังวลขี้ขึ้นสมองมาโดยตลอด 

 

รอบนี้เลยโดยสอยไปทั้งยวง เรียกได้ว่าขาดเครื่องมือในยุทธการข้อมูลข่าวสารไปล็อตใหญ่ทีเดียว รอฟังคำแถลงจากพี่ ๆ นะครับ ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า - เพจใหม่

 

ผู้ที่สนใจดูรายงานฉบับเต็มของเฟสบุ๊ค ไปที่นี่ครับ https://about.fb.com/wp-content/uploads/2021/03/February-2021-CIB-Report.pdf”

หากผู้อ่านติดตามเรื่องนี้พบว่าในปีที่ผ่านมาส.ส.วิโรจน์ จากก้าวไกล อภิปรายในสภาผู้แทนราษฏร (และผู้เขียนเคยเขียนบทความในเรื่องนี้ https://www.matichonweekly.com/column/article_284308)

ในขณะที่วันนี้ (4 มีนาคม2564) นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน หรือ ไอลอว์ และนายวิญญู วงศ์สุรวัฒน์ และทีมทนายความ ยื่นคำร้องต่อศาลปกครองให้มีคำสั่งให้กองทัพบกหยุดการทำปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร หรือ ไอโอ กับประชาชน หลังจากที่ผ่านมาพบว่ามีนักวิชาการ นักกิจกรรมที่เห็นต่างทางการเมืองมีการถูกกระทำปฏิบัติการไอโอของกองทัพบกในช่วงที่มีกิจกรรมชุมนุมทางการเมืองที่ผ่านมาจำนวนมาก

 

นายยิ่งชีพ ระบุว่า ปฏิบัติการดังกล่าวถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชน รวมทั้งเป็นการทำที่มุ่งโจมตีกลุ่มที่เห็นต่างทางการเมืองโดยใช้ถ้อยคำที่หยาบคาย และถือว่าเป็นการนำงบประมาณของรัฐไปใช้อย่างไม่เหมาะสม จึงร้องขอให้ศาลปกครองมีคำสั่งให้กองทัพบกหยุดปฏิบัติการดังกล่าว แต่ไม่ได้เรียกร้องค่าเสียหาย เนื่องจากเห็นว่าเงินที่จะนำมาจ่ายให้ก็ถือว่าเป็นเงินของรัฐซึ่งถือว่ามาจากภาษีของประชาชน(อ้างอิงจาก https://news.thaipbs.or.th/content/302083)

#เมื่อความจริงปรากฏ จึงขอเรียกร้องผู้รับผิดชอบสูงสุดที่อยู่เบื้องปฏิบัติการ IO นี้แสดงความรับผิดชอบทั้งทางวินัยและอาญา ในขณะที่ประชาชนและสื่อมวลชนกำลังติดตามต่อเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด

อนึ่ง ล่าสุด พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตอต่อเรื่องนี้ ว่า “ได้สั่งการให้กระทรวงกลาโหมเข้าไปตรวจสอบแล้ว ส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่มีการพูดคุยกันในสภาฯ ก็ให้ไปดูว่าเป็นอย่างไร หลายอย่างก็เป็นประเด็นทางการเมือง ตนก็ถามว่าวันนี้เฟซบุ๊คทำเช่นนี้ก็มีหลายทางด้วยกัน เราก็ทราบดีอยู่แล้วต้องทำให้เกิดความชัดเจน เคลียร์ให้ชัดให้ได้ “

 

ในขณะที่ กอ.รมน.ออกมาชี้แจงแล้ว ว่า  “เฟซบุ๊กปิด 185 บัญชีเป็น ‘บัญชีส่วนบุคคล’ ยืนยันไม่มีนโยบายทำ IO” โดย

กอ.รมน. ไม่ทราบถึงการถูกถอดบัญชีเฟซบุ๊กตามที่เป็นข่าว เนื่องจากการใช้งานของเฟซบุ๊กเป็นบัญชีส่วนบุคคล ไม่มีความเกี่ยวข้องกับองค์กร (กอ.รมน.) การลบบัญชีจากเฟซบุ๊กถือเป็นการลบบัญชีส่วนบุคคล ปัจจุบันเฟซบุ๊กของ กอ.รมน. ยังสามารถใช้งานได้ตามปกติ

.

กอ.รมน. ไม่มีนโยบายให้หน่วยดำเนินงานตามที่เป็นข่าว จากนโยบายของ กอ.รมน. มีหน้าที่เป็นศูนย์กลางขับเคลื่อนประสานงานในการช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ให้กับประชาชน เพื่อเป็นที่พึ่งของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากความเดือดร้อน ซึ่ง กอ.รมน. ได้ยึดถือเป็นแนวทางการปฏิบัติงานมาโดยตลอด 

.

พล.ต. ธนาธิป ระบุว่าการใช้งานโซเชียลมีเดียของ กอ.รมน. มีวัตถุประสงค์เพื่อประชาสัมพันธ์กิจกรรมผลงานของ กอ.รมน. สร้างการรับรู้ข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ให้กับประชาชนได้อย่างรวดเร็ว พร้อมรับทราบความต้องการของประชาชนเพื่อนำมาปรับปรุงแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้ตรงตามความต้องการ และสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล 

.

โดยปัจจุบัน กอ.รมน. ได้มีคอลเซ็นเตอร์ 1374 รับแจ้งเหตุความมั่นคงเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะทำให้การดำเนินชีวิตของประชาชนมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน

อ้างอิงจาก https://thestandard.co

#TheStandardNews

Recent posts