Back

ผู้นำมุสลิมจากลาออกสำนักจุฬาราชมนตรีถึงร้องย้าย “เลขาธิการศอ.บต.”

23 February 2021

1978

ผู้นำมุสลิมจากลาออกสำนักจุฬาราชมนตรีถึงร้องย้าย “เลขาธิการศอ.บต.”

อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ) 

Shukur2003@yahoo.co.uk 

ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตาปรานีเสมอ มวลการสรรเสริญมอบแด่อัลลอฮฺผู้ทรงอภิบาลแห่งสากลโลก ขอความสันติสุขจงมีแด่ศาสนฑูตมุฮัมมัดและสุขสวัสดีผู้อ่านทุกท่าน

เดือนกุมภาพันธ์ 2564 ถือเป็นเรื่องทอล์คออฟเดอะทาวน์วงการมุสลิมและชายแดนภาคใต้ท่ามกลางเหตุร้ายไฟใต้มีการวางระเบิดทหารพรานบาดเจ็บ 2 รายที่ระแงะ จังหวัดนราธิวาสและข่าวมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ออกแถลงการณ์ 4 ข้อ ชี้แจงประเด็นร้อน หลังมีภาพหลุดเชิญ นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ ผู้ลี้ภัยทางการเมือง สอนออนไลน์วิชาการต่างประเทศ (สหรัฐฯ-จีน-อาเซียน) กับคณะเศรษฐศาสตร์ ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าวแล้ว หากพบว่ามีความผิดจริง จะได้ดำเนินการทางวินัยและจรรยาบรรณต่อไป

#ดร.วิสุทธิ์ ลาจากผู้แทนจุฬาราชมนตรี(ภาคใต้)

 

วันอังคารที่ 9 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 14.00 น.ผู้เขียนได้รับการยืนยันจาก อิหม่าม ดร.วิสุทธิ์ บิลล่าเต๊ะ ซึ่งผู้เขียนเรียกชื่อท่านตลอดตั้งเรียนมหาวิทยาลัยอัลอัซฮัร อียิปต์จนถึงปัจจุบัน “บังฏ๊อบ”จากคำว่า “ฏ๊อบรอนีย์” ถึงจดหมายลาออก 2 ตำแหน่งในสำนักจุฬาราชมนตรี (ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงาน​  สำนักจุฬาราชมนตรี​ ประจำภาคใต้ ประธานสภาเครือข่ายช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม​ สำนักจุฬาราชมนตรี)ด้วยเหตุผลในจุดยืนที่มีอุดมการณ์ยิ่งยากที่บุคคลทั่วไปจะทำได้ ท่านสะท้อนว่า “ข้าพเจ้าได้ลาออกจากตำแหน่งในสำนักจุฬาราชมนตรีทั้งสองตำแหน่งแล้วนะครับ ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงาน​  สำนักจุฬาราชมนตรี​ ประจำภาคใต้ ประธานสภาเครือข่ายช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม​ สำนักจุฬาราชมนตรีทั้งนี้​ เพื่อให้องค์กรทำงานได้โดยมิถูกกดดันโดย​ "รุวัยบิเฎาะฮ"

 

แม้ไม่มีตำแหน่งแห่งหนในสำนักจุฬาราชมนตรี​ แต่ข้าพเจ้าก็คือมุสลิมคนหนึ่งที่เป็นพลเมืองของประเทศไทย​ มีจุฬาราชมนตรีเป็น​ "อมีร" (ผู้นำ)ที่จะต้องฏออัต(ปฏิบัติตาม)ในสิ่งที่ดีและมีหน้าที่ต้องส่งเสริมความดีและยับยั้งความชั่วตามกำลังความสามารถ”

ความเป็นจริงเรื่องนี้ผมก็พอทราบบ้างจากเฟสบุ๊คท่านเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว 30 มกราคม 2564 แล้วได้แสดงทัศนะในวันนั้นต่อท่านว่า “บางครั้งการออกจากตำแหน่ง อาจดีกว่าเห็นมุมมากกว่า ทำอะไรอิสระ กว่า บลา ๆลดข้อครหา ดังนั้น เราเคยทำงานตอนที่ไม่มีตำแหน่ง ทำงานตอนมีตำแหน่งกว่า10 ปี ตอนนี้อายุ 50 กว่าต้นๆ ก็ไม่สายเป็นกำลังใจ ...”

ก่อนที่ผู้เขียนจะทราบการลาออกทางสื่อวันนี้ (ในจดหมายลาออกลงวันที่ 1 กุมภาพันธ์)ผู้เขียนพบท่านเมื่อวันอาทิตย์ ที่ 7 กุมภาพันธ์ 2564 ที่มัสยิดศอลิฮุดดีน (ศาสนบำรุง)อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา เวลาหลังอัซรีเนื่องจากร่วมละหมาดญานาซะห์ของแม่อาจารย์ฮารูน ยีหมะ ท่านเดินตรงมาหาผู้เขียนทั้งๆที่ท่านมีตำแหน่งใหญ่โตเป็นถึงผู้แทนจุฬาราชมนตรี แสดงถึงแบบอย่างที่ดีของผู้นำศาสนา

 

ท่านถือว่าเป็นวิทยากรในด้านที่เกี่ยวข้องกับอิสลามที่มีชื่อเสียงในประเทศไทยสามารถบรรยายได้ 4 ภาษาไทย อาหรับ มลายูและอังกฤษ

ในด้านสาธารณะประโยชน์ดำรงตำแหน่งประธานสภาเครือข่ายช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม(ก่อนลาออก)/อดีตประธานบริหารจัดการจัดทำรายการโทรทัศน์ สำนักจุฬาราชมนตรี

อิหม่ามดร.วิสุทธิ์ บิลล่าเต๊ะ ยอมรับว่า “การลาออกจากผู้แทนจุฬาราชมนตรี ด้วยเหตุผลที่สำนักจุฬาราชมนตรีถูกกดดันจากต่างประเทศ ทำให้กระแสกำลังใจต่อท่านสูง

ในขณะที่ข่าวการสาเหตุที่แท้จริงคืออะไรกันแน่ แต่ถ้าดูบทความ(เขียนโดยดร.อิลยาส หญ้าปรัง)นี้ น่าจะสอดคล้องและเป็นไปได้มากที่สุดกล่าวคือ

 

ใครวิพากษ์วิจารณ์สงครามนี้ MBS จับเข้าคุกทรมาณ นักวิชาการศาสนาที่แม้เพียงทวิตเตอร์ประโยคว่า “ขอให้รักกันด้วยความเป็นพี่น้อง” ต้องถูกจำคุกและถูกทรมาน นักหนังสือพิมพ์ระดับวอชิงตันโพสต์ ยามาล คาช้อรกี้ ถูกฆ่าอย่างทารุณแม้อยู่ในสถานฑูตในตรุกี MBS ยังร่วมกับผู้ปกครองแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มูฮัมหมัด บินซาเอ็ด (MBZ) สนับสนุนการทำรัฐประหารที่อียิปต์ ปิดล้อมการ์ต้า สนับสนุนขายอาวุธให้ชาวลิเบียทำสงครามกันเอง จับนายกรัฐมนตรีเลบานอนเป็นตัวประกัน ฯลฯ

 

ปัจจุบันการใช้อำนาจของซาอุฯลามมายังประเทศไทย มีการกดดันให้องค์กรศาสนา จัดการ กดดัน ผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลซาอุดิอารเบีย แน่นอนว่าองค์กรเล็กๆไม่อาจต้านแรงเสียดทานที่มีเดิมพันสูงได้ และมีนักวิชาการปัญญาชนผู้มีจิตใจเป็นธรรมสังเวยต่อการกดดันนี้แลกกับผลประโยชน์บางอย่างในนามของศาสนา

 

ชาวซาอุดิอารเบีย เป็นผู้มีจิตใจดีงามตามแบบฉบับของผู้คนในทะเลทราย พวกเขายึดมั่นในอิสลามตามแบบฉบับของศาสนฑูต แต่รัฐบาลซาอุดิอารเบียเป็นรัฐบาลที่เลวร้าย (จริงๆไม่มีรัฐบาลในความหมายที่เราเข้าใจกันเป็นการปกครองโดยคนๆเดียว) พวกเขาไม่ต้องการได้ยินอะไรทั้งสิ้นที่ขัดกับความต้องการของพวกเขา 

 

ซาอุดิอารเบียต้องหยุดการกระทำดังกล่าว หยุดสงครามในเยเมน (ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ประกาศหยุดการสนับสนุนซาอุดิอารเบียในสงครามเยเมนแล้ว) หยุดการสนับสนุนรัฐประหารและรัฐบาลเผด็จการในอียิปต์ ปล่อยตัวนักวิชาการและปัญญาชนที่วิพากษ์วิจารณ์การกระทำที่โหดร้ายของรัฐบาล หยุดกดดันและคุกคามผู้เรียกร้องไปสู่ความยุติธรรม ความเป็นพี่น้องและสันติภาพทั้งในและนอกประเทศ

 

 กลับมาสู่ความเป็นมนุษย์ เป็นประชาชาติตัวอย่าง (คัยร อุมมะฮ์) ให้สมกับเป็นผู้ปกป้องมัสยิดอันศักดิสิทธิทั้งสองแห่ง (อัลฮาราเมน)”

(อ้างอิงจาก https://www.facebook.com/100001415372289/posts/3887807721276369/?d=n)

หากการกดดันมาจากยักษ์ใหญ่โลกมุสลิมอย่างซาอุดีอาระเบียไม่ใช่ตะวันตกเป็นที่น่าเสียใจยิ่งเพราะท่านวิจารณ์และออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านอเมริกาและ อิสราเอลมากกว่าอีก

 

ทั้งนี้ หากติดตามจุดยืนของอิหม่ามดร.วิสุทธิ์ พบว่ายืนอยู่บนสัจธรรมเช่นวิพากษ์วิจารณ์

อิสราเอล ตะวันตก โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาที่เข้ามาแทรกแซงในตะวันออกกลาง และไม่เห็นด้วยกับบทบาทของอิหร่านในซีเรีย ในขณะเดียวกันวิพากษ์วิจารณ์ทางวิชาการผู้นำรัฐประหารอียิปต์ อัซซีซี ผู้นำประเทศซาอุดิอาระเบีย และเครือข่ายอย่างเข้มข้น ต่อท่าทีของการคว่ำบาตรกาตาร์และล่าสุด ซาอุดิอารเบียและประเทศกลุ่มอ่าว ปรับความสัมพันธ์กับอิสราเอล หรือผู้นำรัฐประหารไทยและผู้นำทุกคนที่ปกครองอย่างอธรรมซึ่งสอดคล้องกับท่านศาสนฑูตมุฮัมมัด เคยวัจนะ ว่า  ((أَفْضَلَ الْجِهَادِ كَلِمَةُ حَقٍّ عِنْدَ سُلْطَانٍ جَائِرٍ)):

ความว่า “สุดยอดญีฮาด (การต่อสู้ในหนทางพระเจ้า)คือการพูดความจริงต่อ(หน้า)ซุลฏอน(ผู้นำ)อธรรม”หะดีษนี้บันทึกโดยอิหม่ามอบูดาวุดและตุรมีซีย์

 

การลาออกทั้งสองตำแหน่งใหญ่ของสำนักจุฬาราชมนตรีครั้งนี้วงการมุสลิมก็ต้องสูญเสียบุคคลสำคัญที่มีผลงานเชิงประจักษ์คนหนึ่งที่ไม่ใช่ง่ายเช่นกันที่จะมีคนมาทำงานได้มาตรฐานที่ท่านได้วางไว้ ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ผู้คนทั่วสารทิศ “ออกมาให้กำลังใจ ขอพรหรือขอดุอาอ์ให้เอกองค์อัลลอฮประทานความดีงามแด่ท่านมากยิ่งขึ้น “

#เวทีจะนะเดือด: บอบอฮุสณีเสนอให้ย้าย เลขาธิการศอ.บต.และคณะ ส่วนข้าราชการบอกว่า “ทำตามกฎหมาย“

 

วันที่

 

 14 กุมภาพันธ์ 2564 พลเอกประวิตร ส่งตัวแทนลงพื้นที่ อ.จะนะ จ.สงขลา เพื่อพบปะชาวบ้าน และประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการดำเนินการขยายผลโครงการเมืองต้นแบบ “สามเหลี่ยม มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” ไปสู่ เมืองต้นแบบที้ 4 อ.จะนะ จ.สงขลา” ตามที่มีคำสั่งตั้งคณะอนุกรรมการที่มีร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า แต่งตั้งก่อนหน้านี้

 

ทั้งนี้ ตัวแทนของพลเอกประวิตร ได้แก่ นาย ประสาน หวังรัตนปราณี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรี พร้อม นาย สุรศักดิ์ เรียงเครือ รองปลัดสำนักนายกฯ โดยช่วงเช้า 10.00-11.30 น.ได้พบกับหน่วยงานราชการที่ดำเนินการโครงการเพื่อตอบข้อสักถามและตัวแทนกลุ่มผู้สนับสนุนโครงการ ได้แสดงออกเพื่อสนับสนุนโครงการและมอบดอกไม้ให้กำลังใจที่ที่ว่าการ อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ส่วนช่วงบ่ายเวลา ประมาณ 12.00 น. - 13.30 น. พบ กลุ่มตัวแทนเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น และคนที่เห็นต่างจากโครงการที่ห้องประชุมโรงพยาบาลจะนะ จังหวัดสงขลา

นายประสาน เปิดเผยว่า “การที่ต้องมาวันนี้เพราะ เรื่องนี้ถูกนำไปเป็นประเด็นทางการเมือง ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ และ ต้องมีการ ตรวจสอบ โดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ สั่งย้ำมาว่า อันไหน ไม่ถูกต้อง ให้สรุปออกมาให้หมด ให้ดูดีๆ ทุกขั้นตอน ต้องยึดตามระเบียบ ราชการ กฏเกณฑ์ มติ ครม.โดยท่านยำ้ว่า 

 

“ผมเกษียณมา10 ปี แล้ว ตลอดขีวิตรับราชการของผม ถ้า สั่งไม่ถูกต้อง ผมไม่ทำ แม้ ผู้บังคับบัญชา สั่งผมไม่ทำ ต้องตามแก้ ใครจะช่วยผม”

ส่วนหน่วยราชการในพื้นที่ ได้ตอบข้อสักถามต่อคณะนายประสานเป็นเสียงเดียวกันว่าพวกเขาปฏิบัติตามระเบียบราชการทุกขั้นตอน อย่าไรก็แล้วแต่ตัวแทนข้าราชการคนหนึ่งอดสะท้อนไม่ได้ว่า “พวกเขาก็จำเป็นต้องทำตามนโยบายนักการเมืองที่ดูแลกระทรวงที่รับผิดชอบที่ปรับเปลี่ยนแต่ละสมัย”

สำหรับเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่นยื่นหนังสือถึง

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ผ่านนาย ประสาน หวังรัตนปราณี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรีทวงถามสัญญาลูกผู้ชายเดิม 3 ข้อ

1.แต่งตั้งคณะอนุกรรมการติดตามตรวจสอบกรณีปัญหาโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ จังหวัดสงขลา ตามที่พวกข้าพเจ้าได้นำเสนอไปแล้วก่อนหน้านี้ พร้อมกับกำหนดบทบาทหน้าที่การทำงานเพื่อให้เป็นไปตามข้อตกลงเดิมตั้งแต่ต้น ที่ได้บันทึกกันไว้ที่ทำเนียบรัฐบาล

 

2. ต้องทำการศึกษาผลกระทบทางยุทธศาสตร์ หรือ SEA. โดยมีคณะนักวิชาการที่มีความเข้าใจในมิติด้านเศรษฐศาสตร์ ด้านสิ่งแวดล้อม และด้านสันติวิธี (แก้ไขปัญหาความขัดแย้งชายแดนใต้) เพื่อใช้หลักวิชาการในการตัดสินใจต่อโครงการนี้

 

3. ในการตรวจสอบหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการที่ผ่านมา หากพบว่าเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานใดมีส่วนเกี่ยวข้อง หรือสงสัยว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำความผิด จะต้องออกคำสั่งย้ายเจ้าหน้าที่เหล่านั้น ให้พื้นจากหน้าที่ไปก่อน เพื่อความสะดวกในการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป โดยเฉพาะกรณีที่ดิน , ตรวจการปฏิบัติงานของศูนย์อำนวยการบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ในฐานะผู้รับผิดชอบโครงการนี้ว่า ถูกต้องตามกระบวนการและระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือไม่ และรวมถึงให้ตรวจสอบกระบวนการทำงานของกรมโยธาธิการและผังเมืองในการเปลี่ยนสีผังเมืองจากสีเขียวเป็นสีม่วงว่าเป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฏหมายผังเมืองด้วยหรือไม่

 

ส่วนก่อนเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่นจะยื่นหนังสือนั้น

บาบอฮุสณี บินหะยีคอเนาะ ที่ปรึกษาสมาคมโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามจังหวัดสงขลา เสนอให้ย้าย 

1.เลขาธิการศอ.บต.และคณะ

2.หัวหน้าที่ดิน สงขลาและจะนะ

3.นายอำเภอจะนะ เพื่อความยุติธรรมในการตรวจสอบโครงการ “จะนะเมืองอุตสาหกรรม”

หลังจากข่าวนี้ดังโลกโซเชี่ยลท่านกรุณาให้เกียรติเปิดใจต่อผู้เขียนต่อสาเหตุเสนอย้าย

เลขาธิการศอ.บต.และคณะว่า “#โต๊ะครูจะนะยืนยันคัดค้านโครงการนิคมอุตสาหกรรม​จะนะ.. ต่อหน้าเลขาธิการศอ.บต.และหนุนจบบนโต๊ะ “คณะอนุกรรมการ”ที่เสนอธรรมนัส วันก่อน แต่เลขาธิการศอ.บต.กลับบอกรัฐมนตรีว่าเราหยุดไม่ค้าน โต๊ะครูเข้าใจศอ.บต.แล้ว”อย่างนี้สมควรให้ย้ายไหม?

 

บาบอเปิดเผยต่อว่า

 

“เมื่อวันที่ วันที่ 1 มกราคม 2563 เวลา 14.00 น. ณ ห้องประชุมผู้บริหารโรงเรียนศาสนบำรุง อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา พลเรือตรีสมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศอ.บต.)และคณะได้เดินทางเข้าพบคณะทำงานเครือข่ายโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามจังหวัดสงขลา อันประกอบด้วย บาบอฮุสณี บินหะยีคอเนาะ (โต๊ะครูจะนะ) คณะทำงานคัดค้านโครงการ “จะนะเมืองอุตสาหกรรม” สมาคมโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามจังหวัดสงขลา

 ดร.นัสรูดิน กะจิ นายกสมาคมโรงเรียนสอนศาสนาเอกชนจังหวัดสงขลา ดร.มังโสด หมะเต๊ะ ที่ปรึกษาสมาคม ดร.ดุลยรัตน์ บูยูโส๊ะ ประธานเครือข่ายโรงเรียนเอกชนเขตพื้นที่พิเศษ จังหวัดสงขลา คณะกรรมการสมาคมฯ และคณะ เพื่อขอปรึกษาหารือการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ในโอกาสนี้คณะพวกเราได้ท้วงติงท่านในฐานะผู้บริหารสูงสุดของ ศอ.บต. เกี่ยวกับวิธีการขับเคลื่อนโครงการจะนะเมืองอุตสาหกรรมไว้หลายประการ โดยเฉพาะเรื่องความไม่โปร่งใส ไม่เป็นธรรม ตรวจสอบไม่ได้ และขาดกระบวนการมีส่วนร่วมสำคัญของประชาชนทุกฝ่าย ดังที่ ดร.มังโสด หมะเตะ ชี้แจงต่อคณะท่านธรรมนัส ในคราวที่ท่านลงพื้นที่ครั้งที่ผ่านมา พร้อมกันนี้ยังทักท้วงไปถึงบทบาทการทำงานของบุคลากรระดับรองเลขาฯบางท่านว่า ควรระมัดระวัง และควรตั้งตนอยู่ในบทที่เหมาะสมมากกว่านี้ ซึ่งท่านเลขาฯก็รับฟังเป็นอย่างดี และยังกล่าวคำขอโทษกับพวกเราหลายครั้ง

  

บาบอฮุสณี บินหะยีคอเนาะ กล่าวอีกว่า “คณะของเราเคยทำหนังสืออย่างเป็นทางการท้วงติงถึงท่าน ได้เคยท้วงติงเรื่องนี้โดยตรงกับ ดร.ชนธัญ แสงพุ่ม ที่ห้องประชุมค่ายคอหงส์ อำเภอหาดใหญ่ และดร.บดินทร์ รัศมีเทศน์ ต่อหน้าคณะกรรมาธิการการกระจายอำนาจที่รัฐสภา แต่ ศอ.บต.ยังดึงดันขับเคลื่อนโครงการนี้จนเรื่องบานปลายตามที่เป็นข่าวในหน้าสื่อ ดังนั้นวันนี้ พวกเรายังคงมีเจตนารมณ์เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง 

 

ขอยืนยันว่า โครงการนี้จะหยุดทุกกระบวนการ จนกว่า จะได้ข้อสรุปจากคณะอนุกรรมการที่จะแต่งตั้งตามที่ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รับปากผ่านสื่อ และที่ประชุมครม.รับทราบ และเรามีคลิปภาพ คลิปเสียง เป็นพยานหากให้จะนำผลการพูดคุยของพวกเรา ไปบิดเบือน เจตนารมณ์ในนามของโต๊ะครู ผู้รู้ศาสนา ผู้บริหารพวกเราจะคงยืนหยัดในการต่อสู้เพื่อพี่น้อง ชาวบ้านและสัจธรรมต่อไปอย่างไม่ท้อถอย”

 

ท่านยืนยัน เพิ่มเติมว่า “เราได้ย้ำกับเลขาธิการศอ.บต.ให้หยุดทุกกิจกรรมอันเนื่องมาจากการขับเคลื่อนโครงการเช่นส่งคนหรือใครการลงพื้นที่ ทำกิจกรรมอันเนื่องจากโครงการนี้ โต๊ะครูเรา สมาคมเรา ได้มอบให้เป็นหน้าที่การกำหนดของคณะอนุกรรมการที่จะต้องหารือ เสนอแนะทางวิชาการตามกรอบภารกิจที่ท่านธรามนัสได้สัญญาลูกผู้ชายกับพวกเรา มิได้หมายความว่าเราหยุดคัดค้านโครงการเหมือนบางคนตีความและส่งสารให้ผู้ใหญ่”

 

บาบอขอ เสนอ “ศาสตร์พระราชา”แทนที่ “จะนะเมืองอุตสาหกรรม”

 

โดย

ขอให้รัฐบาลจัดสรรงบประมาณ 3 หมื่นล้านบาท

เปลี่ยน 17,000 ไร่​จากนิคมอุตสาหกรรม​จะนะเป็นโคกหนองนาโมเดลตามรอยศาสตร์​พระราชาประจำภาคใต้

#มั่นใจ 20 ปี คืนทุนรัฐบาล แถมพลิกชาวจะนะ 1,000 ครอบครัวจาก 3 ตำบล เป็นเศรษรีมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน.. ไม่ใช่เป็นลูกจ้าง​นายทุนแบบถาวร

About Us

เว็บไทยเอ็นจีโอ สนับสนุนการใช้สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์และเผยแพร่แนวคิดวัฒนธรรมเสรี เนื้อหาในเว็บไซต์ไทยเอ็นจีโอดอทโออาจี ท่านสามารถเอาไปใช้งานได้เลยโดยไม่ต้องขออนุญาต เพียงท่านระบุที่มาและห้ามทำการค้า

ThaiNGO Team

ติดต่อประสานงาน - Contact
Tel : 099-014-3797

ทศพร แกล้วการไร่ : ผู้ดูแลเว็บ - Webmaster
Tel : 080-078-4016

อัฎธิชัย ศิริเทศ : บรรณาธิการ - Editor
Tel : 082-178-3849

Email : webmaster@thaingo.org

Office Hours : Mon-Fri , 9.00-17.00

Contact Info

2044/23 ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ บางกะปิ ห้วยขวาง กรุงเทพ 10310

2044/23 New Phetchaburi Road, Bangkapi, Huai Khwang, Bankok 10310

+662 314 4112