ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 เว็บ thaingo.org จะปรับค่าบริการจากเดิม 300 บาทเป็น 500 บาท
From January 1, 2023, thaingo.org will adjust job announcement fee from 300 baht to 500 baht.

ThaiNGO team support only thaingo.org and thaingo.in.th.

เว็บไซต์ที่ทีมงาน thaingo ดูแลคือ thaingo.org และ thaingo.in.th เท่านั้น

ชาวบ้านผู้เดือดร้อนจากนโยบายทวงคืนผืนป่าบุกศาลากลางจังหวัดมุกฯ ขอเข้าร่วมประชุมกับคณะทำงานฯ ร้องต้องทำการพิสูจน์สิทธิในที่ดินทำกิน

 

.

เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 63 ชาวบ้านผู้เดือดร้อนจากนโยบายทวงคืนผืนป่ากว่า 100 คน ได้เดินทางมายังศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร เพื่อเข้าร่วมประชุมคณะทำงานตรวจสอบการครอบครองเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าดงหมู แปลงที่ 2 ท้องที่ตำบลคำป่าหลาย อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร ครั้งที่ 1/2563 ณ ห้องประชุมแก่งกะเบา ชั้น 3 โดยการประชุมครั้งนี้ได้มีปลัดจังหวัดมุกดาหาร ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดมุกดาหาร ผู้อำนวยการส่วนทรัพยากรธรรมชาติ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดมุกดาหาร เจ้าหน้าที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดมุกดาหาร นิติกรสำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดมุกดาหาร หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่า มห.1 (คำป่าหลาย) เจ้าหน้าที่สถานีตำรวจภูธรคำป่าหลาย ตัวแทนกำนันตำบลคำป่าหลาย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 13 ตัวแทนภาคประชาชน หมู่ 5, หมู่ 6, หมู่ 13 ตัวแทนขบวนการภาคประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (P-MOVE) และชาวบ้านผู้เดือดร้อน เข้าร่วมประชุม

.

โดยนายชลวิทย์ นามจันทรา ผู้อำนวยการส่วนทรัพยากรธรรมชาติ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดมุกดาหาร ได้กล่าวสรุปผลการดำเนินงานของคณะทำงานที่ผ่านมาว่า “ประเด็นที่หนึ่งเรื่องการดำเนินการตามมาตรา 25 ซึ่งได้ให้เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่า มห.1 (คำป่าหลาย) มาชี้แจงแนวทางปฏิบัติ ซึ่งประเด็นนี้ต้องพิจารณากันต่อไป ประเด็นที่สองพื้นที่ทับซ้อน สปก. เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบแล้ว ซึ่งพบว่าเป็นพื้นที่แนวรอยต่อของ สปก. และหากทางหน่วยป้องกันรักษาป่า มห.1 (คำป่าหลาย) มีการถอยหลักเขตตรวจยึดจริงก็ต้องลงพื้นที่ตรวจสอบรายละเอียด ประเด็นที่สามเรื่องรายละเอียดของเอกสารหน่วยป้องกันรักษาป่า มห.1 (คำป่าหลาย) ก็ได้ส่งมา ซึ่งมีรายละเอียดตั้งแต่แรกจนถึงขั้นตอนการรื้อถอน ก็ต้องทำการพิจารณาต่อไป ประเด็นที่สี่เรื่องการสำรวจการถือครองที่ดินยังจะต้องพิสูจน์สิทธิการถือครองของเกษตรกรเป็นผู้ยากไร้หรือไม่ ซึ่งในครั้งนั้นได้มีการสรุปว่ายังไม่ได้ดำเนินการต่อ เนื่องจากว่าเป็นพื้นที่ที่ได้ตรวจยึดทางกฎหมายไปแล้ว ซึ่งถ้าจะดำเนินการต่อไปคงจะยังไม่ได้ และชาวบ้านยังได้มีการติดตามสอบถามว่าจะทำอย่างไรเพื่อที่จะคลายมาตรการนี้ลง และขอเข้าทำประโยชน์เนื่องจากได้รับความเดือดร้อน ไม่มีที่ทำกิน และอยากให้ทางจังหวัดได้ให้ความช่วยเหลือ”

.

ซึ่งนายสุรเดช อัคราช ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดมุกดาหาร กล่าวแสดงความคิดเห็นว่า “สำหรับประเด็นการช่วยเหลือพี่น้องทั้ง 3 หมู่บ้านที่ถูกยึดพื้นที่ทำกิน ผมได้มีการหารือกับทางจังหวัดเพื่อพิจารณาหาทางช่วยเหลือพี่น้อง ทำอย่างไรจะให้ชาวบ้านเข้าไปทำกินในที่ดินเหล่านี้ได้ ปรากฎว่ากรมป่าไม้ไปดูระเบียบการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติตามมาตรา 16 พบว่าสามารถขอใช้ประโยชน์ได้ ซึ่งพื้นที่การจับกุมครั้งนี้ไม่ได้มีการกล่าวหาว่าได้มีผู้ใดเป็นผู้บุกรุกหรือผู้กระทำผิด ตรงนี้จึงไม่ได้เป็นข้อห้ามในการใช้ป่าสงวนตามมาตรา 16 ถ้าจังหวัดให้ความร่วมมือทำเรื่องขออนุญาตให้ทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ที่มีการตรวจยึดทั้งหมด ชาวบ้านก็มีสิทธิอยู่ได้ถึง 30 ปี และสามารถต่ออายุได้เรื่อย ๆ อีกด้วย”

.

ขณะที่นายอดิศักดิ์ ตุ่มอ่อน ตัวแทนขบวนการภาคประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (P-MOVE) กล่าวว่า “กรณีเรื่องคดีความ กฎหมาย แนวเขต หรือการพิสูจน์สิทธิ คิดว่าน่าจะมีวงคุยมากกว่านี้ เนื่องจากมีรายละเอียดมาก เช่น เรื่องคดีแนวเขตที่มีเจ้าหน้าที่กล่าวความร้องทุกข์ไปเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2559 เราเห็นรายละเอียดอยู่ว่าการกล่าวความร้องทุกข์นั้นไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ยังไง และเรื่องการตรวจยึดในพื้นที่ สปก. เราเห็นบันทึก สปก. ว่ามีการรุกล้ำจริง แสดงว่าความผิดสำเร็จแล้วในการเข้าไปรุกล้ำพื้นที่ผู้ถือสิทธิ สปก.4-01 ซึ่งในตอนนั้นผู้รับผิดชอบคืออดีตหัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ มห.1 (คำป่าหลาย) ซึ่งเป็นเรื่องของผู้ที่ถือสิทธิที่จะไปร้องกล่าวโทษอีกครั้งเมื่อเห็นข้อเท็จจริง และประเด็นเรื่องการใช้สิทธิคิดว่าขอให้ผ่านกระบวนการพิสูจน์สิทธิไปก่อน”

.

และนายกวินธร นิ่มพันธ์ ผู้แทนภาคประชาชน หมู่ 6 บ้านนาคำน้อย ก็ได้กล่าวว่าเพิ่มเติมว่า “มีที่ดินของชาวบ้านแปลกหนึ่งที่ปลูกมันทั้งแปลง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้มีการไถมันทิ้งเป็นแนวยาวประมาณ 100 เมตร เพื่อที่จะปักหลักเขตตรวจยึด แต่ภายหลังที่ชาวบ้านได้มีการร้องเรียนก็ได้มีการขยับหลักที่ปักออกไป แต่มีการตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการตรวจยึดเข้าไปในแปลงหรือว่าเป็นการปักหลักผิด ส่วนอีกประเด็นถ้าจะพูดตามความผิดเจ้าหน้าที่ป่าไม้ก็ได้ทำลายทรัพยสินการเกษตรของเกษตรกรรายนี้ไปแล้ว จึงเป็นประเด็นค้างคาว่าตกลงเจ้าหน้าที่ป่าไม้มีการจับพิกัดตรวจยึดเข้าไปในแปลงหรือว่าไม่ได้เข้าไปในแปลงหรือว่าปักหลักผิด”

.

ซึ่งนายเอกราช มณีกรรณ์ ปลัดจังหวัดมุกดาหาร ก็ได้กล่าวว่า “ประเด็นนี้ถ้าทรัพยสินเสียหายชาวบ้านสามารถแจ้งความได้เลย ถึงจะเจตนาหรือไม่เจตนาก็ไม่เกี่ยว ถ้าทรัพยสินของราษฎรเสียหายให้เจ้าของที่ไปแจ้งความไว้เลย”

.

ทั้งนี้ในที่ประชุมคณะทำงานตรวจสอบการครอบครองเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าดงหมู แปลงที่ 2 ท้องที่ตำบลคำป่าหลาย อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร ครั้งนี้ ได้มีความเห็นตรงกันว่าเห็นควรจะต้องแต่งตั้งคณะทำงานชุดใหม่ เพื่อที่จะให้การช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้