ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 เว็บ thaingo.org จะปรับค่าบริการจากเดิม 300 บาทเป็น 500 บาท
From January 1, 2023, thaingo.org will adjust job announcement fee from 300 baht to 500 baht.

ThaiNGO team support only thaingo.org and thaingo.in.th.

เว็บไซต์ที่ทีมงาน thaingo ดูแลคือ thaingo.org และ thaingo.in.th เท่านั้น

โรงโม่ไม่ยอมถอย สั่งเก็บหัวหน้าพรรคสามัญชน เหยื่อสังหารรายที่ 5

 

ขณะที่การต่อสู้เรียกร้องสิทธิในการอนุรักษ์ บำรุงรักษา ปกป้อง และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของกลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนเขาเหล่าใหญ่-ผาจันได ต.ดงมะไฟ อ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู ให้มีการปิดและฟื้นฟูเหมืองแร่หินอุตสาหกรรมชนิดหินปูน (เพื่ออุตสาหกรรมก่อสร้าง) เนื้อที่ 175 ไร่ และโรงโม่หิน เนื้อที่อีก 50 ไร่ ตามประทานบัตรที่ 27221/15393 ของบริษัท ธ.ศิลาสิทธิ จำกัด ตั้งแต่วันที่ 13 สิงหาคม 2563 จนถึงปัจจุบัน โดยมี 3 ข้อเรียกร้องต่อส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง คือ

(1) ปิดเหมืองแร่หินปูนและโรงโม่หิน

(2) ฟื้นฟูภูผาป่าไม้

(3) พัฒนาดงมะไฟเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศวัฒนธรรมและแหล่งอารยธรรมโบราณคดี

.

ตลอดระยะเวลาการชุมนุมปิดถนนทางเข้าเหมืองหินปูนและโรงโม่หินกว่า 40 วันแล้วนั้น โดยในวันที่ 4 กันยายน 2563 ชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ฯได้ดำเนินการเข้าทวงคืนพื้นที่เขตเหมืองแร่ เนื้อที่ 175 ไร่ เป็นเขตป่าชุมชนดังเดิมแล้ว แต่ทว่ายังเหลือพื้นที่ในเขตโรงโม่หินอีก 50 ไร่ ที่ชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ฯจะเข้ายึดคืนพื้นที่โรงโม่หินให้กลับคืนมาอีกครั้ง ในวันที่ 25 กันยายน 2563 ซึ่งเป็นวันหมดอายุใบอนุญาตประทานบัตรทำเหมืองสิ้นสุดลงและทำให้ใบอนุญาตโรงโม่หินสิ้นสุงอายุลงตามไปด้วย

.

ซึ่งสถานการณ์ตอนนี้เป็นสถานการณ์ที่ชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ฯต้องเผชิญกับสภาวะความเสี่ยงที่อาจนำไปสู่ความรุนแรงอีกครั้ง ด้วยลักษณะ กระบวนการ วิธีการ และรูปแบบเดิม จากการข่มขู่คุกคามสู่ชี้เป้าไปที่ NGO หนุนชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ฯคัดค้านเหมืองหินปูนอย่างนายเลฺิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ เครือข่ายประชาชนผู้เป็นเจ้าของแร่ เพื่อทำให้กระบวนการเคลื่อนไหวคัดค้านสดุดหยุดลงให้ได้ในที่สุด โดยตัวบงการที่อยู่เบื้องหลังความรุนแรงที่เกิดขึ้นเป็นกลุ่มคนเดียวกันกับเมื่อปี 2538 และปี 2542 อย่างชัดเจน ซึ่งปัจจุบันแกนนำหนุนเหมืองตัวสำคัญที่ยังคงมีอิทธิพลและมีบทบาทสำคัญในการผลักดันให้เกิดการทำเหมืองหินปูนและโรงโม่หินในพื้นที่ตำบลดงมะไฟ อำเภอสุวรรณคูหา ได้แก่

.

1. นายสุนา (นามสมมุติ) เป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลดงมะไฟถึงสองสมัย ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นรองประธานสภาองค์กรบริหารส่วนตำบลดงมะไฟ เป็นคนผ่านเงินไปให้สมาชิก อบต. ฝ่ายโรงโม่ และคนอื่น ๆ ในการผลักดันการทำเหมืองหินปูนและโรงโม่หิน เคยต้องคดีอาญาปลอมแปลงเอกสารเกี่ยวกับการทำประชาคมและรายงานการประชุมสภา อบต. เท็จ ซึ่งภายหลังจากที่นายประคอง (นามสมมติ) ย้ายไปประกอบอาชีพค้าขายที่จังหวัดระยอง จึงได้มีอิทธิพลและบทบาทเพิ่มมากขึ้นในการหนุนและทำทุกวิถีทางให้เกิดการทำเหมืองหินปูนและโรงโม่หินในพื้นที่ ทั้งยังเป็นน้องเขยของนายคุ้ม (นามสมมุติ) ปัจจุบันอาศัยอยู่บ้านโชคชัย ม.8

.

2. นายคุ้ม (นามสมมุติ) เป็นคู่เขยด้วยกันกับนายสุนา และยังเป็นเพื่อนสนิทกับนายประคอง ซึ่งมาสนิทสนมกันมากขึ้นจากการพยายามผลักดันการทำเหมืองหินปูนและโรงโม่หินร่วมกัน ปัจจุบันอาศัยอยู่บ้านโชคชัย ม.12 และประกอบอาชีพเกษตรกร

.

3. นายรุน (นามสมมุติ) เป็นเพื่อนสนิทกับนายประคอง แต่มารู้จักกับนายสุนาในภายหลังจากการพยายามผลักดันการทำเหมืองหินปูนและโรงโม่หินร่วมกัน และมีลูกน้อง คือ นายแก่น (นามสมมุติ) ที่คอยปล่อยข่าวต่างๆ นานา และสร้างสถานการณ์ก่อกวนชาวบ้านฝ่ายค้านเหมือง ปัจจุบันอาศัยอยู่บ้านโชคชัย ม.12 และประกอบอาชีพเกษตรกร

.

4. นายอำคา (นามสมมุติ) เป็นญาติห่าง ๆ กับนายรุน เคยเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านโชคชัย ม.12 แต่โดนไล่ออกจากตำแหน่ง และมีลูกน้องคนสนิท คือ นายคำสิง (นามสมมุติ) อาศัยอยู่บ้านโชคชัย หมู่ 8

.

5. นายเงาะ (นามสมมุติ) เป็นคนงานเหมืองหินปูน เคยเช่าที่ดินเสี่ยเมืองอุดรธานีทำนามาก่อนตั้งแต่ยังไม่ได้ตั้งเหมืองหินและโรงโม่ ปัจจุบันอาศัยอยู่บ้านนาเจริญ ม.11

.

ซึ่งมีตัวละครเบื้องหลังเดิมที่ก่อการสู่การสังหารแกนนำคัดค้านเหมืองหินปูน 4 ศพแรก ยังคงมีอิทธิพลและบทบาทสำคัญมาจนถึงปัจจุบันชัดเจน และยังติดต่อประสานงานกันมาโดยตลอด ซึ่งในอดีตนายประคอง (นามสมมติ) ได้ร่วมมือกันกับนายจวง (นามสมมติ) อดีตสหายพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) ร่วมกันจัดหามือปืนในพื้นที่ลอบยิงกำนันทองม้วน คำแจ่ม และนายสม หอมพรมมา จากการที่ต่างฝ่ายต่างก็ได้รับผลประโยชน์จากเสี่ยไฮ้เช่นกัน ภายหลังจากที่นายประคองลดบทบาทและไปทำมาหากินที่ระยอง นายสุนาก็ขึ้นมามีอิทธิพลแทนอย่างรวดเร็วจากการเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลดงมะไฟถึง 2 สมัย และพยายามหนุนเหมืองหินปูนและโรงโม่หินด้วยการปลอมแปลงเอกสารผลักดันจนเกิดเหมืองหินปูนและโรงโม่หินในที่สุด จนได้รับฉายาว่า เสี่ยไฮ้เจ้าของเหมือง สุนาเจ้าของโรงโม่

.

ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้เป็นกลุ่มที่อยู่เบื้องหลังการก่อตัวของความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ขณะนี้ และกำลังทำให้สถานการณ์ความรุนแรงไต่ระดับขึ้นเรื่อย ๆ จากการหาเป้า ล็อกเป้า สู่การชี้เป้าในที่สุด

.

เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2563 เวลาประมาณ 06.18 . ได้มีชายวัยกลางคนไม่ทราบชื่อ ขับรถจักรยานยนต์ Honda click 125i สีน้ำเงิน ป้ายทะเบียน คพย 951 .อุดรธานี มาจอดตรงบริเวณหน้าสถานที่ชุมนุม และเข้ามาพูดจาข่มขู่คุกคามกับชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ฯ ว่า ใครให้มาชุมนุม ใครเป็นคนหนุนหลังให้มาชุมนุมอยู่ตรงนี้ เดี๋ยวจะมาพังสถานที่ชุมนุม รื้อเต้นท์ และหากไม่หยุดชุมนุมก็จะมีคนตายอีกต่อมาเวลาประมาณ 08.33 . ชายคนดังกล่าวได้ขับรถจักรยานยนต์คันเดิมมาวนเวียนรอบบริเวณถนนหน้าสถานที่ชุมนุมอีกถึง 3 รอบ โดยต่อมาทราบว่า ชายคนดังกล่าวเป็นคนบ้านดงมะไฟ ม.1 เป็นคนงานร้านวัสดุก่อสร้างในพื้นที่ที่มาซื้อหินจากเหมืองไปขายต่อ

.

เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2563 เวลาประมาณ 19.00 . นายออ (นามสมมติ) คนงานเหมืองหินปูน ได้มาก่อกวนชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ฯที่บริเวณหน้าสถานที่ชุมนุม ทั้งยังพูดจาก่อกวนถามว่า ใครเป็นแกนนำ ใครให้มาชุมนุมโดยทางชาวบ้านกล่าวว่า ไม่มีแต่นายออก็ยังไม่ยอมกลับบ้านและนั่งอยู่บริเวณด้านหน้าที่ชุมนุม ซึ่งพอนายเลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ กำลังจะเดินทางกลับที่พักเพื่อไปทำธุระส่วนตัวและได้ขับรถยนต์ออกไป นายออจึงขับรถจักรยานยนต์ตามไปด้วย โดยได้ขับรถจักรยานยนต์เบียด ปาดหน้า พร้อมทั้งบีบแตรใส่รถยนต์ของนายเลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์

.

เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2563 เวลาประมาณ 10.00 . นายเลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ ได้ถูกบุกประชิดตัวถึงหน้าบ้านพักอาศัย โดยนายเงาะเดินเข้ามายืนประกบทางด้านหลังของนายเลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ ขณะที่กำลังทำความสะอาดรถยนต์อยู่ ซึ่งไม่มีการทักทายใด ๆ ก่อนเข้ามาหาและยังมีท่าทีคุกคามผิดวิสัย ซึ่งสร้างความตกใจแก่นายเลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ เป็นอย่างมาก โดยมาทราบภายหลังว่านายเงาะเป็นคนงานเหมืองหินปูนด้วย

.

และในวันเดียวกัน เวลาประมาณ 16.00 . นายแสวง (นามสมมุติ) คนงานเหมืองหิน ได้มาแฝงตัวในสถานที่ชุมนุม เพื่อสืบข่าว ตรวจสอบสถานที่ชุมนุม และนับจำนวนคนมาร่วมชุมนุม โดยมีการมองหน้าชาวบ้านทุกคนและพูดคุยกับชาวบ้านบางส่วนก่อนเดินทางกลับไป

.

เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2563 ชาวบ้านกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิด 6 หมู่บ้านรอบเหมืองทองคำ จ.เลย ได้รับโทรศัพท์ติดต่อมาจากนายอ่วม (นามสมมุติ) ซึ่งโทรศัพท์ไปบอกชาวบ้านว่า วันที่ 25 .. 63 นี้ อย่าให้พี่น้องนาหนองบงมาร่วมชุมนุมกับกลุ่มอนุรักษ์ฯ เพราะมีการจ้างมือปืนสั่งเก็บแกนนำที่เป็น NGO แล้ว

.

เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2563 นายขาว (นามสมมติ) ชวนเพื่อนอีกคนหนึ่ง เดินทางไปหาเสี่ยไฮ้ที่อําเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่จับสังเกตลักษณะความผิดปกติและความไม่น่าไว้วางใจของนายขาวมาเนิ่นนานแล้ว

.

เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2563 เวลาประมาณ 15.37 . นายสุริยา (นามสมมติ) ได้บุกมาบ้านพักอาศัยชั่วคราวของนายเลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ พร้อมทั้งพกพาอาวุธปืนมาด้วย และพยายามเดินสำรวจรอบ ๆ บ้านถึง 3 รอบ และได้พยายามสอดส่องเข้ามาในตัวบ้านลักษณะเหมือนกำลังมองหาใครอยู่ ซึ่งในวันดังกล่าวนายเลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ ไม่ได้พักอยู่ที่นั้นพอดี โดยทางเจ้าของบ้านได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สุวรรณคูหา เพื่อให้ดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป ซึ่งก่อนที่นายสุริยาจะขึ้นรถตำรวจไปได้กล่าว มันหลอกกูให้มาโดนจับตั๋วนิ

.

เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2563 เวลาประมาณ 13.50 . นายอ่วมได้โทรศัพท์หานายเลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ ถามว่า ได้เข้าไปชุมนุมกับนักศึกษาที่สนามหลวงด้วยไหมโดยนายเลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ ได้ตอบว่า ไม่ได้ไปด้วยซึ่งนายอ่วมก็วางสายทันทีโดยไม่ได้ถามอะไรเพิ่มเติม

.

เมื่อคืนวันที่ 21 กันยายน 2563 เวลาประมาณ 15.00 . เวลาประมาณ 20.26 . นายขาวได้มานั่งสังเกตการณ์และจับตาความเคลื่อนไหวของนายเลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ ที่สถานที่ชุมนุมหน้าถนนทางเข้าเหมือง ซึ่งในขณะเดียวกันได้มีข่าวในพื้นที่ว่า กำนันประคองได้กลับมาจากระยองแล้วและกำลังนั่งกินเหล้ากับเพื่อนอยู่บ้านนาไร่ ซึ่งนายขาวได้มานั่งอยู่ประมาณ 10 นาที และเดินทางกลับออกไปทางบ้านนาเจริญ และมีข่าวลือในพื้นที่อีกว่า นายประคองจะกลับมาลงนายก อบต.ดงมะไฟ อีกครั้ง