ThaiNGO team support only thaingo.org and thaingo.in.th.

เว็บไซต์ที่ทีมงาน thaingo ดูแลคือ thaingo.org และ thaingo.in.th เท่านั้น

Back

สู้ไม่ถอย! ชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ฯ ยื่นหนังสือค้านเหมือง 4 เรื่สู้ไม่ถอย! ชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ฯ ยื่นหนังสือค้านเหมือง 4 เรื่องในวันเดียวองในวันเดียว

สู้ไม่ถอย! ชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ฯ ยื่นหนังสือค้านเหมือง 4 เรื่สู้ไม่ถอย! ชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ฯ ยื่นหนังสือค้านเหมือง 4 เรื่องในวันเดียวองในวันเดียว

23 September 2020

1173

 

 

          วานนี้ (10 กันยายน 63) ในเวลาประมาณ 11.00 น. ตัวแทนชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนเขาเหล่าใหญ่-ผาจันได กลุ่มแรกได้เข้ายื่นหนังสือ ต่อนายจรูญ วิริยะสังวร นายอำเภอสุวรรณคูหา จังหวัดหนองบัวลำภู ณ ที่ว่าการอำเภอสุวรรณคูหา จำนวน 2 ฉบับ ซึ่งประกอบด้วย ฉบับที่ 1 หนังสือขอให้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและสภาพพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ประโยชน์หรืออยู่อาศัยในเขตป่าสงวน ของนายธีรสิทธิ์ ตรีวัฒน์สุวรรณ หมดอายุการขอใช้พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเพื่อทำเหมืองแร่ และฉบับที่ 2 หนังสือขอให้กำกับดูแลการปฏิบัติหน้าที่ของสภาองค์การบริหารส่วนตำบลดงมะไฟ ให้เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมายอย่างเคร่งครัด และไม่ให้มีการนำวาระการพิจารณาการต่อใบอนุญาตเข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในเขตป่าสงวนฯ และพิจารณาการต่อใบอนุญาตประทานบัตร เพื่อทำเหมืองแร่เข้าสู่วาระการประชุม

          โดยตัวแทนชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ฯ ได้ทำการอ่านเนื้อในหนังสือฉบับที่ 1 ซึ่งมีใจความสำคัญว่า ในวันที่ 3 กันยายน 63 ใบอนุญาตให้ใช้ป่าสงวนเพื่อทำเหมืองแร่ของนายธีรสิทธิ์ ตรีวัฒน์สุวรรณ ได้หมดอายุลง ซึ่งทำให้บริษัท ธ.ศิลาสิทธิ จำกัด ไม่สามารถใช้พื้นที่ดังกล่าวเพื่อประกอบกิจการเหมืองแร่ หรือกิจกรรมอื่นได้อีกต่อไป และในวันที่ 24 กันยายน 63 จะเป็นวันที่ใบประทานบัตรสิ้นอายุ ซึ่งจะทำให้ใบอนุญาตปลูกสร้างอาคารเกี่ยวกับการทำเหมืองหรือจัดตั้งสถานที่เพื่อการแต่งแร่นอกเขตประทานบัตรสิ้นอายุลงไปด้วยตามเงื่อนไขท้ายใบอนุญาตแต่งแร่นอกเขตประทานบัตร และเมื่อสิทธิในการแต่งแร่สิ้นสุดลง สิทธิในการได้รับอนุญาตให้ใช้พื้นที่ป่าสงวนเพื่อทำเหมืองแร่ในส่วนของโรงโม่หินย่อมหมดลงเช่นกัน จึงขอให้มีคำสั่งให้ผู้ประกอบการขนย้ายเครื่องจักรและอุปกรณ์ทั้งหมดที่ยังคงเหลืออยู่ในเขตแต่งแร่ออกจากพื้นที่ภายในวันที่ 24 กันยายน 63

          จึงขอให้หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ที่จะต้องลงมาตรวจสอบพื้นที่ว่ามีการปฏิบัติตามเงื่อนไขท้ายคำขออนุญาตใช้พื้นที่ป่าสงวนหรือไม่ หรือมีการกระทำผิดตามข้อร้องเรียนหรือไม่ กลุ่มอนุรักษ์ฯ จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มีหน้าที่ตรวจสอบพื้นที่หลังการทำเหมืองแร่ มาร่วมกับทางกลุ่มอนุรักษ์ฯ ตรวจสอบพื้นที่ร่วมกัน

          และเนื้อหาในหนังสือฉบับที่ 2 ซึ่งมีใจความว่า กลุ่มอนุรักษ์ฯ ได้ทราบข้อมูลจากประกาศอำเภอสุวรรณคูหาเรียกประชุมสภา อบต. ดงมะไฟ สมัยสามัญ ครั้งที่ 1/2563 ประจำปี 2563 ในวันศุกร์ที่ 11 กันยายน 2563 เวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุมสภา อบต.ดงมะไฟ ซึ่งกลุ่มอนุรักษ์ฯ มีข้อกังวลว่า อาจมีการนำวาระการพิจารณาและลงมติต่ออายุประทานบัตรเข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในเขตป่าสงวนฯ เพื่อทำเหมืองหินปูน และการต่ออายุประทานบัตรทำเหมืองหินปูนอุตสาหกรรมชนิดหินปูน (เพื่ออุตสาหกรรมก่อสร้าง) ตามประทานบัตร 27221/15393 ของบริษัท ธ.ศิลาสิทธิ จำกัด บรรจุเข้าสู่สภาองค์การบริหารส่วนตำบลดงมะไฟอีกครั้ง เพื่อเอื้อประโยชน์ให้บริษัทดำเนินการทำเหมืองแร่หินปูนต่อไปให้ได้ จึงขอให้กำกับดูแลการประชุมสภาฯ ให้เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมายและไม่ให้มีการนำวาระการพิจารณาดังกล่าวเข้าสู่การประชุมสภาฯ อย่างเด็ดขาด

          ทั้งนี้หลังจากที่นายจรูญ รับหนังสือจากชาวบ้านทั้ง 2 ฉบับ ก็ได้กล่าวว่า “เรื่องของการประชุมสภา อบต. ดงมะไฟ สมัยสามัญ ครั้งที่ 1/2563 ประจำปี 2563 ในวันศุกร์ที่ 11 กันยายน 2563 ไม่ต้องกังวล เพราะสภา อบต.ดงมะไฟขอขยายเวลาเพื่อประชุม 3 เรื่อง คือ (1) การพิจารณาร่างข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ประจำปี 2564 (2) พิจารณาร่างธรรมนูญสุขภาพตำบลดงมะไฟ (3) พิจารณาจ่ายขาดเงินสะสม และ (4) โอนงบประมาณตั้งจ่ายรายการใหญ่ ส่วนเรื่องให้มีคำสั่งให้ผู้ประกอบการขนย้ายเครื่องจักรและอุปกรณ์ทั้งหมดที่ยังคงเหลืออยู่ในเขตแต่งแร่ออกจากพื้นที่ภายในวันที่ 24 กันยายน 63 ทางอำเภอไม่มีอำนาจสั่ง แต่จะทำหนังสือส่งให้บริษัทให้”

          ขณะเดียวกันในเวลา 11.30 น. ตัวแทนชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ฯ อีกส่วนหนึ่งประมาณ 10 คน ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือขอให้คืนคำขอต่ออายุประทานบัตรที่ 27221/15393 และคำขออนุญาตเข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยภายในป่าสงวนแห่งชาติ ของนายธีรสิทธิ์ ตรีวัฒน์สุวรรณ ต่อสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดหนองบัวลำภู ณ ศาลากลางจังหวัดหนองบัวลำภู โดยนายนิราศ เทียมวงศ์ หัวหน้ากลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม ได้เป็นตัวแทน นายอุทัย สอนเทศ อุตสาหกรรมจังหวัดหนองบัวลำภู มารับหนังสือกับชาวบ้าน

          โดยตัวแทนกลุ่มอนุรักษ์ฯ ได้อ่านหนังสือ มีเนื้อหาใจความว่า เนื่องจากกลุ่มอนุรักษ์ฯ ได้ทราบข้อมูลว่านายธีรสิทธิ์ ตรีวัฒน์สุวรรณ ได้มีการยื่นคำขออนุญาตเข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งเป็นการยื่นคำขอภายใต้ระเบียบกรมป่าไม้ ว่าด้วยการอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2548 แต่เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าหลักฐานที่แสดงว่าได้รับความเห็นชอบจากสภาตำบลที่ท้องที่ป่านั้นตั้งอยู่ พบมูลความผิดว่ามีการลงมติที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายจริง จึงไม่อาจนำมติดังกล่าวไปใช้เป็นหลักฐานแนบประกอบการยื่นคำขอได้อีกต่อไป ดังนั้นต้องมีการคืนคำขอต่ออายุการใช้พื้นที่ป่าสงวนฯ ของนาย ธีรสิทธิ์ ตรีวัฒน์สุวรรณ เพื่อให้มีการเริ่มกระบวนการใหม่ตามระเบียบกฎหมายใหม่ ให้ถูกต้องครบถ้วน

          ซึ่งหลังจากที่นายนิราศ รับหนังสือกับชาวบ้านก็ได้กล่าวว่า “จะรับไว้พิจารณา”

          หลังจากนั้นชาวบ้านก็ได้ไปยื่นหนังสือเรื่องดังกล่าว ต่อผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดหนองบัวลำภู แต่เนื่องจากผู้อำนวยการติดธุระราชการที่ต่างจังหวัด ชาวบ้านจึงทำการยื่นหนังสือต่อนายกิตติกูล แก้วเปรม เจ้าพนักงานป่าไม้อาวุโส แทน ซึ่งก่อนที่ตัวแทนชาวบ้านจะทำการอ่านเนื้อหาในหนังสือ นายกิตติกูลได้ขอถ่ายบัตรประชาชนชาวบ้านทุกคนแต่ชาวบ้านบอกว่าไม่ให้ แต่นายกิตติกูลก็ยังคงพยายามถามชื่อ-นามสกุลของชาวบ้านทุกคนอีกครั้งซึ่งชาวบ้านก็ยืนยันว่าไม่ให้เพราะเป็นสิทธิส่วนบุคคล และหลังจากที่นายกิตติกูลรับหนังสือกับชาวบ้านแล้วก็พูดว่า “เมื่อไรเราจะเลิกสักที เขาก็เลิกแล้ว ใบอนุญาตเขาก็หมดแล้ว เครื่องจักรเขาก็ย้ายไปที่เขตโรงโม่แล้ว เขาไม่ได้ขุดแร่ขุดหินแล้ว พอเขาจะเอาออกพวกเราก็ไม่ให้เอาออก หินเขาก็ไม่ทำอยู่แล้วเพราะใบอนุญาตหมดอายุ และประทานบัตรจะหมดวันที่ 24 เขาก็ทำไม่ได้แล้ว” ชาวบ้านจึงได้โต้แย้งว่า “จะให้เลิกได้ยังไง ถ้าเขาเลิกจริงก็ต้องมีเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษรว่าจะไม่มีการทำเหมืองในพื้นที่อีกต่อไป ตอนนี้ในพื้นที่โรงโม่ก็ยังมีรถแม็คโครถึง 4 คัน เขาต้องเอาออก ที่ผ่านมาเราขอให้เอาเครื่องจักรออกให้หมดแต่บริษัทไม่ยอมเอาออก พวกเราจะสู้จนถึงที่สุดจนกว่าจะเอาเครื่องจักรออกจากพื้นที่จนหมด และผู้ประกอบการต้องมาทำสัญญากับชาวบ้านว่าจะไม่มีการต่ออายุประทานบัตร ไม่มีการทำเหมืองในพื้นที่อีกต่อไป เพื่อปิดเหมืองถาวร”

          ต่อมาในเวลา 12.30 น.ชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ฯ ก็ได้เดินทางไปยังหน้าห้องผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อยื่นหนังสือขอเป็นผู้ดูแลพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเก่ากลอยและป่านากลาง แทนบริษัท ธ.ศิลาสิทธิ จำกัด หรือ นายธีรสิทธิ์ ตรีวัฒน์สุวรรณ ที่หมดอายุใบอนุญาตเข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติ เพื่อฟื้นฟู บำรุงรักษา และพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตามพระราชบัญญัติป่าชุมชน พ.ศ. 2562 แต่เนื่องจากผู้ว่าราชการจังหวัดติดราชการที่ต่างจังหวัดชาวบ้านจึงทำการยื่นหนังสือต่อเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดหนองบัวลำภูแทน และได้ยื่นหนังสือในเรื่องเดียวกันนี้ต่อผู้อำนวยการศูนย์ป่าไม้จังหวัดด้วยเช่นกัน

          จากการสัมภาษณ์ความรู้สึกของตัวแทนกลุ่มอนุรักษ์ฯ ที่ได้เข้าไปยื่นหนังสือต่อหน่วยงานราชการในวันนี้ หลายคนตอบว่ารู้สึกไม่พอใจในท่าทีของหน่วยงานราชการ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ ทรัพยากรธรรมธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดหนองบัวลำภู นายกิตติกูล แก้วเปรม ป่าไม้อาวุโส ที่มีท่าทีที่ไม่ดีต่อชาวบ้านทุกครั้งที่มายื่นหนังสือร้องเรียน และแสดงอาการไม่พอใจต่อชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ฯ ทุกครั้ง โดยเฉพาะครั้งนี้ที่มีความพยายามจะขอตรวจบัตรประชาชนโดยอ้างว่าไม่คุ้นหน้า การพูดเข้าข้างผู้ประกอบการให้ชาวบ้านเลิกคัดค้าน และท่าทีคุกคามตัวแทนที่ไปยื่นหนังสือด้วยการพูดจาขอเบอร์โทรศัพท์ติดต่อส่วนตัว ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ไม่สมควรอย่างยิ่งในฐานะข้าราชการ ซึ่งทางกลุ่มอนุรักษ์ฯ จะทำการร้องเรียนถึงพฤติกรรมไม่เหมาะสมดังกล่าวต่อไป

Recent posts