Advertisement

Banner 600x250 px

Advertise with us

ThaiNGO team support only thaingo.org and thaingo.in.th.

เว็บไซต์ที่ทีมงาน thaingo ดูแลคือ thaingo.org และ thaingo.in.th เท่านั้น

Back

ก้าวสู่ปีที่ 60 แอมเนสตี้ยืนหยัดเคียงข้างผู้ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน

ก้าวสู่ปีที่ 60 แอมเนสตี้ยืนหยัดเคียงข้างผู้ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน

16 June 2020

1853

 

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลคือขบวนการของคนธรรมดามากกว่า 8 ล้านคนทั่วโลก ที่ร่วมกันสร้างความเปลี่ยนแปลงด้านสิทธิมนุษยชน เพื่อสังคมที่เท่าเทียมและยุติธรรมสำหรับทุกคน

"แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล" ยืนหยัดทำงานรณรงค์เพื่อสิทธิมนุษยชนมายาวนานก้าวเข้าสู่ปีที่ 60 แม้ว่าโลกของเราทุกวันนี้มีความรุนแรง ความอยุติธรรม และการเอารัดเอาเปรียบเกิดขึ้นไม่เว้นแต่ละวัน แต่แอมเนสตี้ยังคงมุ่งมั่นทำงานเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงและเป็นแรงบันดาลใจให้กับทุกคนที่ต้องการเห็นสังคมที่เท่าเทียมและยุติธรรมสำหรับทุกคน โดยยึดหลักการตาม "ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน" (Universal Declaration of Human Rights-UDHR) ซึ่งเป็นข้อตกลงที่สหประชาชาติได้กำหนดขึ้นเพื่อให้ประเทศสมาชิกได้ใช้เป็นแนวทางในการคุ้มครองดูแลสิทธิและเสรีภาพของพลเมืองประเทศของตน โดยประเทศไทยเป็นหนึ่งในนั้น

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เกิดขึ้นได้อย่างไร?

ย้อนกลับไปเกือบ 60 ปีที่แล้ว ปีเตอร์ เบเนสัน ทนายชาวอังกฤษ อ่านหนังสือพิมพ์พบเรื่องเกี่ยวกับนักศึกษาชาวโปรตุเกสสองคนถูกจับเข้าคุกเนื่องจากชูแก้วฉลองเสรีภาพในบาร์ เรื่องนี้ได้สร้างความสะเทือนใจให้กับเขาเป็นอย่างมาก จึงเขียนจดหมายถึงหนังสือพิมพ์ The Observer เพื่อเรียกร้องให้ผู้อ่านสนใจความอยุติธรรมนี้ หนังสือพิมพ์ได้ตีพิมพ์บทความชื่อ นักโทษที่ถูกลืมและได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม ภายในหนึ่งเดือนผู้อ่านนับพันได้เขียนจดหมายสนับสนุนการรณรงค์ของปีเตอร์ เบเนสัน

หลังจากนั้นจึงค่อยๆ กลายเป็นการรวมตัวของกลุ่มคนธรรมดาหลากหลายสาขาอาชีพ ที่ไม่สามารถนิ่งเฉยต่อความอยุติธรรม การละเมิดสิทธิมนุษยชนที่เกิดขึ้นไม่ว่าในที่ใดของโลก และลุกขึ้นมาปฏิบัติการในแนวทางที่แต่ละคนถนัดในการรณรงค์ เพื่อส่งเสริมการเคารพ ปกป้องและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน กลายเป็นขบวนการด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศในนาม แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลมาจนถึงทุกวันนี้

ช่วยเหยื่อ-คนถูกละเมิดเส้นทางสิทธิมนุษยชน เจ้าของรางวัลโนเบลสันติภาพ

28 พฤษภาคม 2563 ครบรอบ 59 ปี การยืนหยัดทำงานข้างเคียงสิทธิมนุษยชนของแอมเนสตี้ทั่วโลก โดยองค์กรเคยได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ เมื่อ พ.ศ. 2520 จากการรณรงค์ต่อต้านการทรมานโดยเจ้าหน้าที่รัฐ ปัจจุบันมีสมาชิกและผู้สนับสนุนกว่า 8 ล้านคน ใน 150 ประเทศทั่วโลกและดินแดน

ปิยนุช โคตรสาร ผู้อำนวยการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย เล่าว่า แอมเนสตี้เป็นที่รู้จักในเมืองไทย หลังเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 จากการรณรงค์ปลดปล่อย นักโทษทางความคิดมีจดหมายนับแสนฉบับจากคนทั่วโลกส่งมาถึงรัฐบาลไทยและสำนักราชเลขาธิการเพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวนักศึกษาและประชาชนที่ถูกจับกุมในเหตุการณ์ดังกล่าว ปัจจุบันในประเทศไทยมีสมาชิกกว่า 1,000 คน โดยได้ดำเนินกิจกรรมส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจ และการรณรงค์เพื่อปกป้อง คุ้มครองและส่งเสริมสิทธิมนุษยชนอย่างกว้างขวาง

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลยืนหยัดทำงานก้าวเข้าสู่ปีที่ 60 แล้ว เพื่อปกป้องคุ้มครองสิทธิมนุษยชน โดยมุ่งหวังให้คนทุกเพศ ทุกวัย ทุกชาติพันธุ์ ได้รับความเสมอภาค มีสิทธิเสรีภาพ และดำรงชีวิตอยู่อย่างมีศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์โดยเท่าเทียมกัน ภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศและปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน เพื่อมุ่งหวังให้คนทุกคนอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างสันติสุข

ปิยนุชเล่าต่อว่า  เราเน้นการทำงานปกป้องนักปกป้องสิทธิมนุษยชน สิทธิมนุษยชนศึกษา ต่อต้านการทรมาน และเรื่องผู้ลี้ภัย ส่วนเรื่องโทษประหารชีวิตทำมานานแล้ว แต่ส่วนใหญ่ทำงานร่วมกับภาครัฐ นอกจากนั้นยังรณรงค์เพื่อช่วยปลดปล่อยนักโทษทางความคิดหรือผู้เผชิญความเสี่ยงจากการถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนทั่วโลก ที่ผ่านมาเราได้รับการสนับสนุนกิจกรรมด้วยดีจากสมาชิก นักกิจกรรม และอาสาสมัครเพื่อช่วยกันสร้างสังคมที่มีวัฒนธรรมในการเคารพสิทธิซึ่งกันและกันให้เกิดขึ้นจริงในสังคมของเรา

แอมเนสตี้เป็นองค์กรที่อยู่ได้ด้วยสมาชิกและผู้บริจาค เราไม่รับเงินจากรัฐบาลหรือกลุ่มผลประโยชน์ใดในการทำงานรณรงค์ต่อต้านการละเมิดสิทธิมนุษยชน เพื่อคงไว้ซึ่งความเป็นอิสระในการทำงาน โดยมีกรรมการจากสมาชิกซึ่งเป็นคนทั่วไปมากำกับดูแลทิศทางองค์กรและกำหนดยุทธศาสตร์แต่ละปีที่เปลี่ยนตามเทรนด์สถานการณ์สิทธิมนุษยชน โดยมีงานวิจัยและรายงานสถานการณ์สิทธิมนุษยชนเป็นฐานหลักในการทำงานรณรงค์ โดยระยะหลังมีการปรับยุทธศาสตร์หันมาทำเรื่องสิทธิมนุษยชนศึกษาในไทยมากขึ้น เพื่อให้คนเรียนรู้การเคารพสิทธิซึ่งกันและกัน

สำหรับปีนี้แอมเนสตี้ให้ความสำคัญเรื่องสิทธิในเสรีภาพการแสดงออกและการชุมนุุม เราทำงานและทำกิจกรรมทั่วโลก เพื่อให้มั่นใจว่า เสรีภาพในการแสดงออกและสิทธิในการชุมนุมโดยสงบของประชาชนจะได้รับการคุ้มครอง เรารณรงค์เพื่อเรียกร้องให้ปลดปล่อยนักโทษทางความคิดทั่วโลก ที่ถูกจำคุกเพียงเพราะแสดงออกอย่างสงบในสิ่งที่พวกเขาเชื่อหรือเพื่อปกป้องสิทธินั้น พวกเราทำงานกับนักข่าว อาจารย์ ผู้นำชุมชน เจ้าหน้าที่รัฐบาล นักศึกษา และนักกิจกรรมทั่วโลก เพื่อให้มั่นใจว่า พวกเขาจะสามารถพูด คิด และเขียน เพื่อธำรงความถูกต้อง ความยุติธรรม เสรีภาพ และสิทธิมนุษยชน ปิยนุชกล่าวทิ้งท้าย

 

รู้ไว้ใช่ว่า

โลโก้ของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล มีลักษณะเป็นรูปเปลวเทียนลุกโชนบนแท่งเทียนที่ถูกล้อมด้วยลวดหนามซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความหวังท่ามกลางขวากหนามทั้งปวง เป็นการยืนหยัดภายใต้การทำงานที่ว่า จุดเทียนดีกว่าก่นด่าความมืด

 
 

 

**********
 
เนาวรัตน์ เสือสอาด
หัวหน้าฝ่ายสื่อสารองค์กร
Naowarat Suesa-ard
Media and Communications Supervisor

Recent posts