ThaiNGO team support only thaingo.org and thaingo.in.th.

เว็บไซต์ที่ทีมงาน thaingo ดูแลคือ thaingo.org และ thaingo.in.th เท่านั้น

Back

ศรีสุวรรณชี้ไฟฟ้าแพงเพราะ ก.พลังงานฝ่าฝืน รธน.มาตรา 56 วรรคสอง

ศรีสุวรรณชี้ไฟฟ้าแพงเพราะ ก.พลังงานฝ่าฝืน รธน.มาตรา 56 วรรคสอง

29 April 2020

1259

 

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่ ผู้ตรวจการแผ่นดินได้มีคำวินิจฉัยเมื่อวันที่ 1 ก.ค.2562 ที่เสนอแนะให้กระทรวงพลังงานปรับแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ พ.ศ.2561-2580 หรือ PDP2018 เพื่อให้รัฐมีสัดส่วนการผลิตไฟฟ้า 51% ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 56 วรรคสอง  โดยให้พิจารณาตามข้อเสนอแนะภายใน 120 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้งผล และดำเนินการให้รัฐมีสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าไม่น้อยกว่า 51% ภายใน 10 ปี นับจากปี 2562 นั้น

การดำเนินการดังกล่าวมีความล่าช้ามาก เพราะปัจจุบันไทยยังมีกำลังการผลิตกระแสไฟฟ้าทั้งประเทศสูงถึง 45,595 เมกะวัต์ โดยที่เป็นสัดส่วนที่ กฟผ. ผลิตได้เพียง 15,424 เมกะวัตต์ หรือประมาณ 33.83 % เท่านั้น ส่วนเอกชนมีปริมาณการผลิตมากถึง 30,171 เมกะวัตต์ หรือ 66.17 % ทำให้มีไฟฟ้าสำรองมากเกินจำเป็น ซึ่งเป็นเหตุให้รัฐบาลผลักภาระค่าใช้จ่ายในการซื้อไฟฟ้าจากภาคเอกชนที่สำรองอยู่เป็นจำนวนมาก มาให้ผู้ใช้ไฟฟ้าทุกครัวเรือนต้องร่วมกันจ่ายผ่านค่า FT นั่นเอง ซึ่งหากไม่สามารถลดสัดส่วนลงมาได้ สัดส่วนที่เกินไปกว่า 18% ดังกล่าวลงมาได้ รัฐบาลต้องไม่ผลักภาระมาให้ประชาชนต้องร่วมกันจ่าย แต่ควรที่จะต้องให้นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ผู้บริหาร สนพ.  กรรมการ กพช. และคณะกรรมการ กกพ. ทุกคนที่ดำรงตำแหน่งตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน 2560 (วันที่ประกาศใช้รัฐธรรมนูญ 2560) เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบันเป็นผู้รับผิดชอบแทน

การที่ยังคงอนุมัติอนุญาตให้เอกชนผลิตไฟฟ้าจนเกินไปกว่าที่กฎหมายกำหนดนั้น เชื่อว่าเป็นเจตนาที่จะเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชนโดยชัดแจ้ง ซึ่งอาจเข้าข่ายการทุจริตต่อหน้าที่ ซึ่งกรณีดังกล่าว แม้ผู้ตรวจการแผ่นดินได้มีคำวินิจฉัยออกมาว่าเป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ2560 ม.56 วรรคสอง มานานแล้ว แต่ก็ยังไม่เห็นความคืบหน้าแต่อย่างใด ดังนั้น ควรที่จะต้องเอาผิดบุคคลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ หรือปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวล่าช้าเกินสมควร ซึ่งทางที่ดีที่สุดคือ การรื้อสัญญาโรงไฟฟ้าเอกชนทั้งหมดในส่วนที่ดำเนินการไปแล้วนำมาเกลี่ยให้ไม่เกิน 49% ตามรัฐธรรมนูญจึงจะชอบ

หรือการเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าของรัฐไม่น้อยกว่า 51% นั้นอาจทำได้อย่างรวดเร็ว เพียงแค่นำบริษัทลูกของ กฟผ. อาทิ RATCH และ GPSC และ ปตท. กลับมามีสัดส่วนของหุ้นเกิน 51% แค่นี้ก็จะทำให้สัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจาก 33.83 % เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 51% ได้ไม่ยากเลย โดยไม่ต้องไปรอให้มีการสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ๆเข้ามาในระบบ ที่จะทำให้มีต้นทุนการผลิตไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะเป็นช่องทางในการผลักภาระค่าใช้จ่ายมาให้ประชาชนผ่านค่า FT ในทุกๆบิลค่าไฟนั่นเอง นายศรีสุวรรณ กล่าวในที่สุด

Recent posts