ขบวนการคนรุ่นใหม่ "อีสาน" ผมว่ามันเริ่มเห็นเด่นชัดเมื่อ 10 ปีที่แล้ว และส่วนหนึ่ง ผมเอง ก็ได้ทำงานตรงนั้น แม้ไม่ใช่คนทำงานเชิงแนวคิดโดยตรง แต่ก็มีส่วนในการเติมสีสัน บรรยากาศในเชิงกิจกรรม สร้างมุมมองในเรื่องประสบการณ์ทางสังคมและข้อเท็จจริง ให้คนหนุ่มสาวสมัยนั้น

 

วันนี้ รากฐานทางความคิดกำลังฝังตัว เติบโตเงียบๆ ในขบวนการคนหนุ่มสาว จากรุ่นสู่รุ่น และขยับขับเคลื่อนไหว เป็นขบวน มีทิศทางร่วม และมีเป้าหมายชัดเจน คือ การเมือง

 

ผลพวงมาจาก การรวมศูนย์ และการทำตัวเป็นเจ้าอาณานิคม "รัฐชาติ" ของศูนย์กลาง ผลักไสให้คน ตจว. เป็นคนอื่น ไม่เป็นไทย ถูกระแวง ถูกข่มขู่คุกคาม และ ที่สำคัญ ไม่ถูกยอมรับ ในบทบาท ฐานะ ตัวตนในทางการเมือง เด็กๆพวกนี้ หลายคน พ่อแม่หลายคน เป็นคนเสื้อแดง กลุ่มคนที่มีประสบการณ์ตรง ทางการเมือง อันเจ็บปวด เมื่อครั้งถูกล้อมสังหารโดยรัฐ เมื่อ 10 ปีก่อน

 

สำหรับอิฐ ก้อนหนึ่ง อย่างผม ที่เกษียณตัวเอง มาเป็นเกษตรกร ก็ได้แต่ตื่นตาตื่นใจ กับปรากฎการณ์ ขบวนการคนหนุ่มสาว เหล่านี้ ที่มีมุมมอง วิธีการ เคลื่อนไหวเผยตัวตน ได้หลากหลายแยบยล

 

ยิ่งเมื่อครั้งเลือกตั้งที่ผ่านมา ยังได้เห็นบทบาทคนหนุ่มสาวหลายคน ขยับมาเป็นเรี่ยวแรงสำคัญในการตั้งพรรคคนรุ่นใหม่ และลงสนามการเมือง จริงๆจังๆ แม้ว่าจะยังไม่ชนะขาด แต่ก็ปลุกใจคนรุ่นใหม่ให้เทคะแนนถล่มทลาย

 

จากนี้ไปหน้า การเมืองไทย จะไม่เหมือนเดิม ซึ่งก็อยากรู้ ว่า กติกาสูงสุด ที่ร่างซ่อนกลเกมแบ่งแยก กีดกัน และวางหลุ่มพรางไว้กำจัด กำราบมากมาย จะทัดทานพลังคนหนุ่มสาวเหล่านี้ ได้สักกี่น้ำ

 

ศึก ครั้งนี้แม้พึ่งเริ่มต้น แต่เข้มข้นขึ้นทุกวัน ผมเริ่มเป็นคนแก่เหมือนผู้มีอำนาจในขณะนี้ หรือพวกมนุษย์นกหวีด สุดโต่ง ก็เริ่มแก่เช่นกัน แต่ผม นั้นรู้เสมอว่าใครจะชนะ และผมเลือกฝั่งคนหนุ่มสาว ถึงพวกเขาอาจจะแพ้ ด้วยเล่ห์กล ชั่วช้า ในวันนี้ แต่พวกเขาจะชนะด้วย วัยและไฟหนุ่ม ในวันหน้า แน่นอน...

 

ฟันธง!!!