ThaiNGO team support only thaingo.org and thaingo.in.th.

เว็บไซต์ที่ทีมงาน thaingo ดูแลคือ thaingo.org และ thaingo.in.th เท่านั้น

Back

แถลงการณ์ คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคใต้ (กป.อพช.ใต้) เรื่อง ขอให้เร่งดำเนินคดีข่มขู่คุกคามนักปกป้องสิทธิชุมชน ด้วยความเป็นธรรม

แถลงการณ์  คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคใต้ (กป.อพช.ใต้)  เรื่อง ขอให้เร่งดำเนินคดีข่มขู่คุกคามนักปกป้องสิทธิชุมชน ด้วยความเป็นธรรม

12 November 2019

1790

แถลงการณ์

คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคใต้ (กป.อพช.ใต้)

เรื่อง ขอให้เร่งดำเนินคดีข่มขู่คุกคามนักปกป้องสิทธิชุมชน ด้วยความเป็นธรรม

ตามที่นายเอกชัย อิสระทะ ซึ่งเป็นนักพัฒนาเอกชน และยังดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) ทั้งระดับภาคใต้และระดับชาติ และยังเป็นนักปกป้องสิทธิชุมชนที่ทำงานด้านสิ่งแวดล้อมมาอย่างยาวนาน ถูกคนกลุ่มหนึ่งควบคุมตัวและนำไปกักขังไว้ในที่แห่งหนึ่ง จนต้องสูญเสียอิสรภาพ พร้อมกับได้ยึดเครื่องมือสื่อสาร รถยนต์ และทรัพย์สินทั้งหมดที่นำติดตัวมา อันถือเป็นการกระทำที่อุกอาจเป็นอย่างมาก และไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง

เหตุการณ์ดังกล่าวนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2562 ณ มัสยิดแห่งหนึ่งของตำบลคลองใหญ่ อำเภอป่าบอน จังหวัดพัทลุง ซึ่งเป็นสถานทีจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นการขอประทานบัตรทำเหมืองแร่ของบริษัทสิงห์ศิลาทอง ที่จัดขึ้นตามการประกาศของเจ้าพนักงานอุตสาหกรรมแร่ประจำท้องที่จังหวัดพัทลุง ซึ่งมีผู้เข้าร่วมประชุมจำนวนหนึ่ง จึงถือได้ว่าสถานที่ดังกล่าวเป็นที่สาธารณะของชุมชน และการเข้ารับฟังความคิดเห็นในเวทีดังกล่าวนั้นได้เปิดกว้างให้กับประชาชนผู้มีส่วนได้เสียสามารถเข้าไปแสดงความคิดเห็นได้ ซึ่งเป็นไปตามความในใบประกาศของเจ้าพนักงานอุตสาหกรรมแร่ประจำท้องที่จังหวัดพัทลุง ที่ดำเนินการภายใต้พระราชบัญญัติแร่ พ.ศ.2560 มาตรา 56 ส่วนของนายเอกชัย อิสระทะ มีความประสงค์ที่จะเข้าไปสังเกตการณ์ในเวทีดังกล่าว แต่กลับถูกชายฉกรรจ์เกือบ 20 คน เข้าประกบและควบคุมตัวนำไปกักขังไว้ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งในอำเภอป่าบอน จังหวัดพัทลุง พร้อมกันนี้ได้ข่มขู่ว่าจะไม่รับรองความปลอดภัยหากนำเรื่องนี้ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และในเหตุการณ์เดียวกันนี้ยังมีการกักกันตัวกลุ่มนักข่าวจากหลายสำนักที่จะเข้าไปทำข่าวในเวทีดังกล่าว จนทำให้สูญเสียอิสรเสรีภาพในการทำหน้าที่  ซึ่งหลังจากนั้นนักข่าวกลุ่มนี้ได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนกับผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุงไปแล้ว

                คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคใต้ขอประณามการกระทำดังกล่าว ด้วยถือเป็นการกระทำที่ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง และยังเป็นการคุกคามกับนักปกป้องสิทธิชุมชนที่มีบทบาทด้านการอนุรักษ์คุ้มครองสิ่งแวดล้อมระดับภาคใต้ และระดับประเทศอย่างรุนแรงอีกเหตุการณ์หนึ่ง พร้อมกับห่วงกังวนต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนายเอกชัย อิสระทะ และครอบครัว ที่กำลังถูกคุกคามเพิ่มขึ้นหลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวนั้น

จึงขอเรียกร้องให้หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง ภายใต้การบริหารงานของรัฐบาลชุดนี้ออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมกันนี้ขอให้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เร่งดำเนินการกับคดีนี้อย่างรวดเร็วและตรงไปตรงมา เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างอีกต่อไป ทั้งนี้พวกข้าพเจ้าจะขอติดตามความคืบหน้าต่อเรื่องนี้อีกครั้งในอีก 7 วันข้างหน้า

จึงแถลงมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน

 

คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคใต้ (กป.อพช.ใต้)

แถลง ณ สำนักงานตำรวจภูธรภาค 9 (จังหวัดสงขลา)

วันที่ 13 สิงหาคม 2562

 

 

แถลงการณ์

ต้องดำเนินคดีกับผู้ทำความผิดอย่างเด็ดขาด

และพิจารณายกเลิกการขอประทานบัตรเหมืองแร่หินอุตสาหกรรมชนิดหินปูนของบริษัท สิงห์ศิลาทอง จำกัด

 

ตามที่นายเอกชัย อิสระทะ เลขาธิการคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.)ได้ถูกชายฉกรรจ์จำนวนหนึ่งบังคับควบคุมให้ขึ้นรถยนต์ไปกักขังไว้ ณ สถานที่แห่งหนึ่ง พร้อมทั้งได้ยึดโทรศัพท์มือถือ รถยนต์ บัตรประจำตัวประชาชน และเมื่อปล่อยตัวแล้วยังข่มขู่ห้ามไม่ให้แจ้งความดำเนินคดี ไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับโครงการทำเหมืองหินนี้อีกต่อไป มิเช่นนั้นจะไม่รับรองความปลอดภัยของนายเอกชัยและครอบครัว ทั้งนี้ เพื่อขัดขวางไม่ให้เข้าร่วมเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชนของสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดพัทลุง เพื่อประกอบการพิจารณาคำขอประทานบัตรเหมืองแร่หินอุตสาหกรรมของบริษัทสิงห์ศิลาทอง จำกัด เมื่อวันที 5 สิงหาคม 2562 ณ มัสยิดอัสซอลีฮีน หมู่ที่ 4 ตำบลคลองใหญ่ อำเภอตะโหมด จังหวัดพัทลุง และวันนี้นายเอกชัย อิสระทะ ได้แจ้งความกับกองบังคับการตำรวจภูธรภาค 9 (สงขลา) เพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำผิดดังกล่าว นั้น

สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน(สสส.) และมูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา(มสพ.) เห็นว่าการข่มขู่ คุกคาม การยึดทรัพย์สิน และการบังคับกักขังนายเอกชัย เป็นการกระทำที่อุกอาจไม่ยำเกรงต่อกฎหมายบ้านเมือง เป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพในชีวิตที่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายและรัฐธรรมนูญ เป็นการสกัดยับยั้งการใช้สิทธิเสรีภาพการมีส่วนร่วมสาธารณะของนักปกป้องสิทธิมนุษยชน ซึ่งรัฐต้องมีหน้าที่ในการปกป้องคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ และตามปฏิญญาแห่งสหประชาชาติว่าด้วยนักปกป้องสิทธิมนุษยชน” (The UN Declaration on Human Rights Defenders) ที่รัฐไทยมีพันธกรณีต้องปฏิบัติตาม  อีกทั้งภาคธุรกิจเอกชนต้องเคารพสิทธิเสรีภาพในชีวิต และสิทธิการมีส่วนร่วมที่ได้รับรองไว้ตามกฎหมายและตามรัฐธรรมนูญ จึงมีข้อเรียกร้อง ดังนี้

1.ขอให้นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้กำกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติสั่งการให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเร่งดำเนินคดีกับผู้ทำความผิดตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดไม่ปล่อยให้คนทำผิดลอยนวล เพื่อปกป้องคุ้มครองสิทธิในชีวิตและสิทธิการมีส่วนร่วมสาธารณะของนายเอกชัยและประชาชน

         2.ขอให้พิจารณายกเลิกคำขอประทานบัตรโครงการเหมืองแร่หินอุตสาหกรรมชนิดหินปูน (เพื่ออุตสาหกรรมก่อสร้าง) ของบริษัท สิงห์ศิลาทอง จำกัด ในพื้นที่หมู่ที่ 4 ตำบลคลองใหญ่ อำเภอตะโหมด จังหวัดพัทลุง หากมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำที่ละเมิดสิทธิเสรีภาพในชีวิต และสิทธิการมีส่วนร่วมตามกฎหมายละรัฐธรรมนูญ ทั้งอาจไม่ได้ปฏิบัติตามหลักการความรับผิดชอบต่อสังคมของกิจการเกี่ยวกับการเคารพสิทธิมนุษยชนและการปฏิบัติต่อแรงงานอย่างเป็นธรรม

 

                                                   ด้วยความเคารพในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และสิทธิมนุษยชน

                                                        สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน (สสส.)

                                                    มูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา(มสพ.)

                                                                           13 สิงหาคม 2562

Recent posts