• Home
• Content
• หวั่นซ้ำรอยขนแร่ด้วยอำนาจเถื่อนปี 57​ ชายฉกรรจ์ผมเกรียนอ้างเป็นตำรวจมาเจรจาซื้อแร่กับชาวบ้าน

หวั่นซ้ำรอยขนแร่ด้วยอำนาจเถื่อนปี 57​ ชายฉกรรจ์ผมเกรียนอ้างเป็นตำรวจมาเจรจาซื้อแร่กับชาวบ้าน

1721

ชาวบ้านกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิด 6 หมู่บ้านรองเหมืองทองคำ ต.เขาหลวง อ.วังสะพุง จ.เลย หวั่นเกิดเหตุการณ์ลักลอบขนแร่เถื่อนซ้ำรอยเดิม ปี 2557

วันนี้ (10 ก.ย. 62) เวลาประมาณ 14.30 น. ได้มีชายฉกรรจ์ จำนวน 5 คน เดินทางด้วยรถปิ๊กอัพ 2 คัน เข้ามาในพื้นที่บ้านนาหนองบง ต.เขาหลวง อ.วังสะพุง จ.เลย โดยอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจค้นบ้านสมาชิกกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิด 6 หมู่บ้านคนหนึ่งโดยพลการและไม่มีหมายตรวจค้น และข่มขู่ว่าจะดำเนินคดี

ซึ่งเวลาต่อมาได้เดินทางไปพบผู้ใหญ่บ้านนาหนองบง หมู่ 3 โดยไม่ได้มีการแสดงตัวว่าเป็นใคร มาจากไหน หน่วยงานใด ซึ่งได้กล่าวกับผู้ใหญ่ในลักษณะเชิงข่มขู่คุกคามว่า “ให้ชาวบ้านอย่ามาขัดขวางไม่ว่าจะมีการขนถ่ายอะไรออกไปจากเหมืองก็ตาม จะเอาเงินไหม? เดี๊ยวให้เงินคนที่ถูกฟ้องคดีทั้งหมดเลย เอาเท่าไหร่ หัวละแสนพอไหม? ถ้าตกลงจะเอาเงินมาให้พรุ่งนี้เลย ไปบอกพวกแกนนำกับชาวบ้านด้วยว่าให้อยู่เฉยๆ ห้ามทำอะไรทั้งสิ้น ขอเวลาแค่ 4 วันก็ขนเสร็จ ไม่ต้องไปรอเงินจากพิทักษ์ทรัพย์หรอก ขอแค่ห้ามชาวบ้านขัดขวางการขน”

ซึ่งทำให้ผู้ใหญ่บ้านที่ได้ที่ยินดังนั้นเกิดอาการตกใจและเกิดความกังวลต่อการกระทำดังกล่าวของกลุ่มชายฉกรรจ์ที่มาหาถึงที่บ้านพักอาศัย เนื่องจากเหตุการณ์มีความคล้ายคลึงกันกับกรณีการลักลอบขนแร่เถื่อนและทำร้ายชาวบ้าน เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 57

โดยชาวบ้านในพื้นที่ได้เล่าว่า ตลอดระยะเวลา 2-3 เดือนมานี้ พบรถต้องสงสัยเข้ามาขับรถวนเวียนในพื้นที่เป็นระยะๆ ขับรถวนดูรอบหมู่บ้านแล้วก็ออกไป ซึ่งไม่ได้ลงจากรถหรือมาหาญาติพี่น้องที่ไหน รวมทั้งเหตุการณ์แปลกประหลาดต่างๆ นานา เช่น เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 62 มีรถบรรทุก 18 ล้อ จำนวน 2 คัน เข้ามาในหมู่บ้านอ้างว่าจะไปขนแร่แต่มากลับคำพูดบอกว่ามาผิดหมู่บ้าน

และไม่นานมานี้ชาวบ้านในพื้นที่ได้รวมตัวกันไปสำรวจผลกระทบรอบเหมืองทองคำและได้พบเส้นทางเข้า-ออกจากเหมืองทองคำอีกฝั่งหนึ่ง โดยชาวบ้านเรียกกันว่า “เส้นนาดินดำ” และพบกองถุงบิ๊กแบคเป็นจำนวนมากถูกทิ้งอยู่บริเวณดังกล่าว ซึ่งทำให้ชาวบ้านยิ่งเกิดข้อสงสัยและตั้งข้อสังเกตว่า อาจจะมีการสลับสับเปลี่ยนสินแร่ในถุงบิ๊กแบคจริง

นอกจากนี้ยังมีข้อสังเกตอีกว่า ยังมีทรัพย์สินอีกหลายประการในพื้นที่เหมืองทองคำ เช่น โรงแต่งแร่ ห้องปฏิบัติการทดลองต่างๆ ซึ่งมีมูลค่ามหาศาลที่ทางบริษัทต้องการขนย้ายเครื่องมือและอุปกรณ์ออกไปขาย

โดยชาวบ้านได้เฝ้าระวังและพยายามสอดส่องดูรถและบุคคลต้องสงสัยที่เข้าออกพื้นที่หมู่บ้านมากขึ้น เนื่องจากหวั่นเกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเมื่อครั้งวันที่ 15 พ.ค. 57 ที่มีนายทหารสองคนพ่อลูกใช้อำนาจเถื่อนโดยใช้กำลังกลุ่มชายฉกรรจ์กว่า 200 คน เข้าทำการข่มขืนจิตใจและทำร้ายร่างกายชาวบ้านอย่างหนักถึงในพื้นที่ เพื่อลักลอบขนแร่ทองคำ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเหตุการณ์อันเลวร้ายที่สร้างความสะเทือนใจ บอบช้ำ เจ็บแค้นใจ และเจ็บปวดทั้งร่างการและจิตใจให้กับชาวบ้านอย่างถึงที่สุด