8 August 2018
3396
อนาคต อัลอัซฮัร ไทย จากผู้นำวิชาการศาสนาสู่วิชาการสามัญ
อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ)
กรรมการสภาประชาสังคมชายแดนใต้
Shukur2003@yahoo.co.uk, http://www.oknation.net/blog/shukur
https://www.deepsouthwatch.org/node/11502
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตาปรานีเสมอ มวลการสรรเสริญมอบแด่อัลลอฮฺผู้ทรงอภิบาลแห่งสากลโลก ขอความสันติสุขแด่ศาสนทูตมุฮัมมัด และผู้เจริญรอยตามท่าน
ในขณะนักเรียนมัธยมทั่วประเทศกำลังจะศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาในสถาบันต่างๆของประเทศไทย
แต่สำหรับนักเรียนมุสลิมภาคใต้ ดูเหมือนจะมีทางเลือกมากกว่านักเรียนทั่วไปแม้สถาบันอุดมศึกษาด้านวิชาการมุสลิมในประเทศจะมีอยู่เพียง 3 แห่ง เท่านั้น แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะนักเรียนส่วนหนึ่งกำลังหาที่เรียนในต่างประเทศ สถาบันหนึ่งที่นักศึกษามุสลิมใต้ต้องการไปเรียนมากที่สุดคือ มหาวิยาลัยอัลอัซฮัร(AL-Azhar) ประเทศอียิปต์ สถาบันวิชาการศาสนาของโลกมุสลิม ซึ่งก่อตั้งมานานนับพันปี เรียกได้ว่าเก่าแก่กว่ามหาวิทยาลัยอ็อกฟอร์ด ของอังกฤษเสียอีก(โปรดดูรายละเอียดจากผู้เขียนใน http://oknation.nationtv.tv/blog/shukur/2008/05/18/entry-1)
ความเป็นจริงมหาวิทยาลัยแห่งนี้มีการจัดการเรียนทุกสาขาอาชีพรวมทั้งแพทย์และวิศวกรรมศาสตร์เพียงแตกต่างจากที่อื่นคือบูรณาการกับหลักคำสอนศาสนาอิสลามทุกคนต้องท่องพระมหาคัมภีร์กุรอาน วจนะศาสดาจึงทำให้มุสลิมทั่วโลกเช่นกันอยากไปศึกษาที่นี่รวมทั้งนักเรียนไทย
วันที่26-27 กรกฎาคม 2561 ที่โรงแรมเซาเทิร์นวิว ปัตตานี อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี มีการรวมพลคนอัล อัซฮัร กล่าวคือ มีการรวมพลศิษย์เก่า มหาวิทยาลัย อัซฮัรและผู้บริหารโรงเรียนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ผ่านการรับรองวิทยฐานะ (มูอาดาละห์) มหาวิทยาลัยอัลอัซฮัร สาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ จำนวน 250 คนเข้าร่วมในกิจกรรมพัฒนาศักยภาพและเสริมสร้างโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ผ่านการรับรองวิทยฐานะจากมหาวิทยาลัย อัล-อัซฮัร สาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ ประจำปี 2561 จัดโดยสำนักประสานนโยบายการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (ศอ.บต.) เพื่อเพิ่มศักยภาพในด้านการศึกษาต่อต่างประเทศของโรงเรียนที่ผ่านการรับรอง พร้อมทำความเข้าใจและขับเคลื่อนงานด้านทุนการศึกษาในมหาวิทยาลัย อัล-อัซฮัร สาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ ให้โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามในพื้นที่เข้าใจถึงหลักเกณฑ์ ระเบียบบังคับของการสมัครทุนเพื่อง่ายและสะดวกต่อการสมัครรับทุน เพราะในแต่ละปีจะมีเยาวชนจากโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้สมัครทุนจำนวนมากและเป้าหมายที่สำคัญคือระดมสมองเพื่อทราบความต้องการที่แท้จริงว่ามีเรื่องใดบ้าง ซึ่งปรากฎว่ามีมากมายแต่ที่จุดที่ทุกคนเห็นร่วมกันคือสนับสนุนให้โรงเรียนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้หรือทั้งประเทศ ดำเนินการจัดทำใบรับรองวิทยฐานะ (มูอาดาละห์) เพิ่มเติมในด้านสายสามัญ เพื่อความหลากหลายของการศึกษาที่จะกลับมาพัฒนาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้โดยเฉพาะแพทย์ศาสตร์เพราะปีหนึ่งๆมหาวิทยาลัยอัลอัซฮัรมอบทุนการศึกษาด้านนี้แก่เด็กไทยไม่ต่ำกว่าสิบทุนแต่เด็กไทยที่จบสถาบันในประเทศไปเรียนต่อไม่ได้เพราะยังไม่ได้ใบรับรองวิทยฐานะด้านนี้ในขณะที่นักเรียนไทยหากจบจากมาเลเซียไปเรียนต่อได้ (โปรดดูhttp://spmcnews.com/?p=8453)
หากสถาบันต่างๆในประเทศไทยได้รับใบรับรองวิทยฐานะด้านนี้ด้วยจะทำให้นักเรียนไทยสามารถไปต่อมหาวิทยาลัยนี้ไม่ว่าผ่านทุนการศึกษาหรือทุนส่วนตัว ต่อไปนักเรียนไทยจะไปเรียนที่นี่ก็จะไม่ไปเรียนด้านศาสนาอย่างเดียวแต่จะไปเรียนสามัญด้วยเป็นการตอบโจทย์การศึกษาและความมั่นคงรวมทั้งสันติภาพอย่างยั่งยืนเพราะจะช่วยชาติผลิตบุคคลากรในสาขาที่ขลาดแคลนโดยเฉพาะมุสลิมจังหวัดชายแดนภาคใต้
ดังนั้นจึงฝากไปยังศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศอ.บต.) การศึกษาส่วนหน้า กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงต่างประเทศและรัฐบาลไทย อันเป็นหน่วยงานของรัฐประสานไปในนามรัฐบาลไทยกับอียิปต์และมหาวิทยาลัยอัซฮัรก็จะสำเร็จเร็วขึ้น (ซึ่งในอดีตผู้เขียนทราบมีการดำเนินการอยู่แล้วเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมาในนามรัฐบาลไทยกับมหาวิทยาลัยอัลอัซฮัร)
หมายภาพประกอบ
จาก https://www.facebook.com/shukur.dina/posts/10217178748121213