เพื่อสังคมที่เป็นธรรม กับ ประยงค์ ดอกลำไย
นักพัฒนาที่มีอายุงาน 10 หรือ 15 ปี ขึ้นไป น้อยคนนักที่ไม่รู้จักชื่อนี้ “นายประยงค์ ดอกลำไย” นักพัฒนาที่มากประสบการณ์การต่อสู้เรื่องป่าไม้ที่ดิน เรื่องสิทธิ ความเป็นธรรม ผลกระทบจากนโยบายของรัฐ ประยงค์ ดอกลำไย เดินบนเส้นทางนี้มายาวนาน กว่า 25 ปี จากครอบครัวชาวนา สู่รั่วมหาวิทยาลัย ก่อนออกมาผาดโผนชีวิตนักพัฒนา
นายประยงค์ ดอกลำไย เกิดเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม จบการศึกษา ปริญญาตรี คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร เริ่มบ่มเพาะตนเองจากการเป็นนักกิจกรรมในมหาวิทยาลัย จากนั้นผันมาเป็นอาสาสมัคร มอส. ก่อนที่จะลุยงานเต็มตัวในฐานะนักพัฒนา หรือ NGOs ( Non Goverment Organization )
มองทัศนะของหนุ่มใหญ่ ที่กรำเคี่ยวงานมวลชนมายาวนานกว่า 25 ปีนั้น ลุ่มลึก ตรงประเด็น กับรากฐานปัญหาของสังคมไทยอย่างน่าสนใจ อาทิ ประเด็นงานเคลื่อนไหว ประยงค์มองว่า
“ทำอย่างไรให้สาธารณะเข้ามามีส่วนร่วม มีความเชื่อ ว่าขบวนการเคลื่อนไหวของพี่น้อง ประชาชน สามารถใช้ควบคู่กับการเจรจาได้”
“สถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง ซึ่งมีการชุมนุมเคลื่อนไหวทางการเมืองอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2548 มามันทำให้ปัญหาของพวกเราซึ่งเป็นปัญหาความทุกข์ความเดือดร้อนของประชาชนจริงๆ ถูกกลบด้วยกระแสทางการเมือง พื้นที่สาธารณะ พื้นที่ข่าวก็ไม่มี เพราะว่าเวลาชุมนุมเราชุมชนได้แค่หลักพัน ขณะที่การชุมนุมของขั้วทางการเมืองคึกคักมากหลักหมื่นลหักแสน ก็เลยคิดว่าถ้าเราไม่รวมตัวกัน การเคลื่อนไหวของเราก็จะไม่มีพลัง”
เราควรจะร่วมมือการก่อตั้งองค์กรของประชาชนจริงๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวทางการเมือง เอาประเด็นความเดือดร้อนและความไม่เป็นธรรมเป็นตัวหลัก ซึ่งก็มีองค์กรประมาณ 7 องค์กรที่ตกลงร่วมมือกันจัดตั้งองค์กรขึ้นมาใหม่ชื่อว่า ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือ P Move ซึ่งหลักคือเราไม่อยากใช้คำว่า คนจน เพราะพอพูดว่าคนจน ก็จะมีปัญหาขึ้นมาว่า แค่ไหนคือจน คนจนทำไมมีรถปิ๊กอัพ ทำไมมีตู้เย็น คนจนทำไมมีทีวี เพราะฉะนั้นมิติของคนจนในสังคมไทย มันเหมือนว่าต้องเป็นคนที่ไม่มีอะไรเลยถึงจะจน เพราะฉะนั้นชนชั้นกลาง หรือเกษตรกรรายย่อย ที่พอจะมีฐานะ พอมีสตางค์เล็กน้อยก็ถือว่าไม่เป็นคนจน ก็เลยคิดว่าเราควรจะมุ่งเป้าไปที่เรื่องของความเป็นธรรม ทั้งความไม่เป็นธรรมที่เกิดจากผลกระทบจากโครงการของรัฐ และการบังคับใช้กฎหมายของภาครัฐ อันนี้คือหลักของการจัดตั้งขึ้นมา”
ปัจจุบัน ประยงค์ ดอกลำไย ดำรงตำแหน่งสำคัญหลายตำแหน่ง อาทิ
-อนุกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ด้านสิทธิชุมชน
-คณะกรรมการประสานงานจัดให้มีโฉนดชุมชน (ปจช.)
-ที่ปรึกษาขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือ P Move
-ที่ปรึกษาสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ (สกน.)
ส่วนผลงานตลอดชีวิตที่ผ่านมา นั้น ถือว่าโดดเด่นไม่น้อย อาทิ
-ผู้มีส่วนร่วมในการผลักดันให้เกิดการจัดตั้งสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน ในสมัยรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
-ผลักดันนโยบายการจัดการที่ดินโดยชุมชน ในรูปแบบโฉนดชุมชน
-ส่งเสริม สนับสนุน ขยายแนวคิด หลักการบริหารจัดการที่ดินโดยชุมชน จนได้มีชุมชนได้ยื่นขอดำเนินการโฉนดชุมชน ทั้งภาคเหนือ อีสาน กลาง และใต้ จำนวน 435 ชุมชน
-ผลักดันให้เกิดการยกร่างกฎหมายภาคประชาชน 3 ฉบับ คือร่าง พรบ.ภาษีที่ดินอัตราก้าวหน้า, ร่างพรบ.ธนาคารที่ดิน และร่างพรบ.สิทธิชุมชนในการจัดการที่ดินและทรัพยากร
-รางวัลสันติประชาธรรม เป็นผู้อุทิศตนเพื่อสังคม ตามแนวทางอาจารย์ป๋วย อึ้งภากรณ์ เนื่องในงานวันครบรอบ 69 ปี วันสันติภาพไทย 16 ส.ค. 2557
-รางวัลด้านการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน งาน Robinson Bright&Charm Awards 2014
“”””””””””””””””””””””””
คัดมาจาก
http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/506761
http://www.thaicivilsociety.com/?p=content&id_content=60
www.labai.or.th