27 June 2018
821
นัดฟังคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดคดีปู่คออี้และชาวบ้านกะเหรี่ยงแก่งกระจาน
ฟ้องกรมอุทยานแห่งชาติฯ กรณีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานเผาบ้าน รื้อทำลายทรัพย์สิน
พรุ่งนี้ (12 มิถุนายน 2561) เวลา 10.30 น. ขอเชิญร่วมรับฟังคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ในคดีหมายเลขดำที่ ส.58/2555 หมายเลขแดงที่ ส.660/2559 ระหว่าง นายโคอิ หรือคออี้ มีมิ ที่1 กับพวกรวม 6 คน ผู้ฟ้องคดี กับ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ที่ 1 กับพวกรวม 2 คน ผู้ถูกฟ้องคดี จากกรณีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานเผาบ้านเรือนและรื้อทำลายทรัพย์สินของผู้ฟ้องคดีทั้งหก ณ ศาลปกครองกลาง ชั้น 3 ห้องพิจารณาคดีที่ 1
เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2555 นายโคอิ หรือคออี้ มีมิ กับพวกรวม 6 คน ได้ยื่นฟ้องกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 และที่ 2 ตามลำดับ ในฐานะหน่วยงานซึ่งกำกับดูแลอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานและนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เพราะเหตุที่นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานได้เข้ารื้อทำลายเผาบ้านเรือนและทรัพย์สินของนายโคอิ หรือคออี้ มีมิ และชาวไทยเชื้อสายกะเหรี่ยงบริเวณตำบลห้วยแม่เพรียง อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี กว่า 20 ครอบครัว จนได้รับความเสียหายแก่สิทธิ เสรีภาพ ทรัพย์สิน โดยมีบ้านพักอาศัย และยุ้งฉางถูกจุดไฟเผาราว 100 หลัง ตามโครงการขยายผลการอพยพ ผลักดันหรือจับกุมชนกลุ่มน้อยที่บุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ตามแนวชายแดนไทย-พม่า ที่มีชื่อเรียกว่า “ยุทธการตะนาวศรี” และกล่าวหาว่าผู้ฟ้องคดีทั้งหกเป็นชนกลุ่มน้อยที่บุกรุกพื้นที่ตามแนวชายแดนไทย-พม่า อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน โดยไม่ได้มีการดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง สถานะบุคคลตามกฎหมายสัญชาติและกฎหมายทะเบียนราษฎรของผู้ฟ้องคดีทั้ง 6 คน รวมถึงไม่ตรวจสอบพื้นที่ทับซ้อนกับที่ทำกินและที่อยู่อาศัยของกลุ่มคนดั้งเดิมเสียก่อน
วันที่ 7 กันยายน 2559 ศาลปกครองกลางพิพากษาให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้ฟ้องคดีทั้งหกแต่ละคนเป็นเงินคนละจำนวน 10,000 บาท ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่คดีถึงที่สุด คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
วันที่ 6 ตุลาคม 2559 ผู้ฟ้องคดีทั้งหกยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาดังกล่าวต่อศาลปกครองสูงสุด เนื่องจากผู้ฟ้องคดีเห็นว่าคำวินิจฉัยของศาลปกครองกลางยังมีความบกพร่องคลาดเคลื่อน และยังวินิจฉัยไม่ครบประเด็นตามคำฟ้องของผู้ฟ้องคดี ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญต่อการวินิจฉัยในประเด็นคำสั่งทางปกครองของเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 และผู้อยู่ในสังกัดของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 โดยโต้แย้งในประเด็นหลัก ๆ ดังต่อไปนี้
คดีนี้ผู้ฟ้องคดีและเครือข่ายชาติพันธุ์กะเหรี่ยงได้ร้องเรียนขอความช่วยเหลือทางกฎหมายและคดีจากสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์เมื่อปี 2554 สภาทนายความฯ จึงได้แต่งตั้งทนายความเป็นคณะทำงานเพื่อให้ความช่วยเหลือในการฟ้องคดีเป็นคดีนี้
ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ
สมนึก ตุ้มสุภาพ ทนายความ 081-8428754
วราภรณ์ อุทัยรังษี ทนายความ 092-4725511