27 June 2018
1677
ทนายความและองค์กรเครือข่ายติดตามความคืบหน้าคดีวิสามัญฆาตกรรมนายชัยภูมิ ป่าแส
นัดยื่นหนังสือต่อผู้บัญชาการทหารบก เพื่อขอข้อมูลภาพเคลื่อนไหวจากกล้องวงจรปิดเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ทหารยิงนายชัยภูมิ ป่าแส
วันที่ ๑๘ มิถุนายน ๒๕๖๑ เวลา ๑๐.๓๐ น. ณ กองบัญชาการกองทัพบก ถนนราชดำเนินนอก ทนายความและองค์กรเครือข่ายติดตามความคืบหน้าคดีวิสามัญฆาตกรรม ชัยภูมิ ป่าแส จะเข้ายื่นหนังสือต่อผู้บัญชาการทหารบก เพื่อขอข้อมูลภาพเคลื่อนไหวจากกล้องวงจรปิดเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ทหารยิงนายชัยภูมิ ป่าแส
นายชัยภูมิ ป่าแส นักกิจกรรมเยาวชนชาติพันธุ์ลาหู่ ถูกทหารสังกัดกองร้อยทหารม้าที่ ๒ บก. ควบคุมที่ ๑ หน่วยเฉพาะกิจกรรมทหารม้าที่ ๕ ที่ตั้งจุดตรวจค้นยาเสพติดบริเวณด่านตรวจบ้านรินหลวง ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ยิงเสียชีวิตเมื่อวันที่ ๑๗ มีนาคม ๑๕๖๐ โดยเจ้าหน้าที่อ้างว่านายชัยภูมิมียาเสพติดและต่อสู้ขัดขวาง และจะใช้อาวุธระเบิดขว้างใส่เจ้าหน้าที่ทหาร จึงทำให้เจ้าหน้าที่ทหารจำเป็นต้องใช้อาวุธปืนยิงสังหารนายชัยภูมิ จนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย
ในทางคดี พนักงานอัยการจังหวัดเชียงใหม่ได้ยื่นคำร้องขอไต่สวนชันสูตรพลิกศพ (ไต่สวนการตาย) ต่อศาลจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อให้ศาลทำการไต่สวนและทำคำสั่งแสดงว่าผู้ตายคือใคร ตายที่ไหน เมื่อใด และถึงเหตุและพฤติการณ์ที่ตาย เนื่องจากการตายของนายชัยภูมิ ป่าแส เป็นการตายอันเกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ทหารซึ่งอ้างว่าปฏิบัติราชการตามหน้าที่ จึงต้องมีการชันสูตรพลิกศพและไต่สวนการชันสูตรพลิกศพ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๔๘ และ๑๕๐ ศาลจังหวัดเชียงใหม่ได้รับเป็นคดีหมายเลขดำที่ ช.๑๙/๒๕๖๐ โดยมีญาติของนายชัยภูมิ เข้าร่วมเป็นผู้ร้องซักถาม
วันที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๖๑ ศาลจังหวัดเชียงใหม่ได้อ่านคำสั่งไต่สวนการชันสูตรพลิกศพ โดยระบุว่า ผู้ตายคือ นายชัยภูมิ ป่าแส เสียชีวิตเมื่อวันที่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๖๐ถูกยิงจากอาวุธปืนของเจ้าหน้าที่ทหาร และเสียชีวิตบริเวณด่านรินหลวง อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ส่วนพฤติการณ์แห่งการตายที่เจ้าหน้าที่ทหารอ้างว่านายชัยภูมิจะใช้อาวุธมีดและระเบิดทำร้ายเจ้าหน้าหน้าที่ อันเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ทหารจำเป็นต้องใช้อาวุธปืนยิงเพื่อป้องกันตัวหรือไม่นั้น ศาลไม่ได้วินิจฉัยในประเด็นนี้
แม้ศาลจะมีคำสั่งไต่สวนการชันสูตรพลิกศพออกมาแล้ว แต่ความจริงเกี่ยวกับการตายของนายชัยภูมิ ป่าแส ก็ยังคงมีความคลุมเครือ และสร้างความเคลือบแคลงใจให้แก่ฝ่ายญาติผู้ตายอย่างยิ่ง และตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มีประเด็นที่ถูกพูดถึงและเรียกร้องมาตลอดจากทางฝ่ายญาติผู้ตายและสาธารณะชนคือ การขอให้มีการเปิดเผยภาพจากกล้องวงจงปิดในวันเกิดเหตุ รวมถึงขอให้มีการนำภาพจากกล้องวงจรปิดดังกล่าวมาใช้พิสูจน์ความจริงในชั้นไต่สวนการชันสูตรพลิกศพของศาลด้วย แต่จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่ได้มีการเปิดเผยภาพวงจรปิดดังกล่าวแต่อย่างใด
ดังนั้น เพื่อประโยชน์ในการแสวงหาความจริงและความยุติธรรม รวมถึงการเยียวยาจากช่องทางของกระบวนการยุติธรรมและช่องทางอื่นต่อไป ทางญาติผู้ตาย ทนายความและองค์กรที่ติดตามคดี จึงประสงค์ที่จะใช้สิทธิตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของทางราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐ เข้ายื่นหนังสือต่อผู้บัญชาการกองทัพบก ในฐานะหน่วยงานต้นสังกัดของเจ้าหน้าที่ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ในวันเกิดเหตุ เพื่อขอข้อมูลภาพเคลื่อนไหวจากกล้องวงจรปิดทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว
--
สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน (สนส.)
โทรศัพท์ /แฟ๊กซ์ : 02-275 3954
อีเมล์ : hrla2008@gmail.com
www.naksit.net