28 February 2018
1557
ขอบคุณภาพ จาก : PPTV HD 36
ระยะนี้ใครๆ ก็คงต้องยอมรับว่า ข่าวสารบ้านเมืองในแต่ละวันนั้นเต็มไปด้วยเรื่องราวของการสะท้อนปัญหาต่างๆ อันเกิดจากการใช้อำนาจ ท้าทายความสามารถในการบริหารประเทศของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีมากที่สุด สภาวะยามยากมักต้องการความชาญฉลาดในการตัดสินใจ ยิ่งผู้บริหารไม่เข้าใจหรือเข้าไม่ถึงรากปัญหาก็ยิ่งทำให้ต้องเผชิญกับสภาพปัญหารุมเร้า ทุกๆ ด้าน ทั้งจากคนรอบตัวและคนที่มีฐานะทางสังคมเศรษฐกิจ โดยเฉพาะประเด็นหนักๆ อย่าง กรณีเรื่องนาฬิกาของรองนายกฯ ประวิตร วงษ์สุวรรณและล่าสุดกรณีนายเปรมชัย กรรณสูต
ความจริงๆ สังคมไทยเองก็มีความพยายามมาหลายครั้ง เพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงหาทางออกให้กับปัญหาเรื่องสองมาตรฐานในระบบอำนาจรัฐไทยซึ่งเป็นนิติรัฐ หมายถึงบริหารราชการแผ่นดินด้วยกฎหมาย กระนั้น กลับยิ่งแก้ไข ก็ยิ่งพบว่า สังคมไทยเองดำดิ่งถลำลึกผจญอุปสรรคปัญหาพัลวัน จนล้มลุกคลุกคลาน ไม่สามารถจะดำเนินการกับผู้อำนาจทางสังคมเศรษฐกิจได้ตามกฎหมายของรัฐ โดยเฉพาะตัวกลไกรัฐ สำคัญอย่างกระบวนการยุติธรรมเอง ก็ไม่สามารถดำเนินการได้
กระแสความเอือมระอากับสภาพสังคมสองมาตรฐานมีมายาวนาน ที่ชนชั้นนำ และชนชั้นปกครองไทย มักอยู่เหนือกฎหมาย ความอิ่มตัวเอือมระอานี้มากจนถึงขั้นเป็นวาระใหญ่ มาสู่การเคลื่อนไหวเพื่อล้มล้างรัฐบาลที่เชื่อว่า ใช้อำนาจทุนเอื้อผลประโยชน์ และทำลายระบบนิติรัฐ นำมาซึ่งการรัฐประหารถึง 2 ครั้ง และครั้งล่าสุด เมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 โดยคณะของ คสช. และนำโดย พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ซึ่งขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีในเวลาต่อมา ในยามนั้นสร้างความหวังให้มวลมหาประชาชน ชาว กปปส. ผู้ออกหน้ามาเคลื่อนไหวเป่านกหวีดกันเต็มทั่วทองถนน แต่แล้ว 4 ปีเต็มของการก้าวเข้ามามีอำนาจ นอกจากจะแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว ยังพบว่า วัฒนธรรมความสัมพันธ์ทางอำนาจแบบทหาร “ไม่ฆ่าน้อง ไม่ฟ้องนาย ไม่ขายเพื่อน” นั้นก็มีส่วนให้ปัญหาเหล่านี้ยิ่งคงอยู่ พอๆ กับรากฐานสังคมไทยที่ฝังรากลึกเป็นสังคมนิยมอำนาจ เกาะเกี่ยวผลประโยชน์เป็นสังคมอุปถัมภ์ ค้ำชูผู้มีอำนาจกับผู้มีเงิน การคอรัปชั่น การเอาพวกเอาพ้อง กินสินบาทคาดสินบน ยิ่งปรากฎให้เห็นมากขึ้น ในระบอบการปกครองที่ประชาชนตรวจสอบไม่ได้ ใช้สิทธิเสรีภาพเคลื่อนไหวไม่ได้ และที่เลวร้ายกว่านั้นคือ ผู้มีอำนาจออกหน้ามาปกป้องคนผิด ท่ามกลางสายตาประชาชนที่กำลังประนาม
ทุกวี่วัน ประชาชนต้องมารับรู้แต่ข่าวสารจำพวกคอรัปชั่น และการดำเนินกฎหมายที่ไม่เสมอภาค สองมาตรฐาน ทำให้ในเวลานี้กระแสสังคมเริ่มคุกรุ่น เกิดความไม่พึงพอใจรัฐบาลทหารขยายตัวมากขึ้นๆ และแน่นอนความต้องการกลับมาสู่บรรยากาศบ้านเมืองที่ประชาชนมีสิทธิ มีเสรีภาพ ทวีความรุนแรงมากขึ้น และถ้าหากรัฐบาลยังดื้อดึงกระแสการเลือกตั้ง ไปพร้อมๆกับการแก้ปัญหาแบบสองมาตรฐานแบบนี้ อีกไม่นาน รัฐบาลนี้จะจบลงไปพร้อมๆกับชะตานายเปรมชัย!!
อย่าลืมว่าประวัติศาสตร์การเมืองไทยในรอบ 40-50 ปีที่ผ่านมานี้ นั้น ยังไม่เคยมีอะไรทัดทานกระแสประชาชนคนไทยได้ ทุกอำนาจล้วนแต่ล่มสลายด้วยเหตุผลเดียวคือ การบริหารประเทศแบบสองมาตรฐาน!!
อัฎธิชัย ศิริเทศ ทีมงานไทยเอ็นจีโอ
