 
                            24 December 2017
1643
  ณ ตำบลเวียง อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย ห่างจากตัวเมืองเชียงของไม่กี่กิโมเมตร มีบ้านไม้ยกโถงสูงอยู่หลังหนึ่งตั้งอยู่บริเวณเชิงเขา ด้านหนึ่งเป็นฉากภูเขา อีกด้านหนึ่งเป็นแม่น้ำโขง โถงล่างของบ้านไม้นั้นเป็นเสมือนห้องสมุดขนาดย่อมที่ไม่ได้มีแค่หนังสือทั่วไปแต่มีงานวิจัยมากมายเกี่ยวกับแม่น้ำโขง รวมถึงองค์ความรู้ข้อมูลท้องถิ่นต่างๆอย่าง โปสเตอร์สายพันธุ์ปลาและพืชท้องถิ่นในระแวกนั้น หรือ อุปกรณ์จับปลาหลากหลายชนิด อย่าง สุ่ม กระตั้ม และเบ็ดตกปลานานาชนิด ที่แขวนเรียงรายอยู่บริเวณโถงล่างนั้น มีสวนผักขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ในบริเวณพื้นที่นั้น ด้านข้างบ้านหลังนั้นเป็นศาลาไม้ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ไว้สำหรับเด็กๆหรือกลุ่มคนที่เข้ามาใช้สถานที่ทำกิจกรรมหรือเรียนรู้เรื่องราวชาวแม่น้ำโขง คนที่นี่เรียกสถานที่นี้ว่า โฮงเฮียนแม่น้ำของ หรือ สถาบันองค์ความรู้ท้องถิ่นโฮงเฮียนแม่น้ำของ โรงเรียนที่จัดตั้งขึ้นโดยครูตี๋ หรือ นายนิวัฒน์ ร้อยแก้ว ครูใหญ่ของโรงเรียนนี้และกลุ่มรักษ์เชียงของ [caption id="attachment_5778" align="aligncenter" width="900"] ครูตี๋ หรือ นายนิวัฒน์ ร้อยแก้ว และน้องๆ[/caption] สถานที่นี้เป็นสถานที่ในการนัดรวมตัวกันและจัดทำค่ายเรียนรู้ธรรมชาติแม่น้ำโขง หรือ Mekong Nature Camp ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 9-10 ธันวาคม พ.ศ. 2560 โดยกลุ่มเป้าหมายหลักของค่ายคือน้องๆในชุมชนท้องถิ่นระแวกนั้นในช่วงมัธยมต้น-ปลาย วันนี้เรามีโอกาสนั่งพูดคุยกับ เอก หรือ นายเจษฎา ขาวขันธ์ อาสาสมัครอยู่ที่สถาบันองค์ความรู้ท้องถิ่นโฮงเฮียนแม่น้ำของ อ.เชียงของ จ. เชียงราย และเป็นแรงหลักในการจัดกิจกรรมโครงการนี้ขึ้นมา [caption id="attachment_5789" align="aligncenter" width="900"]
 ครูตี๋ หรือ นายนิวัฒน์ ร้อยแก้ว และน้องๆ[/caption] สถานที่นี้เป็นสถานที่ในการนัดรวมตัวกันและจัดทำค่ายเรียนรู้ธรรมชาติแม่น้ำโขง หรือ Mekong Nature Camp ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 9-10 ธันวาคม พ.ศ. 2560 โดยกลุ่มเป้าหมายหลักของค่ายคือน้องๆในชุมชนท้องถิ่นระแวกนั้นในช่วงมัธยมต้น-ปลาย วันนี้เรามีโอกาสนั่งพูดคุยกับ เอก หรือ นายเจษฎา ขาวขันธ์ อาสาสมัครอยู่ที่สถาบันองค์ความรู้ท้องถิ่นโฮงเฮียนแม่น้ำของ อ.เชียงของ จ. เชียงราย และเป็นแรงหลักในการจัดกิจกรรมโครงการนี้ขึ้นมา [caption id="attachment_5789" align="aligncenter" width="900"] เอก หรือ นายเจษฎา ขามขันธ์ อาสาสมัครอยู่ที่สถาบันองค์ความรู้ท้องถิ่นโฮงเฮียนแม่น้ำของและผู้รับผิดชอบโครงการ Mekong Nature Camp [/caption] “ที่มาที่ไปของโครงการนี้เริ่มจากการที่เราไปเข้าค่าย Mekong ICT Camp ที่เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา เมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา คือภายในค่ายเขาก็มีการจัดการประกวดโครงการเพื่อชิงเงินทุนจำนวนหนึ่ง(Seed Grant) ตอนแรกเราก็ลังเลว่าจะส่งดีไหมแต่ก็ได้พี่ๆช่วยและแนะนำให้ลองส่งดูเพราะพื้นที่ที่เราจะทำมันน่าสนใจทั้งด้านวัฒนธรรมและด้านนิเวศวัฒนธรรม สุดท้ายก็ได้เงินทุนกลับมาทำโครงการ”
 เอก หรือ นายเจษฎา ขามขันธ์ อาสาสมัครอยู่ที่สถาบันองค์ความรู้ท้องถิ่นโฮงเฮียนแม่น้ำของและผู้รับผิดชอบโครงการ Mekong Nature Camp [/caption] “ที่มาที่ไปของโครงการนี้เริ่มจากการที่เราไปเข้าค่าย Mekong ICT Camp ที่เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา เมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา คือภายในค่ายเขาก็มีการจัดการประกวดโครงการเพื่อชิงเงินทุนจำนวนหนึ่ง(Seed Grant) ตอนแรกเราก็ลังเลว่าจะส่งดีไหมแต่ก็ได้พี่ๆช่วยและแนะนำให้ลองส่งดูเพราะพื้นที่ที่เราจะทำมันน่าสนใจทั้งด้านวัฒนธรรมและด้านนิเวศวัฒนธรรม สุดท้ายก็ได้เงินทุนกลับมาทำโครงการ”  
  โครงการค่ายเรียนรู้ธรรมชาติแม่น้ำโขง หรือ Mekong Nature Camp เป็นหนึ่งในโครงการที่ชนะการประกวดโครงการชิงเงินทุน ในโครงการ Mekong ICT Camp 2017 โดยการสนับสนุนหลักๆของ มูลนิธิกองทุนไทย, ODC (Open Development Cambodia) และ Emerald Hub เพื่อให้นำเงินทุนมาต่อ ยอดจัดทำโครงการจำนวนทุนละ 3,000 USD
 โครงการค่ายเรียนรู้ธรรมชาติแม่น้ำโขง หรือ Mekong Nature Camp เป็นหนึ่งในโครงการที่ชนะการประกวดโครงการชิงเงินทุน ในโครงการ Mekong ICT Camp 2017 โดยการสนับสนุนหลักๆของ มูลนิธิกองทุนไทย, ODC (Open Development Cambodia) และ Emerald Hub เพื่อให้นำเงินทุนมาต่อ ยอดจัดทำโครงการจำนวนทุนละ 3,000 USD  [caption id="attachment_5779" align="aligncenter" width="900"]
 [caption id="attachment_5779" align="aligncenter" width="900"] คุณ Andy พาน้องๆลงไปเก็บตัวอย่างน้ำมาทดสอบคุณภาพและสัตว์/แมลงหรือสิ่งมีชีวิตในแม่น้ำโขง[/caption] “ถ้าถามว่าทำไมเลือกพื้นที่นี้ ก็เพราะพื้นที่นี้มีความน่าสนใจหลายอย่าง(หมู่บ้านหาดบ้ายและบ้านทรายทอง) ทั้งเรื่องวัฒนธรรมที่หลากหลายและวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์(ไทลื้อ) อาหาร การประกอบอาชีพ และทรัพยากรต่างๆก็อุดมสมบูรณ์  รวมถึงการที่มาเป็นอาสาสมัครอยู่ที่โฮงเฮียนแม่น้ำของซึ่งเป็นเสมือนแหล่งรวมความรู้ท้องถิ่นในเชียงของและมีแนวทางในการสร้างการตระหนักรู้ถึงความสำคัญของความรู้ท้องถิ่นโดยคนในท้องถิ่น เพื่อให้เกิดการอนุรักษ์และพัฒนาพื้นที่อย่างยั่งยืน กิจกรรมในค่ายนี้ใช้เวลา 2 วัน 1 คืน โดยในวันแรกจะเป็นภาคการเรียนรู้โดยมีวิทยากรทั้งจากโฮงเฮียนแม่น้ำโขงอย่าง นายนิวัฒน์  ร้อยแก้ว หรือ ครูตี๋  กับการสนทนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์นิเวศวัฒนธรรม ต่อมาก็เป็นการอบรมการทำแผนที่ทางวัฒนธรรม(Cultural mapping) โดย ดร. บุษบงก์ วิเศษพลชัย ก่อนจะจบกิจกรรมอบรมความรู้ในช่วงเช้ากับคุณ Mr. Andrew  Stone ในหัวข้อกิจกรรมการตรวจวัดคุณภาพน้ำ โดยเด็กๆก็ได้ไปเก็บตัวอย่างน้ำที่แม่น้ำโขงบริเวณโรงเรียนเพื่อมาตรวจสอบคุณภาพของน้ำและตรวจสอบหาสิ่งมีชีวิตต่างๆในน้ำเบื้องต้นอย่าง พวกแมลงหรือสัตว์ตัวเล็กๆเช่น กุ้ง ปู เป็นต้น [caption id="attachment_5781" align="aligncenter" width="900"]
 คุณ Andy พาน้องๆลงไปเก็บตัวอย่างน้ำมาทดสอบคุณภาพและสัตว์/แมลงหรือสิ่งมีชีวิตในแม่น้ำโขง[/caption] “ถ้าถามว่าทำไมเลือกพื้นที่นี้ ก็เพราะพื้นที่นี้มีความน่าสนใจหลายอย่าง(หมู่บ้านหาดบ้ายและบ้านทรายทอง) ทั้งเรื่องวัฒนธรรมที่หลากหลายและวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์(ไทลื้อ) อาหาร การประกอบอาชีพ และทรัพยากรต่างๆก็อุดมสมบูรณ์  รวมถึงการที่มาเป็นอาสาสมัครอยู่ที่โฮงเฮียนแม่น้ำของซึ่งเป็นเสมือนแหล่งรวมความรู้ท้องถิ่นในเชียงของและมีแนวทางในการสร้างการตระหนักรู้ถึงความสำคัญของความรู้ท้องถิ่นโดยคนในท้องถิ่น เพื่อให้เกิดการอนุรักษ์และพัฒนาพื้นที่อย่างยั่งยืน กิจกรรมในค่ายนี้ใช้เวลา 2 วัน 1 คืน โดยในวันแรกจะเป็นภาคการเรียนรู้โดยมีวิทยากรทั้งจากโฮงเฮียนแม่น้ำโขงอย่าง นายนิวัฒน์  ร้อยแก้ว หรือ ครูตี๋  กับการสนทนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์นิเวศวัฒนธรรม ต่อมาก็เป็นการอบรมการทำแผนที่ทางวัฒนธรรม(Cultural mapping) โดย ดร. บุษบงก์ วิเศษพลชัย ก่อนจะจบกิจกรรมอบรมความรู้ในช่วงเช้ากับคุณ Mr. Andrew  Stone ในหัวข้อกิจกรรมการตรวจวัดคุณภาพน้ำ โดยเด็กๆก็ได้ไปเก็บตัวอย่างน้ำที่แม่น้ำโขงบริเวณโรงเรียนเพื่อมาตรวจสอบคุณภาพของน้ำและตรวจสอบหาสิ่งมีชีวิตต่างๆในน้ำเบื้องต้นอย่าง พวกแมลงหรือสัตว์ตัวเล็กๆเช่น กุ้ง ปู เป็นต้น [caption id="attachment_5781" align="aligncenter" width="900"] เด็กๆลงไปสำรวจพื้นที่ทางกายภาพของแม่น้ำโขงกับพี่ๆที่โฮงเฮียนแม่น้ำของ[/caption] [caption id="attachment_5773" align="aligncenter" width="900"]
 เด็กๆลงไปสำรวจพื้นที่ทางกายภาพของแม่น้ำโขงกับพี่ๆที่โฮงเฮียนแม่น้ำของ[/caption] [caption id="attachment_5773" align="aligncenter" width="900"] เด็กๆในชุมชนบ้านหาดบ้ายและบ้านหาดทรายทอง เล่นดนตรีพื้นบ้านและรำพื้นบ้านเป็นการต้อนรับชาวค่าย[/caption]   ก่อนจะพาน้องๆล่องเรือเพื่อไปบ้านหาดบ้ายและบ้านทรายทองซึ่งเป็นที่พักในคืนนี้ของน้องๆ โดยใระหว่างทางก็มีพี่ๆจากโฮงเฮียนแม่น้ำของคอยให้ความรู้ทางประวัติศาสตร์ ทางกายภาพ และตำนาน เรื่องเล่าต่างๆของแม่น้ำโขงอยู่ตลอดทางที่ล่องเรือ เมื่อมาถึงก็ได้แยกย้ายกันไปเข้าบ้านโฮมสเตย์ของชาวบ้านในชุมชนซึ่งเป็นที่พักของน้องๆในคืนนี้ ก่อนจะกลับมารับประทานอาหารเย็นแบบขันโตกตามวัฒนธรรมของคนภูมิภาคทางเหนือของไทยพร้อมกับรับชมการแสดงจากน้องๆในหมู่บ้านอย่างรำไทลื้อและดนตรีไทลื้อประกอบไปด้วย ก่อนจะจบวันและแยกย้ายกันไปพักผ่อนด้วยพิธีบายศรีสู่ขวัญที่ชาวบ้านจัดขึ้นให้กับน้องๆและทีมงานที่เข้ามาพักที่หมู่บ้านนี้ [caption id="attachment_5774" align="aligncenter" width="900"]
 เด็กๆในชุมชนบ้านหาดบ้ายและบ้านหาดทรายทอง เล่นดนตรีพื้นบ้านและรำพื้นบ้านเป็นการต้อนรับชาวค่าย[/caption]   ก่อนจะพาน้องๆล่องเรือเพื่อไปบ้านหาดบ้ายและบ้านทรายทองซึ่งเป็นที่พักในคืนนี้ของน้องๆ โดยใระหว่างทางก็มีพี่ๆจากโฮงเฮียนแม่น้ำของคอยให้ความรู้ทางประวัติศาสตร์ ทางกายภาพ และตำนาน เรื่องเล่าต่างๆของแม่น้ำโขงอยู่ตลอดทางที่ล่องเรือ เมื่อมาถึงก็ได้แยกย้ายกันไปเข้าบ้านโฮมสเตย์ของชาวบ้านในชุมชนซึ่งเป็นที่พักของน้องๆในคืนนี้ ก่อนจะกลับมารับประทานอาหารเย็นแบบขันโตกตามวัฒนธรรมของคนภูมิภาคทางเหนือของไทยพร้อมกับรับชมการแสดงจากน้องๆในหมู่บ้านอย่างรำไทลื้อและดนตรีไทลื้อประกอบไปด้วย ก่อนจะจบวันและแยกย้ายกันไปพักผ่อนด้วยพิธีบายศรีสู่ขวัญที่ชาวบ้านจัดขึ้นให้กับน้องๆและทีมงานที่เข้ามาพักที่หมู่บ้านนี้ [caption id="attachment_5774" align="aligncenter" width="900"] ชาวบ้านหาดบ้ายและบ้านหาดทรายทองจัดบายศรีสู่ขวัญให้กับชาวค่าย[/caption] “รูปแบบกิจกรรมในค่ายเราเน้นไปที่การทำแผนที่ชุมชน ให้น้องๆเรียนรู้การทำแผนที่เดินดิน แผนที่ทางวัฒนธรรม และได้รู้จักกับปราชญ์ในด้านต่างๆของชุมชน ทั้งวัฒนธรรม การเกษตร และอื่นๆ เพื่อที่น้องๆจะสามารถนำไปประยุกต์ทำกับชุมชนตัวเองได้และหวังว่าจะทำให้น้องๆตระหนักรักษ์ชุมชนตัวเองขึ้นมา”
 ชาวบ้านหาดบ้ายและบ้านหาดทรายทองจัดบายศรีสู่ขวัญให้กับชาวค่าย[/caption] “รูปแบบกิจกรรมในค่ายเราเน้นไปที่การทำแผนที่ชุมชน ให้น้องๆเรียนรู้การทำแผนที่เดินดิน แผนที่ทางวัฒนธรรม และได้รู้จักกับปราชญ์ในด้านต่างๆของชุมชน ทั้งวัฒนธรรม การเกษตร และอื่นๆ เพื่อที่น้องๆจะสามารถนำไปประยุกต์ทำกับชุมชนตัวเองได้และหวังว่าจะทำให้น้องๆตระหนักรักษ์ชุมชนตัวเองขึ้นมา”  วันที่สองจะเป็นภาคปฏิบัติ โดยให้น้องๆนำความรู้ที่ได้รับมาในวันแรกทั้งข้อมูลชุมชนและการทำแผนที่ทางวัฒนธรรม มาทำแผนที่ชุมชนจริงๆด้วยตัวเองโดยมีโจทย์และประเด็นที่แตกต่างกันไปในแต่ละกลุ่ม เช่น ทรัพยากรภายในชุมชนและวัฒนธรมในชุมชน เป็นต้น ก่อนจะให้น้องๆนำเสนอข้อมูลที่ตัวเองได้เก็บมาเป็นอันจบกิจกรรมค่ายนี้
 วันที่สองจะเป็นภาคปฏิบัติ โดยให้น้องๆนำความรู้ที่ได้รับมาในวันแรกทั้งข้อมูลชุมชนและการทำแผนที่ทางวัฒนธรรม มาทำแผนที่ชุมชนจริงๆด้วยตัวเองโดยมีโจทย์และประเด็นที่แตกต่างกันไปในแต่ละกลุ่ม เช่น ทรัพยากรภายในชุมชนและวัฒนธรมในชุมชน เป็นต้น ก่อนจะให้น้องๆนำเสนอข้อมูลที่ตัวเองได้เก็บมาเป็นอันจบกิจกรรมค่ายนี้  [caption id="attachment_5791" align="aligncenter" width="900"]
 [caption id="attachment_5791" align="aligncenter" width="900"] เด็กๆลงพื้นที่เก็บข้อมูลเพื่อนำมาสรุปลแะนำเสนอในวันสุดท้ายของค่าย[/caption] [caption id="attachment_5780" align="aligncenter" width="1024"]
 เด็กๆลงพื้นที่เก็บข้อมูลเพื่อนำมาสรุปลแะนำเสนอในวันสุดท้ายของค่าย[/caption] [caption id="attachment_5780" align="aligncenter" width="1024"] เด็กๆนำเสนอข้อมุลในประเด็นต่างๆที่ตนได้รับมอบหมาย[/caption] [caption id="attachment_5793" align="aligncenter" width="1024"]
 เด็กๆนำเสนอข้อมุลในประเด็นต่างๆที่ตนได้รับมอบหมาย[/caption] [caption id="attachment_5793" align="aligncenter" width="1024"] ดร. บุษบงก์ วิเศษพลชัย หรือป้าแมว สรุปสิ่งที่ได้จากการทำกิจกรรมทำแผนที่ทางวัฒนธรรม[/caption] สุดท้าย เอกได้บอกกับเราถึงจุดประสงค์ของการจัดทำค่ายครั้งนี้ขึ้นมาและเราก็เชื่อว่าอย่างน้อยมันต้องไปสะกิดใจเด็กสักคนหรือมากกว่านั้นที่เข้าร่วมค่ายนี้ได้อย่างแน่นอน “จุดมุ่งหมายของการจัดค่ายครั้งนี้คือ อยากให้น้องๆในชุมชน ได้รู้ว่า ธรรมชาติรอบตัวเขามันมีความสำคัญมากต่อตัวเขาแล้วก็สามารถถ่ายทอดออกไปได้ว่าธรรมชาติของเขาสำคัญต่อตัวเขาและชุมชนอย่างไร”
 ดร. บุษบงก์ วิเศษพลชัย หรือป้าแมว สรุปสิ่งที่ได้จากการทำกิจกรรมทำแผนที่ทางวัฒนธรรม[/caption] สุดท้าย เอกได้บอกกับเราถึงจุดประสงค์ของการจัดทำค่ายครั้งนี้ขึ้นมาและเราก็เชื่อว่าอย่างน้อยมันต้องไปสะกิดใจเด็กสักคนหรือมากกว่านั้นที่เข้าร่วมค่ายนี้ได้อย่างแน่นอน “จุดมุ่งหมายของการจัดค่ายครั้งนี้คือ อยากให้น้องๆในชุมชน ได้รู้ว่า ธรรมชาติรอบตัวเขามันมีความสำคัญมากต่อตัวเขาแล้วก็สามารถถ่ายทอดออกไปได้ว่าธรรมชาติของเขาสำคัญต่อตัวเขาและชุมชนอย่างไร”  เหมือนที่สะกิดใจให้เราหันกลับมาถามตัวเองอีกครั้งว่าการพัฒนาจากภายนอกมันคือคำตอบของการเป็นอยู่ของคนในชุมชนเท่ากับการตระหนักรู้และตระหนักรักษ์ในตัวชุมชนของคนในชุมชนเองจริงๆหรอ   สามารถชมภาพกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/MekongNatureCamp/ ขอบคุณภาพจาก: https://www.facebook.com/MekongNatureCamp/ เรียบเรียง: ลักษณพร ประกอบดี
 เหมือนที่สะกิดใจให้เราหันกลับมาถามตัวเองอีกครั้งว่าการพัฒนาจากภายนอกมันคือคำตอบของการเป็นอยู่ของคนในชุมชนเท่ากับการตระหนักรู้และตระหนักรักษ์ในตัวชุมชนของคนในชุมชนเองจริงๆหรอ   สามารถชมภาพกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/MekongNatureCamp/ ขอบคุณภาพจาก: https://www.facebook.com/MekongNatureCamp/ เรียบเรียง: ลักษณพร ประกอบดี