ThaiNGO team support only thaingo.org and thaingo.in.th.

เว็บไซต์ที่ทีมงาน thaingo ดูแลคือ thaingo.org และ thaingo.in.th เท่านั้น

Back

วิกฤตโรฮิงญาในเมียนมาเข้าขั้น “ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์”

วิกฤตโรฮิงญาในเมียนมาเข้าขั้น “ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์”

18 September 2017

1628

แอมเนสตี้ระบุกองกำลังเมียนมา “ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” ชาวโรฮิงญา พบหลักฐานเผาบ้านเรือนมากกว่า 3,300 ตารางกิโลเมตร ตลอดจปล้นสะดมและกราดยิงอย่างเป็นขบวนการ

  แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เชื่อว่าการคุกคามและเข่นฆ่าชาวโรฮิงญาในรัฐยะไข่ของเมียนมาเข้าข่าย “การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” อย่างชัดเจน หลังพบหลักฐานเพิ่มเติมที่ทำให้เชื่อได้ว่ากองกำลังฝ่ายความมั่นคงของเมียนมาเผาบ้านเรือนและโจมตีชาวโรฮิงญาด้วยวิธีต่างๆ อย่างเป็นขบวนการ โดยเฉพาะในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา   จากการวิเคราะห์ข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียม ภาพถ่ายอื่นๆ วิดีโอจากในพื้นที่ และการสัมภาษณ์พยานหลายสิบคนทั้งในเมียนมาและที่หนีข้ามชายแดนมายังบังกลาเทศ แอมเนสตี้พบว่ามีบ้านเรือนในรัฐยะไข่ถูกเผามากกว่า 80 จุด กินพื้นที่ราว 3,300 ตารางกิโลเมตร มีการไล่ทำร้าย ปล้นสะดม และยิงใส่ชาวโรฮิงญา จนถึงตอนนี้ มีชาวโรฮิงญาต้องหลบหนีไปยังบังกลาเทศแล้วอย่างน้อย 370,000 คน ซึ่งไม่รวมประชาชนอีกประมาณ 87,000 คนที่หลบหนีออกมาก่อนหน้านี้แล้วในการคุกคามครั้งก่อนช่วงปลายปี 2559 และต้นปี 2560   แอมเนสตี้คาดว่าขอบเขตความเสียหายอาจกินวงกว้างกว่านี้มาก เนื่องจากมีเมฆหมอกปกคลุมช่วงฤดูมรสุม ทำให้ดาวเทียมไม่สามารถจับภาพเหตุเพลิงไหม้ได้ทั้งหมด และเซ็นเซอร์ของดาวเทียมสำรวจสิ่งแวดล้อมที่แอมเนสตี้ใช้ยังจับภาพได้เฉพาะเหตุเพลิงไหม้ขนาดใหญ่เท่านั้น   หนึ่งในพยานที่แอมเนสตี้ได้สัมภาษณ์คือชายวัย 27 ปีจากอินดิน เขาเล่าว่ากองทัพเมียนมาและประชาชนจำนวนหนึ่งได้เข้ามาล้อมหมู่บ้านของเมื่อวันที่ 25 ส.ค. ที่ผ่านมา ยิงปืนขึ้นฟ้า ก่อนจะบุกเข้ามากราดยิงชาวโรฮิงญาที่กำลังหลบหนี เขาบอกว่าเขาซ่อนตัวอยู่ในป่าใกล้ๆ และมองเห็นทหารยึดหมู่บ้านอยู่สามวัน มีการปล้นสะดม และเผาบ้านเรือน   ด้านพยานวัย 48 ปีจากตอนเหนือของหม่องดอว์เล่าถึงเหตุทหารและตำรวจบุกเข้าไปในหมู่บ้านของเขาเมื่อวันที่ 8 ก.ย. ว่า ตอนที่ทหารบุกเข้ามา พวกเขาเริ่มไล่ยิงคนที่กำลังตกใจและจะวิ่งหนี ผมเห็นทหารยิงใส่คนจำนวนมาก และสังหารเด็กผู้ชายไปสองคน พวกเขาใช้อาวุธสงครามเผาบ้านเรือนพวกเรา เดิมทีหมู่บ้านเรามีกันอยู่ 900 หลัง ตอนนี้เหลือแค่ 80 หลังที่ไม่โดนเผา แต่ไม่มีชาวบ้านเหลืออยู่แล้ว และไม่มีใครทำหน้าที่ฝังศพคนตาย   ชายชาวโรฮิงญาซึ่งหลบหนีจากบ้านของเขาที่เมียวทูจีเล่าคล้ายๆ กันว่า กองทัพเริ่มโจมตีตอน 11 โมงเช้า พวกเขายิงเข้าไปในบ้านและยิงใส่ชาวบ้าน การกราดยิงเกิดขึ้นนานประมาณหนึ่งชั่วโมง หลังจากนั้น ผมเห็นเพื่อนตายอยู่บนถนน ต่อมาตอนประมาณสี่โมงเย็น ทหารเริ่มกราดยิงอีกครั้งหนึ่ง พอชาวบ้านพยายามหนี พวกเขาก็ใช้ระเบิดชวดโจมตีเพื่อเผาบ้านเรือน การเผาบ้านเกิดขึ้นต่อเนื่องไปอย่างนั้นสามวัน ปัจจุบันไม่มีบ้านเหลืออยู่แล้ว บ้านทุกหลังถูกเผาหมด   ด้านทางการเมียนมาได้ออกมาปฏิเสธว่ากองกำลังฝ่ายความมั่นคงไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อเหตุวางเพลิงเหล่านี้ และอ้างว่าชาวโรฮิงญาเป็นผู้จุดไฟเผาบ้านตนเองโดยปราศจากหลักฐานที่น่าเชื่อถือ อย่างไรก็ตาม แอมเนสตี้ได้รับรายงานว่ากลุ่มติดอาวุธชาวโรฮิงญาได้เผาไหม้บ้านเรือนของกลุ่มชาติพันธุ์อื่นๆ ในรัฐยะไข่ด้วยเช่นกัน ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบข้อมูลและหลักฐาน   แอมเนสตี้เรียกร้องให้ทางการเมียนมายุติปฏิบัติโจมตีและเลือกปฏิบัติต่อชาวโรฮิงญาทันที และเริ่มสอบสวนเหตุร้ายต่างๆ เพื่อนำตัวผู้กระทำผิดมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม นอกจากนี้ ประชาคมโลกต้องกดดันออง ซาน ซูจี และผู้นำกองทัพเมียนมามากขึ้น โดยเฉพาะคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติที่จะมีการพูดคุยเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ดังกล่าวเร็วๆ นี้

Recent posts