ThaiNGO team support only thaingo.org and thaingo.in.th.

เว็บไซต์ที่ทีมงาน thaingo ดูแลคือ thaingo.org และ thaingo.in.th เท่านั้น

Back

มารดาและน้องสาวสองคนของนายอนัน เกิดแก้ว ขึ้นเบิกความคดีไต่สวนการตายนายอนัน

มารดาและน้องสาวสองคนของนายอนัน เกิดแก้ว ขึ้นเบิกความคดีไต่สวนการตายนายอนัน

26 June 2017

1437

มารดาและน้องสาวสองคนของนายอนัน เกิดแก้ว ขึ้นเบิกความ                     คดีไต่สวนการตายนายอนัน เกิดแก้ว เสียชีวิตในระหว่างการควบคุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศาลนัดอ่านคำสั่งวันที่ 27 กรกฎาคม 2560   เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2560 ผู้พิพากษาศาลจังหวัดนครราชสีมาออกนั่งพิจารณาไต่สวนพยานฝ่าย มารดาผู้ตาย (ผู้ร้องคัดค้าน) ในคดีหมายเลขดำที่ ช.3/2559 คดีไต่สวนการตายนายอนัน เกิดแก้ว ซึ่งเสียชีวิตในระหว่างการควบคุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนชุดปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา โดยในวันดังกล่าว มารดาและน้องสาวสองคนของนายอนัน เกิดแก้ว ผู้ตาย เป็นพยานขึ้นเบิกความ ต่อศาล ซึ่งทั้งสามได้เบิกความตอบคำถามทนายความมารดาผู้ตาย (ผู้ร้องคัดค้าน) ไปในทำนองเดียวกันได้ความว่า เมื่อประมาณ พ.ศ. 2554 นายอนัน เกิดแก้ว ผู้ตาย เคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจของ ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัสขณะจับกุมและควบคุมตัวจากเหตุเกี่ยวกับยาเสพติด ภายหลังจากนายอนันฯ พ้นโทษจากการถูกจับกุมและควบคุมตัวจากเหตุดังกล่าวก็ได้ดำเนินการร้องเรียนต่อสำนักงานและหน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อขอความยุติธรรมให้กับตน จากเหตุการณ์ที่ตนถูกทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส นอกจากนี้มารดานายอนันฯ ได้เบิกความต่อศาลระบุรายชื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปรากฏในบันทึกการจับกุม เพื่อเป็นหลักฐานที่แสดงว่าการตายของนายอนันฯ ซึ่งสภาพศพมีร่องรอยถูกทำร้ายอย่างหนัก มีเหตุมาจากความโกรธแค้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมและควบคุมตัวไปสอบสวน เนื่องจากเจ้าหน้าที่สืบสวนชุดปราบปรามยาเสพติด ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ที่จับกุมและควบคุมตัวนายอนันฯ ผู้ตาย เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2558 มีจำนวน 2 นาย เป็นคนเดียวกันกับชุดที่ทำร้ายร่างกายนายอนันฯ เมื่อปี พ.ศ. 2554 และถูกนายอนันฯ ร้องเรียนต่อหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อขอความเป็นธรรมและดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดดังกล่าว น้องสาวของนายอนันฯทั้งสองคนเป็นพยานเบิกความในทำนองเดียวกันอีกว่า พวกตนได้ทราบว่า นายอนันฯ ผู้ตาย ถูกจับกุมและควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนชุดปราบปรามยาเสพติด ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายน 2558  โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมนายหนึ่งโทรศัพท์มาแจ้งน้องสาวนายอนันฯ และเมื่อได้ทราบข่าว น้องสาวคนหนึ่งของนายอนันฯ ได้ไปเยี่ยมนายอนันฯ ณ สถานที่ควบคุมตัว แต่ได้พูดคุยโดยตรงกับนายอนันฯ เพียงไม่กี่คำ เพราะส่วนใหญ่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ควบคุมตัวนายอนันฯอยู่หลายคนนั้นเป็นคนพูดให้ฟังในเรื่องสาเหตุการจับกุมนายอนันฯ   สำหรับสถานที่ควบคุมตัวนายอนันฯ นั้น มีลักษณะเป็นบ้านพักข้าราชการตำรวจ และน้องสาวนายอนันฯพยายามขอประกันตัวนายอนันฯ ออกมา แต่ได้รับการปฏิเสธ และเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่าหากนายอนันฯช่วยให้ตำรวจขยายผลไปถึงคนขายยาเสพติดให้นายอนันฯ ก็จะเป็นเหตุให้ลดโทษได้   น้องสาวนายอนันฯ สังเกตเห็นความผิดปกติของพี่ชายว่า นายอนันฯ พูดน้อยมากและเมื่อจะพูดอะไรก็ต้องหันไปดูเจ้าหน้าที่ตำรวจในลักษณะกังวลและหวาดกลัวมาก เห็นนายอนันฯ ได้รับบาดเจ็บปากแตกเล็กน้อย ต่อมาเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2558 มีเจ้าหน้าที่ตำรวจโทรแจ้งน้องสาวนายอนันฯ ว่านายอนันฯ ถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา น้องสาวทั้งสองคนของนายอนันฯ จึงไปเยี่ยมพี่ชายในวันดังกล่าวทันที และเห็นว่าตามเนื้อตัวร่างกายของพี่ชายตนนั้นปรากฎรอยฟกช้ำและบาดแผลทั่วทั้งร่างกาย เปลือกตาของนายอนันฯ บวมช้ำมาก และนัยน์ตาแดงมาก จนทำให้นายอนันฯ ไม่สามารถลืมตาได้ ไม่รู้สึกตัว ต้องใช้เครื่องหายใจ  น้องสาวนายอนันฯ ได้โทรศัพท์แจ้งให้มารดาซึ่งอยู่ที่จังหวัดชลบุรีทราบ ต่อมาเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2558 มารดาของนายอนันฯ ได้เดินทางจากจังหวัดชลบุรีมายังโรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา มาเยี่ยมนายอนันฯ บุตรชายของตน ซึ่งเมื่อตนได้เห็นสภาพของบุตรชายก็คิดว่าบุตรชายของตนน่าจะถูกทำร้ายร่างกาย แพทย์เจ้าของไข้นายอนันฯ ได้พูดคุยกับมารดานายอนันฯ ว่า นายอนันฯ ไม่อาจมีชีวิตรอดต่อไปได้ เนื่องจากศีรษะได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงจนมีเลือดคั่งในสมอง ต่อให้มีการผ่าตัดก็ไม่อาจช่วยให้นายอนันฯ กลับมาได้เหมือนเดิม   ต่อมาเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2558 เวลาประมาณ 11.00 น. นายอนันฯ ได้เสียชีวิตลง ภายหลังจากที่นายอนันฯ เสียชีวิต พยานทั้งสามเบิกความว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ติดต่อกับครอบครัว มอบเงินช่วยเหลือค่าปลงศพจำนวน 10,000 บาท และติดต่อนัดหมายให้มารดากับน้องสาวนายอนันฯ ไปพบถึง3 ครั้ง เพื่อเจรจา โดยจะขอมอบเงินจำนวนหนึ่งให้กับครอบครัวและให้ครอบครัวเซ็นชื่อในหนังสือแสดงเจตนาว่าไม่ติดใจเอาความกับตนและพวกที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของนายอนันฯ  แต่ครอบครัวนายอนันฯ ไม่ตกลงยินยอมตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเสนอ และต่อมาบิดามารดานายอนันฯได้ยื่นฟ้องคดีแพ่ง เรียกค่าเสียหายจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตาม พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539  คดีอยู่ระหว่างพิจารณาของศาลแพ่งกรุงเทพใต้ เมื่อพยานทั้งสามเบิกความตอบคำถามทนายมารดาผู้ตาย (ผู้ร้องคัดค้าน) จนแล้วเสร็จเป็นการไต่สวนหรือสืบพยานในคดีครบถ้วนแล้ว ผู้พิพากษาศาลจังหวัดนครราชสีมาจึงได้กำหนดวัน นัดอ่านคำสั่งคดีดังกล่าว ในวันที่ 27 กรกฎาคม 2560 เวลา 13.30น.   ติดตามเรื่องราวหรือสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับคดีนายอนัน เกิดแก้ว ได้ที่https://voicefromthais.wordpress.com/?s=นายอนัน+เกิดแก้ว     ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อได้ที่ นายปรีดา นาคผิว  ทนายความมูลนิธิผสานวัฒนธรรม โทร 089-6222474

Recent posts