4 May 2017
1135
กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานีจี้ขอคำตอบการยื่นหนังสือคัดค้านโครงการเหมืองแร่โปแตช จ.อุดรธานี ไม่คืบหน้าด้านอุตสาหกรรมจังหวัดแจง เรื่องอยู่ในชั้นศาลไม่ขอก้าวล่วง วันที่ 28มี.ค. เวลา10.00 น. ชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมจังหวัดอุดรธานี จากพื้นที่ ตำบลห้วยสามพาด อำเภอประจักษ์ศิลปาคม และตำบลหนองไผ่ อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี จำนวนกว่า 200คน ได้เดินทางไปยื่นหนังสือนายธนวรรธน์ เลิศสุคนธ์อุตสาหกรรมจังหวัดอุดรธานีโดยมีนายสุชัย บุตรสาระรองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี และน.ส.ศิริกัลยา กิจรักษานายอำเภอประจักษ์ศิลปาคม ให้การต้อนรับกลุ่มชาวบ้านและร่วมรับฟังปัญหาข้อร้องเรียนณ ห้องประชุมกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี โดยนางมณี บุญรอด กรรมการกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี กล่าวว่า จากการที่โครงการเหมืองแร่โปแตช จ.อุดรธานี ได้อ้างว่าผ่านขั้นตอนสุดท้ายของกระบวนการขอประทานบัตรไปแล้วนั้น จึงอยากมาทวงคำตอบหนังสือที่กลุ่มฯ เคยยื่นคัดค้าน และเรียกร้องให้อุตสาหกรรมจังหวัดอุดรธานี ชี้แจงใน 4 ประเด็น ได้แก่ 1.) การคัดค้านการปักหมุดรังวัด และขึ้นรูปแผนที่2.) การคัดค้านการปิดประกาศเขตเหมืองและรายงานในใบไต่สวน ซึ่งชาวบ้านได้รวบรวมรายชื่อกว่า 5,000 รายชื่อ และสำเนาโฉนดที่ดินเกือบ 2,000 แปลง คัดค้านตามขั้นตอนกฎหมายภายใน 20 วัน ซึ่งทั้งสองประเด็นนี้กลุ่มชาวบ้านยื่นคัดค้านตั้งแต่ปี 53-54 ประเด็นที่ 3.) การประชาคมหมู่บ้านในค่ายทหารเป็นการดำเนินการที่ถูกต้องหรือไม่ และ4.) การที่อบต. ห้วยสามพาด เป็นอบต.ในเขตเหมือง มีมติไม่เห็นด้วยต่อการทำโครงการฯ มีผลต่อการขออนุญาตประทานบัตรหรือไม่ อย่างไร “กลุ่มอนุรักษ์ฯ ได้ยื่นคัดค้านในขั้นตอนต่างๆอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจนจากหน่วยงานรัฐและส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง วันนี้จึงได้มายื่นหนังสือเพื่อทวงถามและให้อุตสาหกรรมจังหวัดทำหนังสือชี้แจงภายใน 7 วัน” นางมณีกล่าว ด้านนายธนวรรธน์ เลิศสุคนธ์ อุตสาหกรรมจังหวัดอุดรธานี ได้ชี้แจงว่าตนยินดีที่จะทำเป็นหนังสือตอบข้อเรียกร้องของกลุ่มอนุรักษ์ฯ ซึ่งในเบื้องต้นก็อยากเรียนชี้แจงว่า ในประเด็นที่ 1 คือการปักหมุด รังวัด และขึ้นรูปแผนที่ และประเด็นที่ 2 คือการยื่นคัดค้านการปิดประกาศเขตเหมือง และรายงานในใบไต่สวน ทั้งสองประเด็นนี้เมื่อกลุ่มชาวบ้านเห็นว่าไม่ถูกต้อง จึงได้พากันไปยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง ซึ่ง ณ ปัจจุบันถือว่าอยู่ในการพิจารณาในชั้นศาล ศาลยังไม่ตัดสินออกมาว่าอย่างไร เราจะไม่ก้าวล่วงเข้าไป “ก็ขึ้นอยู่ว่าศาลจะพิจารณาอย่างไร ถ้าศาลพิจารณาแล้วเห็นว่าการปักหมุดรังวัด และการปิดประกาศไม่ถูกต้อง โครงการที่ทำมาจะต้องหยุด คือจบเลย ส่วนประเด็นการประชาคมในค่ายทหารเป็นขั้นตอนดำเนินการของกำนันผู้ใหญ่บ้านที่เขาตกลงร่วมกันว่าจะไปใช้สถานที่ตรงนั้น อุตสาหกรรมเป็นเพียงผู้ไปชี้แจงให้ข้อมูล และประเด็นสุดท้ายคือกรณีมติอบต.ห้วยสามพาดที่ไม่เอาเหมืองทางกพร.(กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่) ก็ได้มีหนังสือมาให้จังหวัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ จังหวัดตรวจสอบเสร็จก็ได้รวบรวมเอกสารส่งไปส่วนกลางแล้ว ซึ่งรายละเอียดในประเด็นทั้งหมดผมจะทำหนังสือชี้แจงพร้อมแนบเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ส่งให้ทางกลุ่มอนุรักษ์ฯ อีกครั้ง”นายธนวรรธน์กล่าว /-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/ นายพงศธร กาพมณีย์ ศูนย์สื่อชุมชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ศสธ.) รายงาน Golf55555gg@gmail.com โทร. 080-4084189