31 December 2016
1587
______
ชัยชนะเงียบๆของประชาชนตัวเล็กๆที่ใช้เวลาประมาณปีครึ่งรวมพลังกันเพื่อคัดค้านโรงไฟฟ้าถ่านหินในเหมืองแร่โปแตชของบริษัทอาเซียนโปแตชชัยภูมิจำกัดล่าสุดคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้านโรงไฟฟ้าพลังความร้อน (คชก.) ได้ประชุมครั้งที่๓๙/๒๕๕๙เมื่อวันที่๓พฤศจิกายน๒๕๕๙เพื่อพิจารณารายงานชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมครั้งที่๑ประกอบการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม (โดยใช้ถ่านหินบิทูมินัสเป็นเชื้อเพลิง) สำหรับโครงการเหมืองแร่โพแทชและเกลือหินอำเภอบำเหน็จณรงค์จังหวัดชัยภูมิของบริษัทอาเซียนโปแตชชัยภูมิจำกัด (มหาชน) ตั้งอยู่ที่ตำบลหัวทะเลอำเภอบำเหน็จณรงค์จังหวัดชัยภูมิจัดทำรายงานฯโดยบริษัททีมคอนซัลติ้งเอนจิเนียริ่งแอนด์แมเนจเมนท์จำกัดมีมติไม่ให้ความเห็นชอบรายงานฯหรือ EIA ดังกล่าว
เป็นการมีมติไม่ให้ความเห็นชอบ EIA ดังกล่าวเป็นรอบที่สองหลังจากที่คชก. เคยมีมติไม่ให้ความเห็นชอบ EIA ดังกล่าวมาแล้วรอบหนึ่งเมื่อคราวประชุมครั้งที่๑๗/๒๕๕๙เมื่อวันที่๒๖พฤษภาคม๒๕๕๙ที่ผ่านมา
การมีมติไม่ให้ความเห็นชอบรอบที่สองนี้คชก. ได้ระบุชัดลงไปว่า“ถือว่าเป็นการจบกระบวนการพิจารณา EIA”
ทั้งนี้หากบริษัทฯ‘ไม่เห็นด้วย’ กับความเห็นของคชก. ก็มีสิทธินำคดีไปสู่ศาลปกครองภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้ง
แต่กรณีที่บริษัทฯ‘เห็นด้วย’ กับคำสั่งของคชก. และต้องการเสนอ EIA ใหม่ก็ไม่ตัดสิทธิที่จะเสนอ EIA ที่ได้ทำการแก้ไขเพิ่มเติมทั้งฉบับให้คชก. พิจารณาให้ความเห็นชอบซึ่งกรณีนี้จะกลับสู่กระบวนการพิจารณา EIA ใหม่ตามมาตรา๔๘และ๔๙แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติพ.ศ. ๒๕๓๕
โดย EIA ที่จะเสนอเข้าสู่กระบวนการพิจารณาใหม่ตามมาตรา๔๘และ๔๙ของกฎหมายสิ่งแวดล้อมคชก. ได้กำหนดให้บริษัทฯต้องทำการแก้ไขเพิ่มเติมตามแนวทางหรือรายละเอียดที่คชก. กำหนดเอาไว้ทั้งหมด๑๒๖ประเด็นด้วย
ซึ่งมีหลายประเด็นที่ความเห็นของคชก. สอดคล้องกับประเด็นที่ชาวบ้านยกขึ้นมาต่อต้านคัดค้านเช่นประเด็นเรื่องการแย่งน้ำอุปโภคบริโภคจากชุมชนที่ให้แก้ไขเพิ่มเติมถึง๓๕ประเด็นเป็นต้น
ประเด็นเรื่องการแย่งน้ำจากภาคการเกษตรกรรมเป็นข้อห่วงกังวลสำคัญอีกข้อหนึ่งของชาวบ้านซึ่งโดยปกติอ่างเก็บน้ำจากเขื่อนลำคันฉูก็ไม่เพียงพอต่อการใช้น้ำของชุมชนอยู่แล้วรวมถึงการช่วงชิงแหล่งน้ำสาธารณะสำคัญ๑ใน๔ของอำเภอบำเหน็จณรงค์อย่างบึงทะเลสีดอเพื่อเอามาใช้เป็นที่เก็บน้ำปีละ๕ล้านลูกบาศก์เมตรที่ผันมาจากอ่างเก็บน้ำจากเขื่อนลำคันฉูที่ถูกระบุไว้ใน EIA และประทานบัตรเหมืองแร่โปแตชและเกลือหินของบริษัทฯซึ่งเป็นประเด็นสำคัญที่กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดบำเหน็จณรงค์ยืนยันคัดค้านไม่ให้บริษัทฯใช้บึงทะเลสีดอตลอดมา
รวมไปถึงการตั้งคำถามถึงการได้มาของการอนุญาตให้ใช้บึงทะเลสีดอใน EIA และประทานบัตรเหมืองแร่โปแตชและเกลือหินโดยไม่ผ่านเวทีประชาคมชาวบ้านแต่อย่างใดนั้นเป็นไปได้อย่างไร
และเมื่อ‘EIA โรงไฟฟ้าถ่านหิน’ ของเหมืองแร่โปแตชยืนยันตาม‘EIA และประทานบัตรเหมืองแร่โปแตชและเกลือหิน’ ว่าจะยึดบึงทะเลสีดอไปใช้ในโครงการอีกครั้งจึงถูกต่อต้านและคัดค้านจากประชาชนอย่างหนักหน่วงมากขึ้น
ดังนั้นผลของคำสั่งคชก. ที่มีมติไม่ให้ความเห็นชอบ EIA รอบที่สองของโรงไฟฟ้าถ่านหินในเหมืองโปแตชและเกลือหินของบริษัทฯทำให้บริษัทฯต้องนับหนึ่งใหม่โดยเริ่มกระบวนการจัดทำและยื่นให้พิจารณา EIA ใหม่ตั้งแต่ขั้นตอนเริ่มต้นนั่นก็คือจะต้องดำเนินการตามแนวทางการมีส่วนร่วมของประชาชนและการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมทางสังคมและแนวทางการประเมินผลกระทบทางสุขภาพใน EIA ด้วย
ซึ่งเวทีต่างๆที่เคยจัดหลอกลวงชาวบ้านและส่วนราชการดังเช่นเวทีรับฟังความคิดเห็นครั้งที่๑และ๒ในรอบปี๒๕๕๘ที่ผ่านมาเพื่อหวังได้รายชื่อชาวบ้านสนับสนุนโรงไฟฟ้าถ่านหินนำไปแนบยัดใส้ไว้ใน EIA ที่ไม่ผ่านความเห็นชอบทั้งสองรอบที่ผ่านมาจะนำมาใช้อ้างใน EIA ใหม่ไม่ได้อีกต่อไป
_____
ข้อมูลเพิ่มเติม:
๑. โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม (โดยใช้ถ่านหินบิทูมินัสเป็นเชื้อเพลิง) สำหรับโครงการเหมืองแร่โปแตชและเกลือหินของบริษัทอาเซียนโปแตชชัยภูมิจำกัด (มหาชน) มีกำลังผลิต 55 เมกกะวัตต์ซึ่งสถานีไฟฟ้าแรงสูงบำเหน็จณรงค์ยืนยันกลับมายังชาวบ้านกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดฯว่าสามารถรองรับการจ่ายไฟให้กับผู้ใช้ไฟฟ้าได้อีกประมาณ 130 เมกกะวัตตต์หากบริษัทฯมีการขอรับไฟฟ้าผ่านทางสถานีไฟฟ้าแรงสูงบำเหน็จณรงค์ในปริมาณ 55 เมกกะวัตต์จะไม่มีปัญหาเรื่องความไม่เพียงพอหรือขาดแคลนของกระแสไฟฟ้าที่จ่ายให้อำเภอบำเหน็จณรงค์แต่อย่างใดและกรณีถ้ามีโรงงานอุตสาหกรรมที่ต้องการใช้ไฟฟ้าประมาณ 55 เมกกะวัตต์หรือมากกว่าสถานีไฟฟ้าแรงสูงบำเหน็จณรงค์ยังมีความพร้อมและสามารถรองรับการจ่ายไฟได้ดังนั้นโรงไฟฟ้าถ่านหินขนาด 55 เมกกะวัตต์ของบริษัทฯจึงไม่มีความจำเป็นใดๆในการก่อสร้างหากพิจารณาในแง่ของการใช้กระแสไฟฟ้าในกิจการเหมืองแร่ฯแต่บริษัทฯก็ยังคงยืนยันและดึงดันต่อไปโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบระยะยาวต่อชุมชนและเป็นประเด็นที่คชก.ให้บริษัทฯชี้แจง
๒. ตลอดระยะเวลาการต่อต้านคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินโดยสันติวิธีทั้งการยื่นหนังสือคัดค้านไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องการติดป้ายประท้วงโครงการการจัดกิจกรรมรณรงค์ในชุมชนฯลฯกลับได้รับการข่มขู่คุกคามจากเจ้าหน้าที่รัฐเช่นกำนันผู้ใหญ่บ้านทหารตำรวจโดยห้ามชาวบ้านแสดงออกถึงการปกป้องถิ่นฐานบ้านเกิดและชุมชนจากมลพิษถ่านหินและผลกระทบด้านอื่นๆที่ตามมาและแม้ว่าคชก. จะมีมติไม่ให้ความเห็นชอบรอบที่สองซึ่งส่งผลต่อการกลับไปสู่กระบวนการเริ่มจัดทำ EIA ของบริษัทฯใหม่อีกครั้งชาวบ้านกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดบำเหน็จณรงค์ก็ยังยืนยันที่จะคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินของบริษัทฯต่อไปและจะเฝ้าระวังผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการเริ่มกิจการของเหมืองแร่โปแตชของบริษัทฯอย่างต่อเนื่องเพื่อเฝ้าระวังการย้อนกลับมาของโรงไฟฟ้าถ่านหินซึ่งเป็นพลังงานสกปรกไม่ให้เกิดขึ้นกับชุมชนในอนาคต
_____
รูปประกอบทั้งสามณวัดหัวทะเลต.หัวทะเลอ.บำเหน็จณรงค์จ.ชัยภูมิเมื่อวันที่๒๕ธันวาคม๒๕๕๙ถ่ายรูปรณรงค์ร่วมกันหลังประชุมวิเคราะห์สถานการณ์และวางแผนการทำงานร่วมกันเสร็จสิ้น
