ThaiNGO team support only thaingo.org and thaingo.in.th.

เว็บไซต์ที่ทีมงาน thaingo ดูแลคือ thaingo.org และ thaingo.in.th เท่านั้น

Back

คัดค้านการแก้ไขปัญหาข้าวโพดเพื่อเอื้อประโยชน์กลุ่มนายทุนอาหารสัตว์

คัดค้านการแก้ไขปัญหาข้าวโพดเพื่อเอื้อประโยชน์กลุ่มนายทุนอาหารสัตว์

11 November 2016

1296

แถลงการณ์ สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เรื่อง คัดค้านการแก้ไขปัญหาข้าวโพดเพื่อเอื้อประโยชน์กลุ่มนายทุนอาหารสัตว์ ( ขอบคุณภาพจาก : http://www.farmkaset.org/contentsnet/default.aspx?content=01881 ) ………………………. ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการบริหารจัดการการนำเข้าวัตถุดิบอื่นทดแทนข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2559 ที่ผ่านมาโดยกำหนดให้ข้าวสาลีเป็นสินค้าที่ต้องขออนุญาตและต้องปฏิบัติตามมาตรการจัดระเบียบในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พร้อมทั้งกำหนดสัดส่วนการนำเข้าข้าวสาลี ต่อการรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศ ในอัตราส่วน 1 : 3 (นำเข้าข้าวสาลี 100 ตัน รับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศ 300 ตัน) โดยกำหนดให้ผู้นำเข้าข้าวสาลีนำเข้ามาเพื่อใช้ในการผลิตอาหารสัตว์ตามมติคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (นบขพ.) เท่านั้นโดยไม่มีผลย้อนหลังนั้น กรณีดังกล่าวถือเป็นกลเล่ห์เพทุบายของกระทรวงพาณิชย์ ที่นำมาหลอกคณะรัฐมนตรีให้ผิดหลง เพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับกลุ่มนายทุนผู้ประกอบการอาหารสัตว์ขนาดใหญ่ที่มีอำนาจเหนือตลาดรับซื้อข้าวโพดเท่านั้น ทั้งนี้เพราะกลุ่มผู้ประกอบการดังกล่าวได้นำเข้าข้าวสาลีมาสต๊อกไว้จนเต็มไซโลของตนแล้ว โดยในช่วงเดือน ม.ค. - ก.ย. 59 ที่ผ่านมามีการนำเข้าข้าวสาลีมาแล้ว 2.7 ล้านตัน และขณะนี้มีเรือเดินทะเลบรรทุกข้าวสาลีมารอขึ้นท่าเรืออยู่ถึง 8 ลำ (1 ลำเรือประมาณ 6 หมื่นตัน, ถ้า 8 ลำก็ประมาณ 5 แสนตัน) กรณีผู้ประกอบการอาหารสัตว์ขนาดใหญ่ออกมาทำตัวเป็นพระเอกเปิดรับซื้อข้าวโพดจากเกษตรในขณะนี้จึงเป็นเพียงเล่ห์ฉลในการสร้างภาพให้ดูดีเท่านั้น ดังนั้นปริมาณการสต๊อกข้าวสาลีเพื่อนำมาทดแทนข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จึงไม่มีผลต่อราคาข้าวโพดในท้องตลาดที่เกษตรกรยังคงขายได้เพียง 3 บาทต่อ กก.เท่านั้นในขณะนี้ นอกจากนี้คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ได้ออกประกาศให้ข้าวสาลีเป็นสินค้าควบคุมมาตั้งแต่วันที่ 21 มกราคม 2559 ตาม พรบ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ 2542 แต่กระทรวงพาณิชย์ก็ไม่สามารถกำกับ ดูแลและรักษาเสถียรภาพราคาสินค้าเกษตรที่ใช้เป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์ในภาพรวมได้ เพราะการลดภาษีนำเข้าข้าวสาลีจาก 27 % เหลือ 0 % ทำให้ผู้ประกอบการอาหารสัตว์ไม่ต้องใช้ข้าวโพด มันสำปะหลัง และปลายข้าว หรือพืชคาร์โบไฮเดรทมาผสมเป็นอาหารสัตว์อีกต่อไป เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลังราคาตกต่ำสุด ๆ อยู่ในขณะนี้ สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงขอเรียกร้องมายังรัฐบาลได้ทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวานนี้โดย “ให้กำหนดสัดส่วนการนำเข้าข้าวสาลี ต่อการรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศ ในอัตราส่วน 1 : 3 นับแต่วันที่ 21 ม.ค.59 เป็นต้นมา” พร้อมกับยกเลิกการลดภาษีนำเข้าข้าวสาลีจาก 0 % กลับไปที่ 27% ตามเดิม และต้องกำหนดมาตรการชดเชยเยียวยาเกษตรกรชาวไร่ข้าวโพดที่ปลูกโดยสุจริตที่เสียหายอันเนื่องมาจากมาตรการของรัฐดังกล่าวด้วย นอกจากนั้นให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนเอาผิดข้าราชการและผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ที่เอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มผู้ประกอบการอาหารสัตว์ขนาดใหญ่ ที่เป็นต้นเหตุทำให้ราคาพืชอาหารสัตว์ตกต่ำดังกล่าวด้วยภายใน 30 วัน อนึ่ง กรณีความเสียหายที่เกิดขึ้นมาแล้วดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย และตัวแทนเกษตรกรชาวไร่ข้าวโพด จะนำความไปยื่นร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดินในวันพฤหัสที่ 10 พฤศจิกายน 2559 เวลา 11.00 น. ณ ห้อง 903 ศูนย์ราชการฯ อาคาร B ถนนแจ้งวัฒนะ หลักสี่ กทม. ด้วย ประกาศมา ณ วันที่ 9 พฤศจิกายน 2559 นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย

Recent posts