Advertisement

Banner 600x250 px

Advertise with us

ThaiNGO team support only thaingo.org and thaingo.in.th.

เว็บไซต์ที่ทีมงาน thaingo ดูแลคือ thaingo.org และ thaingo.in.th เท่านั้น

Back

แถลงการณ์สาธารณะ เรื่อง การเดินทางออกนอกราชอาณาจักรไทย

แถลงการณ์สาธารณะ เรื่อง การเดินทางออกนอกราชอาณาจักรไทย

11 November 2016

1074

- 7 พฤศจิกายน 2559 แม้นศาลฎีกาจะได้มีคำพิพากษาดังที่ศาลจังหวัดพระโขนงได้อ่านเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2559 ในคดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้องผม และบริษัท เนเชอรัลฟรุต จำกัด เป็นโจทก์ร่วม โดยผมมีฐานะเป็นนักวิจัยและนักสิทธิมนุษยชนด้านแรงงานข้ามชาติ ซึ่งถูกฟ้องเป็นคดีอาญา ข้อหาหมิ่นประมาทจากการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอัลจาซีราที่ประเทศเมียนมาร์ เมื่อปี 2556 โดยได้กล่าวถึงงานวิจัยเรื่องการละเมิดสิทธิแรงงานข้ามชาติในอุตสาหกรรมผลิตอาหารสำเร็จรูปในประเทศไทยและกล่าวถึงประสบการณ์จากการถูกบริษัท เนเชอรัลฟรุต จำกัด ดำเนินการคดีอาญา โดยคดีดังกล่าวศาลฎีกามีคำพิพากษายกฟ้องแล้ว ก็ตาม จากการที่ผมได้ทุ่มเททำงานปกป้องสิทธิมนุษยชนมามากกว่า 11 ปี เพื่อมุ่งหวังให้ชีวิตความเป็นอยู่ของแรงงานข้ามชาติในประเทศไทยสามารถมีชีวิตที่ดีขึ้นโดยได้รับสิทธิแรงงานและสิทธิอื่นตามกฎหมายไทยอย่างครบถ้วน แต่ในความเป็นจริงกลับมิได้เป็นเช่นนั้น เพราะในการทำงานเรื่องดังกล่าวนี้ ยังมีอุปสรรคอยู่อีกมากโดยเฉพาะเมื่อมีปัญหากับผู้ประกอบการ ดังเช่นคำพิพากษาของศาลอาญากรุงเทพใต้ เมื่อวันที่ 20 กันยายน2559 ที่ผ่านมา ซึ่งมีคำพิพากษาลงโทษผมในความผิดทางอาญาฐานหมิ่นประมาทและพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ฯ โดยมีมูลเหตุมาจากการที่องค์กรต่างประเทศคือ Finnwatch ได้ตีพิมพ์รายงานสถานการณ์การละเมิดสิทธิแรงงานในอุตสาหกรรมสับปะรดกระป๋องโดยผมเป็นนักวิจัยร่วมในรายงานวิจัยฉบับนี้ ซึ่งศาลตัดสินว่าจำเลยกระทำผิดจริง ลงโทษจำคุก 4 ปี ปรับ 200,000 บาท แต่จำเลยให้การเป็นประโยชน์ต่อศาล จึงลดโทษให้ 1 ใน 4 คงเหลือโทษจำคุก 3 ปี และปรับ 150,000 บาท และเนื่องจากจำเลยเป็นนักกิจกรรมที่ทำประโยชน์เพื่อสังคม จึงให้โทษจำคุกรอไว้ และนอกจากคดีนี้แล้ว ยังมีปัญหาแรงงานข้ามชาติที่มีความจำเป็นต้องดำเนินการฟ้องคดีแรงงานกับผู้ประกอบการฟาร์มเลี้ยงไก่ในจังหวัดลพบุรี เป็นอีกกรณีหนึ่งด้วย ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นข้อพิพาทแรงงานที่ส่งผลให้เกิดอุปสรรคในด้านการพัฒนาสิทธิมนุษยชนของแรงงานข้ามชาติ อันทำให้การทำงานของผมยากลำบากยิ่งขึ้น แม้ในขณะนี้ รัฐบาลไทยจะให้ความร่วมมือและช่วยเหลืออยู่บ้างแล้ว ก็ตาม โดยผมเองยอมรับว่าสถานการณ์บางอย่างของแรงงานข้ามชาติ ก็ดีขึ้นบ้างแล้ว เพราะผมกับทีมงานองค์กรพัฒนาเอกชนและสหภาพแรงงาน ได้ทำงานร่วมกันเป็นภาคีกับสถานประกอบการหลายแห่ง รวมทั้ง รัฐบาลและลูกค้าต่างประเทศ ด้วย แต่เนื่องจากในช่วงเวลานี้สถานการณ์การต่อสู้เรื่องสิทธิแรงงานข้ามชาติสำหรับผมและคนที่ทำงานปกป้องสิทธิเหล่านี้ต้องเผชิญกับความรุนแรงและความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้น ผมจึงคิดว่าเพื่อให้สถานการณ์ลดความตึงเครียดลง และให้เวลาหลายฝ่ายได้ตระหนักและทำความเข้าใจถึงสิทธิมนุษยชนด้านแรงงานข้ามชาติและความจำเป็นที่นักปกป้องสิทธิมนุษยชนควรได้รับการส่งเสริมและคุ้มครองมากขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้สามารถทำงานอย่างจริงจังได้ โดยปราศจากการถูกข่มขู่คุกคามและการดำเนินคดีเพื่อสกัดกั้นการทำงาน ผมจึงได้หารือกับเพื่อนร่วมงานและทีมทนายความ ในเรื่องที่ผมจะเดินทางออกนอกราชอาณาจักรไทยโดยยังไม่มีกำหนดกลับประเทศไทย และสุดท้ายผมได้ตัดสินใจเดินทางออกนอกประเทศไทยในวันนี้ตามที่ผมเตรียมการและตั้งใจไว้ ส่วนในเรื่องการดำเนินคดีกับบุคคลต่างๆ ผมได้มอบอำนาจให้หัวหน้าทีมทนายความดำเนินการแทน และมอบหมายงานที่จำเป็นให้กับทีมงานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อานดี้ฮอลล์ สนามบินสุวรรณภูมิ 07.11.2016

Recent posts